ABSTRACT: Background: Fetal movemen

ABSTRACT: Background: Fetal movement counting may improve timely identification of
decreased fetal activity and thereby contribute to prevent adverse pregnancy outcomes, but it
may also contribute to maternal concern. This study aimed to test whether fetal movement
counting increased maternal concern. Methods: In a multicenter, controlled trial 1,013
women with a singleton pregnancy were randomly assigned either to perform daily fetal movement
counting from pregnancy week 28 or to follow standard Norwegian antenatal care where
fetal movement counting is not encouraged. The primary outcome was maternal concern, measured
by the Cambridge Worry Scale. Analysis was by intention-to-treat. Results: The means
and SDs on Cambridge Worry Scale scores were 0.77 (0.55) and 0.90 (0.62) for the intervention
and the control groups, respectively, a mean difference between the groups of 0.14 (95%
CI: 0.06–0.21, p < 0.001). Decreased fetal activity was of concern to 433 women once or more
during pregnancy, 45 and 42 percent in the intervention and control groups, respectively (relative
risk = 1.1, 95% CI: 0.9–1.2). Seventy-nine percent of the women responded favorably to
the use of counting charts. Conclusions: Women who performed fetal movement counting in
the third trimester reported less concern than those in the control group. The frequency of
maternal report of concern about decreased fetal activity was similar between the groups. Most
women considered the use of a counting chart to be positive. (BIRTH 39:1 March 2012)
Key words: antenatal care, concern, fetal movement, fetal movement counting, worry

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ: พื้นหลัง: การเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์นับอาจปรับปรุงการระบุเวลาที่เหมาะสมของ
กิจกรรมของทารกในครรภ์ลดลงและจึงมีส่วนร่วมในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ผล แต่มัน
ยังอาจนำไปสู่ความกังวลของมารดา การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์
ที่เพิ่มขึ้นนับกังวลของมารดา วิธีการ: ใน multicenter ควบคุมการทดลอง 1013
ผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์เดี่ยวถูกสุ่มอย่างใดอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์
นับจากสัปดาห์ที่ 28 ของการตั้งครรภ์หรือการปฏิบัติตามมาตรฐานการฝากครรภ์นอร์เวย์ที่
การเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์นับไม่ได้รับการสนับสนุน ผลหลักคือความกังวลของมารดาวัด
โดยเคมบริดจ์กังวลชั่ง การวิเคราะห์โดยความตั้งใจที่จะรักษา ผลการศึกษา: วิธีการ
และ SDs คะแนนเคมบริดจ์เป็นกังวลขนาด 0.77 (0.55) และ 0.90 (0.62) สำหรับการแทรกแซง
และกลุ่มควบคุมตามลำดับค่าเฉลี่ยความแตกต่างระหว่างกลุ่มของ 0.14 (95%
CI: 0.06-0.21, p < 0.001) การลดลงของกิจกรรมของทารกในครรภ์มีความกังวลเกี่ยวกับผู้หญิง 433 ครั้งหรือมากขึ้น
ในระหว่างตั้งครรภ์ 45 และร้อยละ 42 ในการแทรกแซงและกลุ่มควบคุมตามลำดับ (เทียบ
ความเสี่ยง = 1.1, 95% CI: 0.9-1.2) ร้อยละเจ็ดสิบเก้าของผู้หญิงที่ตอบสนองต่อการสนับสนุนให้
การใช้งานของชาร์ตนับ สรุป: ผู้หญิงที่ดำเนินการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์นับใน
ไตรมาสที่สามที่มีการรายงานความกังวลน้อยกว่ากลุ่มควบคุม ความถี่ของการ
รายงานมารดาของความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมของทารกในครรภ์ลดลงใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่ม ส่วนใหญ่
ผู้หญิงที่ถือว่าใช้แผนภูมิการนับจะเป็นบวก (เกิด 39: 1 มีนาคม 2012)
คำสำคัญ: การฝากครรภ์กังวลการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์การเคลื่อนไหวของทารกนับกังวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อพื้นหลัง : ทารกในครรภ์เคลื่อนไหวนับอาจจะปรับปรุงตัวทันเวลา
กิจกรรมลดลงและส่งผลให้ทารกในครรภ์จึงป้องกันผลลัพธ์ของการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ แต่อาจส่งผลให้มารดาเป็นห่วง
. การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าทารกในครรภ์เคลื่อนไหว
นับความกังวลของมารดาที่เพิ่มขึ้น วิธีการ : ในสหทดลอง 1013
ผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์สุ่มแบ่งให้โรงพยาบาลดำเนินการทุกวัน ทารกในครรภ์เคลื่อนไหว
นับจากการตั้งครรภ์สัปดาห์ 28 หรือตามมาตรฐานการดูแลครรภ์ที่นอร์เวย์
ทารกในครรภ์เคลื่อนไหวนับไม่ส่งเสริม ผลของการเป็นกังวล , วัด
โดยเคมบริดจ์กังวลมาตราส่วน การวิเคราะห์ตามความตั้งใจที่จะรักษา ผลลัพธ์ : หมายถึง
SDS ในเคมบริดจ์และกังวลคะแนนขนาดเท่ากับ 0.77 ( 0.55 ) และ 0.90 ( 1 ) สำหรับการแทรกแซง
และกลุ่มควบคุมตามลำดับ ค่าเฉลี่ยของความแตกต่างระหว่างกลุ่มของ 0.14 ( 95% CI : 0.06 - -
, P < 0.001 ) ลดลงของกิจกรรมคือ เป็นห่วง ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งหรือมากกว่า
ในระหว่างการตั้งครรภ์ , 45 และ 42 เปอร์เซ็นต์ในการทดลองและกลุ่มควบคุมตามลำดับ ( เทียบ
ความเสี่ยง = 1.1 , 95% CI : 09 ( 1.2 ) เจ็ดสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงตอบสนองพ้องต้องกัน
ใช้นับแผนภูมิ สรุป : ผู้หญิงที่แสดงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์นับ
ไตรมาสที่ 3 รายงานความกังวลน้อยกว่ากลุ่มควบคุม ความถี่ของการรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมของทารกในครรภ์มารดาลดลงใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่ม
ที่สุดผู้หญิงพิจารณาใช้แผนภูมินับเลขเป็นบวก ( เกิด 39:1 มีนาคม 2012 )
คำสำคัญ : การดูแลครรภ์ , ความกังวลของทารกในครรภ์ การเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ การเคลื่อนไหวนับ ความกังวล