The Leaning Tower of Pisa (Italian:

The Leaning Tower of Pisa (Italian: Torre pendente di Pisa) or simply the Tower of Pisa (Torre di Pisa) is the campanile, or freestanding bell tower, of the cathedral of the Italian city of Pisa, known worldwide for its unintended tilt to one side. It is situated behind the Cathedral and is the third oldest structure in Pisa's Cathedral Square (Piazza del Duomo) after the Cathedral and the Baptistry. The tower's tilt began during construction, caused by an inadequate foundation on ground too soft on one side to properly support the structure's weight. The tilt increased in the decades before the structure was completed, and gradually increased until the structure was stabilized (and the tilt partially corrected) by efforts in the late 20th and early 21st centuries.
The height of the tower is 55.86 metres (183.27 feet) from the ground on the low side and 56.67 metres (185.93 feet) on the high side. The width of the walls at the base is 2.44 m (8 ft 0.06 in). Its weight is estimated at 14,500 metric tons (16,000 short tons).[1] The tower has 296 or 294 steps; the seventh floor has two fewer steps on the north-facing staircase. Prior to restoration work performed between 1990 and 2001, the tower leaned at an angle of 5.5 degrees,[2][3][4] but the tower now leans at about 3.99 degrees.[5] This means that the top of the tower is displaced horizontally 3.9 metres (12 ft 10 in) from where it would be if the structure were perfectly vertical.[6]
Architect
There has been controversy about the real identity of the architect of the Leaning Tower of Pisa. For many years, the design was attributed to Guglielmo and Bonanno Pisano,[7] a well-known 12th-century resident artist of Pisa, famous for his bronze casting, particularly in the Pisa Duomo. Bonanno Pisano left Pisa in 1185 for Monreale, Sicily, only to come back and die in his home town. A piece of cast with his name was discovered at the foot of the tower in 1820, but this may be related to the bronze door in the façade of the cathedral that was destroyed in 1595. However, recent studies[8] seem to indicate Diotisalvi as the original architect due to the time of construction and affinity with other Diotisalvi works, notably the bell tower of San Nicola and the Baptistery, both in Pisa. However, he usually signed his works and there is no signature by him in the bell tower which leads to further speculation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หอเอนเมืองปิซา (อิตาลี: Torre pendente di Pisa) หรือเพียงแค่หอ pisa (di Pisa หอคอย) เป็นหอระฆังหรืออิสระหอระฆังของโบสถ์ของเมือง italian ของ pisa หรือที่รู้จักกันทั่วโลกสำหรับการเอียงที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะ ด้านใดด้านหนึ่งมันจะตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์และเป็นโครงสร้างที่เก่าแก่ที่สุดที่สามใน pisa มหาวิหารตารางเมตร (Piazza del Duomo) หลังจากโบสถ์และพิธีศีลจุ่ม เอียงหอคอยเริ่มในระหว่างการก่อสร้างที่เกิดจากรากฐานที่ไม่เพียงพอบนพื้นดินอ่อนเกินไปในด้านหนึ่งที่จะสนับสนุนอย่างถูกต้องน้ำหนักโครงสร้าง เอียงที่เพิ่มขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมาก่อนที่โครงสร้างเสร็จสมบูรณ์และค่อยๆเพิ่มขึ้นจนถึงโครงสร้างมีเสถียรภาพ (และเอียงแก้ไขบางส่วน) โดยความพยายามในการที่ 20 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 21 ต้น.
