Array is a collection mainly using

Array is a collection mainly using similar data types that are stored into a common variable, forming (at least conceptually that may even be replicated into the memory hardware) a linear data structure.
An array is a particular method of storing elements of indexed data. Elements of data are logically stored sequentially in blocks within the array. Each element is referenced by an index, or subscripts.
The index is usually a number used to address an element in the array. For example, if you were storing information about each day in August, you would create an array with an index capable of addressing 31 values -- one for each day of the month. Indexing rules are language dependent, however most languages use either 0 or 1 as the first element of an array.
The concept of an array can be daunting to the uninitiated, but it is really quite simple. Think of a notebook with pages numbered 1 through 12. Each page may or may not contain information on it. The notebook is an array of pages. Each page is an element of the array 'notebook'. Programmatically, you would retrieve information from a page by referring to its number or subscript, i.e., notebook(4) would refer to the contents of page 4 of the array notebook.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาเรย์คือชุดส่วนใหญ่ใช้ชนิดข้อมูลที่คล้ายกันที่จะถูกเก็บไว้ในตัวแปรที่ร่วมกันก่อตัวขึ้น (อย่างน้อยแนวคิดว่าอาจจะซ้ำเข้ากับฮาร์ดแวร์หน่วยความจำ) โครงสร้างข้อมูลเชิงเส้น.
อาร์เรย์เป็นวิธีการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดเก็บองค์ประกอบของการจัดทำดัชนีข้อมูล . องค์ประกอบของข้อมูลจะถูกเก็บไว้มีเหตุผลตามลำดับในบล็อกภายในอาร์เรย์ แต่ละองค์ประกอบมีการอ้างอิงจากดัชนีหรือห้อย.
ดัชนีมักจะเป็นจำนวนที่ใช้ในการแก้ไของค์ประกอบในอาร์เรย์ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละวันในเดือนสิงหาคมคุณจะสร้างอาร์เรย์ที่มีค่าดัชนีความสามารถในการอยู่ 31 ค่า - หนึ่งสำหรับแต่ละวันของเดือน กฎการจัดทำดัชนีจะขึ้นอยู่กับภาษา แต่ภาษาส่วนใหญ่ใช้ทั้ง 0 หรือ 1 เป็นองค์ประกอบแรกของอาร์เรย์.
แนวคิดของอาร์เรย์สามารถที่น่ากลัวที่จะไม่ได้ฝึกหัด แต่มันเป็นจริงค่อนข้างง่าย คิดของโน้ตบุ๊คที่มีหน้าหมายเลข 1 ถึง 12 แต่ละหน้าอาจหรือไม่อาจมีข้อมูลเกี่ยวกับมัน โน๊ตบุ๊คเป็น array ของหน้า แต่ละหน้าเป็นองค์ประกอบของอาร์เรย์ 'โน๊ตบุ๊ค' โปรแกรมที่คุณจะดึงข้อมูลจากหน้าโดยอ้างถึงตัวเลขหรือห้อยของมันคือโน๊ตบุ๊ค (4) จะดูเนื้อหาของหน้า 4 ของโน้ตบุ๊คอาร์เรย์.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาร์เรย์คือ กลุ่มที่ใช้คล้ายกันชนิดข้อมูลที่เก็บในตัวแปรทั่วไป ขึ้นรูป (น้อยทางแนวคิดที่อาจจะถูกจำลองเป็นฮาร์ดแวร์หน่วยความจำ) โครงสร้างข้อมูลเชิงเส้นเป็นการ
อาร์เรย์เป็นวิธีการจัดเก็บองค์ประกอบของข้อมูลดัชนี องค์ประกอบของข้อมูลทางตรรกะถูกเรียงลำดับในบล็อกภายในอาร์เรย์ แต่ละองค์ประกอบมีการอ้างอิง โดยดัชนี ตัวห้อยได้
มักจะเป็นดัชนีตัวเลขที่ใช้อยู่ในอาร์เรย์ ตัวอย่าง ถ้าคุณได้จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละวันในเดือนสิงหาคม คุณจะสร้างอาร์เรย์ ด้วยดัชนีความสามารถในการแก้ปัญหาค่า 31 - หนึ่งในแต่ละวันของเดือน ดัชนีจะขึ้นอยู่กับ ภาษาแต่ภาษาส่วนใหญ่ใช้ค่า 0 หรือ 1 เป็นองค์ประกอบแรกของอาร์เรย์
แนวคิดของอาร์เรย์จะดูยุ่งยากไป uninitiated แต่ก็จริง ๆ ค่อนข้างง่าย คิดว่า ของโน๊ตบุ๊คที่ มีหน้ามีตัวเลข 1 ถึง 12 แต่ละหน้าอาจ หรืออาจไม่ประกอบด้วยข้อมูลใน โน้ตจะเป็นแถวหน้า แต่ละหน้าเป็นองค์ประกอบของแถวลำดับ 'โน้ต' เขียนโปรแกรม คุณจะดึงข้อมูลจากหน้า โดยอ้างอิงถึงตัวเลขหรือตัวห้อย เช่น notebook(4) จะดูเนื้อหาของหน้า 4 ของโน้ตบุ๊คอาร์เรย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความหลากหลายที่เป็นการรวบรวมเป็นหลักโดยใช้ ประเภท ข้อมูลที่คล้ายกันว่าจะถูกจัดเก็บไว้ในทั่วไปที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบ(อย่างน้อยตามแนวที่อาจได้รับการทำซ้ำหรือสำเนาหน่วยความจำในฮาร์ดแวร์ที่)โครงสร้างข้อมูลแบบ linear ที่.
ความหลากหลายที่เป็นวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งขององค์ประกอบการจัดเก็บข้อมูลจัดทำดัชนี องค์ประกอบของข้อมูลจะจัดเก็บไว้ตามลำดับในช่วงตึกอยู่ ภายใน ได้ แต่ละองค์ประกอบจะอ้างถึงโดยดัชนีที่หรือตัวห้อย.
ดัชนีโดยปกติแล้วจะใช้หมายเลขที่ใช้ในการแอดเดรสที่อยู่ในอาเรย์ ตัวอย่างเช่นหากคุณกำลังจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละวันในเดือนสิงหาคมคุณจะสร้างความหลากหลายที่มีดัชนีความสามารถในการอ้างถึงหน่วยความจำ( Addressing )ที่ 31 ค่าหนึ่งในแต่ละวันของเดือน กฎการจัดทำดัชนีหรือไม่มี ภาษา ขึ้นอยู่กับ ภาษา แต่ส่วนใหญ่จะใช้ 0 หรือ 1 เป็นส่วนแรกของความหลากหลาย.
แนวความคิดของความหลากหลายที่จะสามารถสร้างความกังวลให้กับไม่ได้ฝึกหัดแต่จะค่อนข้างเรียบง่าย คิดว่าของโน้ตบุ๊กที่ใช้หน้าเลข 1 ถึง 12 แต่ละหน้าอาจมีหรือไม่มีข้อมูลที่จะ โน้ตบุ๊คที่มีความหลากหลายของหน้า แต่ละหน้าเป็นของความหลากหลาย'โน้ตบุ๊ก' Application Programming Interface คุณจะดึงข้อมูลจากหน้าที่โดยอ้างถึงตัวห้อยหรือหมายเลขที่นั่นคือโน้ตบุ๊ก( 4 )จะดูเนื้อหาของหน้า 4 ของโน้ตบุ๊กที่หลากหลาย.