สรุปความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับรัฐ
“ รัฐ “ คือชุมชนทางการเมืองของประชาชน ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกันในดินแดนที่แน่นอนรวมกันอยู่ภายใต้รัฐบาลเดียวกัน มีอิสระในการกำหนดระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ออกมาใช้เองได้มีอำนาจอธิปไตยปราศจากการแทรกแซงจากรัฐอื่น ๆ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมวัฒนธรรม
องค์ประกอบ ที่สำคัญของรัฐไว้ 4 ประการ คือ
1) ประชากร (Population)
2) ดินแดน (Territory)
3) รัฐบาล (Government)
4) อำนาจอธิปไตย (Sovereignty)
การกำเนิดรัฐ (Origin of State)ได้ประมวลไว้ 5 ทฤษฎี คือ
1) ทฤษฎีเทวสิทธิ์ (The Theory of the Divine Origin of State)
2) ทฤษฎีสัญญาประชาคม (The Social Contract Theory)
3) ทฤษฎีธรรมชาติ (The National Theory)
4) ทฤษฎีพลกำลัง (The Force Theory)
5) ทฤษฎีวิวัฒนาการ (Evolutionary Theory)
การรับรองรัฐ (Recognition) มี 2 ประเภท คือ
1) การรับรองโดยพฤตินัยหรือตามข้อเท็จจริง (De Facto)
2) การรับรองโดยนิตินัยหรือตามกฎหมาย (De Jure)
รูปของรัฐ ในแบบการแบ่งสันอำนาจ (Distribution of power) ไว้ 2 แบบ คือ
1) รัฐเดี่ยว (Unitary Government)
2) รัฐรวม (Federal Government)
รูปรัฐบาล เป็น 3 แบบ คือ
1) รัฐสภาแบบรัฐสภา
2) รัฐสภาแบบประธานาธิบดี
3) รัฐสภาแบบกึ่งสภาและกึ่งประธานาธิบดี
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน
หน้าที่ของรัฐที่มีต่อประชาชน
1) การให้ความมั่นคงแก่ประชาชน ได้แก่ การที่รัฐให้ความปลอดภัยต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคล
2) รักษาความเป็นเอกราช เป็นหน้าที่เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของชาติ ทำให้ประชาชนได้มีชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรี
3) ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนทั่วไป คือ ให้บุคคลได้มีโอกาสได้รับประโยชน์ต่างๆโดยเท่าเทียมกัน ที่สำคัญได้แก่ โอกาสในการศึกษา โอกาสในการประกอบอาชีพ
4) ให้สิทธิและเสรีภาพแก่ประชาชน ได้แก่ สิทธิและเสรีภาพในร่างกาย การนับถือศาสนา การพูด
5) ให้สวัสดิการแก่ประชาชน ได้แก่ มีอาหารบริโภค มีที่อยู่อาศัย มีการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย
6) รักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยนับว่าสำคัญมากเพราะจะช่วยเหลือเกื้อกูลให้ประชาชนได้มีความสุข
7) การดำเนินงานในการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หมายถึง การรักษาสัมพันธไมตรีอันดีกับนานาชาติ
8) การหารายได้เพื่อบำรุงและพัฒนาประเทศชาติ
9) การจัดการด้านธุรกิจ เป็นหน้าที่พิเศษที่เกิดขึ้นในระยะหลลัง คือ รัฐต้องเข้าดำเนินการบางอย่างในเชิงการค้าเพื่ออำนวยประโยชน์และความสุขสมบูรณ์แก่ชุมชน
หน้าที่ของประชาชนที่มีต่อรัฐ
1) การปฏิบัติตามกฎหมายและศีลธรรมอันดี เพื่อช่วยให้สังคมมีความสงบสุข
2) มีส่วนร่วมในการป้องกันประเทศ
3) การรักษาสาธารณประโยชน์ สาธารณสมบัติ
4) การชำระภาษีอากร เพื่อรัฐจะได้มีรายไดในการดำเนินการต่างๆ
5) มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ
6) มีส่วนร่วมในการปกครองและรักษาระบบการปกครองที่ดีไว้
ความสัมพันธ์ของรัฐบาลประชาธิปไตยกับประชาชน
ระบบการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย มีพื้นฐานความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับมนุษย์ ที่ต่างจากระบอบเผด็จการอย่างมาก เพราะประชาธิปไตยนั้น หมายถึง ระบอบการปกครองที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคนส่วนใหญ่ ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงจะต้องเป็นการปกครองโดยรัฐบาลที่ได้รับความนิยมจากประชาชน และปกครองเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ สิ่งที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนคือวิธีการกำหนดนโยบาย ซึ่งในการกำหนดนโยบายรัฐบาลจะต้องมีกลไกสำคัญที่จะทำให้การบริหารราชการมีความถูกต้อง ตั้งอยู่บนหลักเกณฑ์เดียวกันและมีความยุติธรรม กลไกดังกล่าวคือ กฎหมาย
ความสัมพันธ์ของรัฐบาลเผด็จการกับประชาชน
รัฐบาลเผด็จการไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง แต่จะกลับพยายามเข้าควบคุมประชาชนด้วยวิธีการต่างๆหน้าที่ของประชาชนนั้นจะมีอยู่อย่างจำกัดตามที่รัฐกำหนดให้เท่านั้น ประชาชนมีบทบาทและหน้าที่ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบาย ประชาชนมีหน้าที่สำคัญคือ เป็นผู้มีวินัย มีหน้าที่ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐ ต้องเชื่อฟัง ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง กฎเกณฑ์ ระเบียบวินัยโดยเคร่งครัด