ความสูงของหอคอยเป็น 55.86 เมตร (183.27 ฟุต) จากพื้นดินในด้านต่ำและ 56.67 เมตร ( 185.93 ฟุต) ในด้านสูง ความกว้างของผนังที่ฐานคือ 2.44 เมตร (8 ฟุต 0.06 ใน) น้ำหนักของมันคือประมาณ 14,500 ตัน (16,. 000 ตันสั้น) [1] หอมี 296 หรือ 294 ขั้นตอน; ชั้นเจ็ดมีสองขั้นตอนน้อยลงบนบันไดหันหน้าไปทางทิศเหนือ ก่อนที่จะมีการบูรณะงานดำเนินการระหว่างปี 1990 และปี 2001 หอเอนที่มุม 5.5 องศา [2] [3] [4] แต่ตอนนี้หอเอนที่ประมาณ 3.99 องศา. [5] ซึ่งหมายความว่าด้านบนของหอ มีการย้ายแนวนอน 39 เมตร (12 ฟุต 10 ใน) จากที่มันจะถ้าโครงสร้างอยู่ในแนวตั้งอย่างสมบูรณ์แบบ. [6]

สถาปนิกได้มีการโต้เถียงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของสถ​​าปนิกของหอเอนเมืองปิซา เป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้รับการออกแบบมาประกอบกับ Guglielmo และโบนันโน pisano [7] ที่รู้จักกันดีในศตวรรษที่ 12 มีถิ่นที่อยู่ของศิลปิน pisa ที่มีชื่อเสียงสำหรับการหล่อบรอนซ์ของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Duomo pisaโบนันโน pisano ซ้าย pisa ใน 1185 เพื่อ Monreale, ซิซิลีเพียงเพื่อที่จะกลับมาและตายในบ้านของเขาในเมือง ชิ้นส่วนของนักแสดงที่มีชื่อของเขาถูกค้นพบที่เท้าของหอในปี 1820 แต่เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับประตูสีบรอนซ์ในด้านหน้าของโบสถ์ที่ถูกทำลายใน 1595 อย่างไรก็ตามการศึกษาที่ผ่านมา [8] ชี้ให้เห็น diotisalvi เป็นสถาปนิกเดิมเนื่องจากเวลาของการก่อสร้างและความสัมพันธ์กับผลงานอื่น ๆ diotisalvi สะดุดตาที่หอระฆังของ San Nicola และพิธีศีลจุ่มทั้งใน pisa แต่เขามักจะลงนามในผลงานของเขาและมีลายเซ็นโดยไม่มีเขาอยู่ในหอระฆังซึ่งนำไปสู่​​การเก็งกำไรต่อไป.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พิงทาวเวอร์ปิซา (อิตาลี: ทอร์เรคา pendente di Pisa) หรือเพียงแค่หอปิซา (ทอร์เรคา di Pisa) แคมพาไนล์ หรือหอระฆังลอย ของมหาวิหารในอิตาลีเมืองปิซา รู้จักกันทั่วโลกสำหรับความตั้งใจเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง จะอยู่ด้านหลังวิหาร และ ที่สามโครงสร้างเก่าแก่ที่สุดในของปิซาคาทรีดัลสแควร์ (Piazza del บุหรี่) วิหารและ Baptistry ที่ เอียงของทาวเวอร์เริ่มต้นในระหว่างการก่อสร้าง เกิดจากรากฐานไม่เพียงพอเราอ่อนเกินไปด้านหนึ่งเพื่อรองรับน้ำหนักของโครงสร้างได้อย่างถูกต้อง ความลาดเอียงเพิ่มขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมาก่อนที่โครงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนกว่าโครงสร้างที่เสถียร (และความลาดเอียงแก้ไขบางส่วน) โดยความพยายามใน 21 20 และช่วงปลายศตวรรษ.
ความสูงของหอเป็น 55.86 เมตร (183.27 ฟุต) จากพื้นดินในด้านต่ำและ 56.67 เมตร (185.93 ฟุต) ทางด้านสูง ความกว้างของผนังที่ฐานเป็น 2.44 เมตร (8 ฟุต 0.06 ใน) น้ำหนักตัวจะประมาณที่ 14,500 เมตริกตัน (16000 สั้นตัน)[1] ทาวเวอร์ที่มีขั้นตอนที่ 296 หรือ 294 ชั้นเจ็ดมีสองขั้นตอนน้อยลงในทางหันหน้าไปทางเหนือ ก่อนที่จะคืนค่างานที่ทำระหว่าง 1990 และปี 2001 หอเองที่มุมองศา 5.5, [2] [3] [4] แต่หอเอนนี้ที่ประมาณ 3.99 องศา[5] นี้หมายถึงด้านบนสุดของหอคอยที่พลัดถิ่นในแนวนอน 39 เมตร (12 ฟุต 10 ใน) จากการที่มันจะเป็นถ้าโครงสร้างได้อย่างสมบูรณ์แบบแนวตั้ง[6]
สถาปนิก
