This figure shows a significant fat

This figure shows a significant fatigue strength decrease of all
welded specimens in comparison to the base material, which can
be explained by both the decrease of mechanical strength and
the notch effect due to the stress concentration at the weld toe.
However, an important fatigue resistance increase with the friction
stir processing of the MIG welds can also be clearly observed.
The favourable effect of friction stir post-processing increases
50% the fatigue strength at 106 cycles relatively to unprocessed
MIG butt welded specimens. Therefore, a favourable effect of friction
stir post-processing on the fatigue strength was obtained,
although fatigue strength of MIG + FSP series remains significantly
lower in comparison with the base material.
The fatigue strength increase induced by the friction stir processing
is partially related to the geometry modification, mainly
due to the toe radius increase. To evaluate the geometry influence
on the fatigue life, the Lawrence equation (Eq. (1)) for butt welds
[24] and Peterson equation (Eq. (2)) [25], can be used to determine
the theoretical, kt, and fatigue, kf, concentration factors of the
welded specimens, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปนี้แสดงการลดลงความแข็งแรงความอ่อนเพลียที่สำคัญทั้งหมดตัวอย่างรอยเปรียบเทียบกับวัสดุพื้นฐาน ซึ่งสามารถสามารถอธิบายได้ โดยลดแรง และผลรอยเนื่องจากความเข้มข้นของความเครียดที่เท้าเชื่อมอย่างไรก็ตาม ความต้านทานความเมื่อยล้าที่สำคัญการเพิ่มแรงเสียดทานประมวลผลกวนเชื่อม MIG สามารถยังชัดเจนตรวจสอบผลดีของแรงเสียดทานคนประมวลผลเพิ่มขึ้น50% ความเมื่อยล้าที่ 106 รอบการประมวลผลค่อนข้างMIG ชนรอยอย่าง ดังนั้น มีดีผลของแรงเสียดทานคนหลังการประมวลผลบนความเหนื่อยล้าได้รับแม้ว่าความเหนื่อยล้าความแข็งแรงของ MIG + FSP ชุดยังคงอยู่มากต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุฐานเพิ่มความแข็งแรงความเมื่อยล้าเกิดจากคนเสียดประมวลผลบางส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปทรงเรขาคณิต ส่วนใหญ่การเพิ่มรัศมีของเท้า ในการประเมินอิทธิพลของรูปทรงเรขาคณิตในชีวิตความเหนื่อยล้า สมการลอว์เรนซ์ (Eq. (1)) สำหรับรอยเชื่อมชน[24] และสมการปิเตอร์สัน (Eq. (2)) [25], ใช้ในการตรวจสอบทฤษฎี นอต และความเมื่อย ล้า kf ปัจจัยความเข้มข้นของการรอยอย่าง ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงการลดลงของความแข็งแรงความเมื่อยล้าที่สำคัญของทุก
ชิ้นงานเชื่อมในการเปรียบเทียบกับวัสดุฐานซึ่งสามารถ
อธิบายได้ด้วยทั้งการลดลงของความแข็งแรงเชิงกลและ
ผลบากเนื่องจากความเข้มข้นของความเครียดที่นิ้วเท้าเชื่อม.
อย่างไรก็ตามต้านทานความเมื่อยล้าที่สำคัญ เพิ่มขึ้นด้วยแรงเสียดทาน
ในการประมวลผลความปั่นป่วนของรอยเชื่อม MIG ยังสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน.
ผลที่ดีของแรงเสียดทานกวนหลังการประมวลผลเพิ่มขึ้น
50% ความแรงของความเมื่อยล้าที่ 106 รอบค่อนข้างที่ยังไม่ได้
MIG ก้นรอยตัวอย่าง ดังนั้นผลที่ดีของแรงเสียดทาน
กวนหลังการประมวลผลกับความแรงของความเมื่อยล้าที่ได้รับ,
แม้ว่าความแข็งแรงความเมื่อยล้าของ MIG + FSP ชุดยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญ
ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุฐาน.
การเพิ่มขึ้นของความแข็งแรงความเมื่อยล้าที่เกิดจากการประมวลผลแรงเสียดทานกวน
เป็นเพียงบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การปรับเปลี่ยนรูปทรงเรขาคณิตส่วนใหญ่
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นรัศมีเท้า เพื่อประเมินอิทธิพลเรขาคณิต
เกี่ยวกับชีวิตความเมื่อยล้าสมการอเรนซ์ (สมการ (1).) สำหรับการเชื่อมก้น
[24] และสมการปีเตอร์สัน (สม. (2)) [25] สามารถนำมาใช้ในการกำหนด
ทฤษฎี, KT, และความเหนื่อยล้า KF ปัจจัยความเข้มข้นของ
ตัวอย่างรอยตามลำดับ