Although it is difficult to determi

Although it is difficult to determine from the TIMSS data exactly how much time is spent on lecturing as distinct from problem-solving activities, it appears that teachers generally follow the advice given by progressive educators. On average, they allocate twice as much time to problem-solving activities as to direct instruction. Specifically, teachers devote about 40 percent of class time to problem-solving activities (with or without teacher guidance); during roughly 20 percent of class time, students listen to the initial presentation of material to be learned. The remainder of the class time is allocated to such tasks as class management, reviewing homework, re-teaching the material, and clarifying content (see Figure 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดจากข้อมูล TIMSS ตรงเวลาที่ใช้ในการปาฐกถา as distinct from แก้ปัญหากิจกรรม ปรากฏว่า ครูโดยทั่วไปตามคำแนะนำกำหนดความก้าวหน้า โดยเฉลี่ย พวกเขาจัดสรรสองครั้งเพื่อแก้ปัญหากิจกรรมตามคำสั่งโดยตรง โดยเฉพาะ ครูอุทิศประมาณร้อยละ 40 ของเวลาเรียนเพื่อแก้ปัญหากิจกรรม (มี หรือไม่ มีอาจารย์แนะนำ); ในช่วงประมาณร้อยละ 20 ของเวลาเรียน นักศึกษาฟังในงานนำเสนอเริ่มต้นของวัสดุที่จะต้องเรียนรู้ ส่วนเหลือของเวลาเรียนมีการปันส่วนงานต่าง ๆ เช่นการเรียนการสอน ตรวจการบ้าน การเรียนการสอนวัสดุ และทำเนื้อหา (ดูรูปที่ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบจากข้อมูล TIMSS ว่าเท่าไหร่เวลาที่ใช้ในการบรรยายที่แตกต่างจากกิจกรรมการแก้ปัญหาก็ปรากฏว่าครูโดยทั่วไปทำตามคำแนะนำที่ได้รับจากการศึกษาความก้าวหน้า โดยเฉลี่ยพวกเขาเป็นครั้งที่สองจัดสรรเวลามากที่สุดเท่าที่จะทำกิจกรรมการแก้ปัญหาการเรียนการสอนเป็นไปได้โดยตรง โดยเฉพาะครูผู้อุทิศประมาณร้อยละ 40 ของเวลาเรียนกับกิจกรรมการแก้ปัญหา (มีหรือไม่มีคำแนะนำครู); ในช่วงประมาณร้อยละ 20 ของเวลาเรียนนักเรียนฟังการนำเสนอเริ่มต้นของวัสดุที่จะเรียนรู้ ที่เหลือของเวลาเรียนจะถูกจัดสรรให้กับงานเช่นการจัดการเรียนการบ้านการตรวจสอบอีกครั้งการเรียนการสอนวัสดุและทำความเข้าใจเนื้อหา (ดูรูปที่ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าจะยากที่จะตรวจสอบจาก timss ข้อมูลเวลาเท่าไหร่ที่ใช้ในการบรรยายที่แตกต่างจากกิจกรรมการแก้ปัญหา ปรากฏว่า ครูโดยทั่วไปตามคำแนะนำที่ได้รับจากการศึกษาที่ก้าวหน้า เฉลี่ย จัดสรรเป็นสองเท่าเวลามากในกิจกรรมการแก้ปัญหาเพื่อการสอนโดยตรง โดยเฉพาะครูอุทิศประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของเวลาเรียน เพื่อกิจกรรมการแก้ปัญหา ( มีหรือไม่มีครูแนะแนว ) ; ในช่วงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของเวลาเรียน นักเรียนฟังการนำเสนอเบื้องต้นของวัสดุที่จะเรียนรู้ ส่วนที่เหลือของเวลาเรียนจะจัดสรรให้กับงานดังกล่าว เช่น การจัดการเรียนการสอน ทบทวนการบ้าน เรื่องวัสดุ และชี้แจงข้อมูล ( ดูรูปที่ 1 )