ได้มีการถกเถียงเกี่ยวกับตัวจริงของสถาปนิกพิงทาวเวอร์ของ Pisa หลายปี การออกแบบเกิดจากวิลเลียมและโบนาน Pisano, [7] ศิลปินประจำศตวรรษที่ 12 รู้จักของ Pisa สถานที่หล่อพระทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งปิซา โบนาน Pisano ซ้ายปิซาใน 1185 สำหรับมอนเรล ซิซิลี เฉพาะ การกลับมาตายในบ้านของเขา ชิ้นส่วนของนักแสดงที่มีชื่อของเขาถูกค้นพบบริเวณของหอใน 1820 แต่นี้อาจเกี่ยวข้องกับประตูทองในกระจกของโบสถ์ที่ถูกทำลายใน 1595 อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุด [8] ดูเหมือนจะ Diotisalvi เป็นสถาปนิกเดิมเนื่องจากใช้เวลาก่อสร้างและความสัมพันธ์กับงานอื่น ๆ Diotisalvi ยวดเชิร์ชเบลทาวเวอร์ของซาน Nicola และหอล้างบาป ในปิซา อย่างไรก็ตาม เขามักจะลงผลงาน และมีลายเซ็นไม่ตามเขาในหอระฆังซึ่งนำไปสู่การเก็งกำไรต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Leaning Tower ที่มี PISA ( di Torre pendente Pisa อิตาเลียน)หรือเลือกที่หอคอยของ Pisa ( Torre di Pisa )เป็นหอระฆังแบบไม่มีเสาตั้งหรือ Campanile ของโบสถ์ของเมืองแบบอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกของ Pisa สำหรับเอียงไม่ตั้งใจของทางด้านหนึ่งโรงแรมตั้งอยู่ทางด้านหลัง Cathedral และเป็นโครงสร้างที่สามที่เก่าแก่มากที่สุดใน Cathedral Square ของ Pisa ( Piazza del Duomo )หลังจาก Cathedral และ Baptistry พร้อม ก้มเงยของหอคอยที่เริ่มในระหว่างการก่อสร้างโดยมีสาเหตุมาจากพื้นฐานไม่เพียงพอที่อยู่บนดินอ่อนจนเกินไปในทางด้านหนึ่งเพื่อรองรับน้ำหนักของโครงสร้างให้ถูกต้อง ก้มเงยที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาหลายทศวรรษก่อนโครงสร้างที่เป็นที่เรียบร้อยแล้วและเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะปรับโครงสร้าง เสถียรภาพ แล้ว(และที่มุมก้มเงยแก้ไขบางส่วน)โดยความพยายามในช่วงปลาย 20 และช่วงต้นศตวรรษที่ 21 . N ที่ความสูงของหอคอยคือ 55.86 เมตร( 183.27 ฟุต)จากที่ดินในที่ต่ำและที่ด้านข้าง 56.67 เมตร( 185.93 ฟุต)บนที่สูงอีกด้านหนึ่ง ความกว้างของผนังที่ฐานที่มี 2.44 ม.( 8 ฟุต 0.06 นิ้ว) น้ำหนักของมันจะเป็นการประเมินที่ 14,500 เมตริกตัน( 16000 ในระยะทางสั้นๆเพื่อไปตัน).[ 1 ] Tower ได้มี 296 หรือ 294 ขั้นตอนชั้นที่เจ็ดมีสองขั้นตอนน้อยลงบนบันไดทางด้านทิศเหนือ - หันหน้าเข้าหา ก่อนที่จะใช้งานการกู้คืนให้กลับดำเนินการระหว่างปี 1990 และ 2001 หอเอนที่มุมของ 5.5 องศา[ 2 ]:[ 3 ],[ 4 ]แต่ Tower ที่ตัวเครื่องในตอนนี้ที่เกี่ยวกับ: 3.99 ล้านขึ้นไปผ่อนองศา.[ 5 ]นี้หมายความว่าด้านบนของหอคอยที่จะพลัดถิ่นในแนวนอน 39 เมตร( 12 ฟุต 10 ใน)จากสถานที่ซึ่งจะได้รับหากโครงสร้างที่มีในแนวตั้งอย่างสมบรูณ์แบบ.[ 6 ]

ซึ่งจะช่วยสถาปนิกมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับรหัสประจำตัวที่แท้จริงของสถาปัตยกรรมของหอเอนเมืองปิซ่า สำหรับช่วงระยะเวลาหลายปีการออกแบบที่เป็นผลจากนานาชาติ Guglielmo Marconi และ bonanno pisano [ 7 ]ศิลปินผู้อยู่อาศัยช่วงศตวรรษที่ 12 โดยเป็นที่รู้จักกันอย่างดีของ Pisa ที่มีชื่อเสียงสำหรับหล่อทองสัมฤทธิ์ของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Pisa Duomobonanno pisano ซ้าย Pisa ใน 1185 สำหรับ, Monreale Sicily เท่านั้นในการกลับมาและจะต้องตายในเมืองหลักของเขา ส่วนที่หล่อด้วยชื่อของเขาได้รับการสำรวจพบที่เท้าของ Tower ที่อยู่ในช่วงปี 1820 แต่ในส่วนนี้อาจเกี่ยวข้องกับประตูทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในอาคารของ Cathedral ที่ได้ถูกทำลายใน 1595 แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้การศึกษา[ 8 ]เป็นการแสดง diotisalvi เป็นสถาปนิกเดิมเนื่องจากมีเวลาของความสัมพันธ์กับการก่อสร้างและพร้อมด้วยการจัดแสดงงาน diotisalvi อื่นๆโดยเฉพาะที่หอระฆังของ San Nicola ' s และ Baptistery ที่ทั้งใน Pisa แต่ถึงอย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วเขาได้ลงนามผลงานของเขาและไม่มีลายเซ็นของเขาในหอระฆังซึ่งนำไปสู่การเก็งกำไรค่าเงินบาทต่อไป.