December 10 marks the Constitution

December 10 marks the Constitution Day which is held annually to commemorate the advent of the regime of Constitutional Monarchy in Thailand.

Previously, the government of Thailand was an absolute monarchy until June 24, 1932 there was a transition to constitutional monarchy led by a group of young intellectuals educated abroad and inspired by the concept of western democratic procedures. The group which was known as “People’s Party or Khana Rasdr” was led by Luang Pradit Manudharm (Pridi Panomyong). To avoid bloodshed, King Rama VII graciously agreed to abolish absolute monarchy and handed over the country’s first “Permanent” Constitution. In fact, King Rama VII (King Prajadhipok) had prepared, even before being asked, to hand over his powers to the people.

All Thai constitutions, however, recognise the King as Head of State, Head of the Armed Forces, Upholder of All Religions and sacred and inviolable in his person. His Majesty the King’s sovereign power emanates from the people and is exercised in three ways, namely ; legislative power through the National Assembly, executive power through the Cabinet and Judicial power through the law courts.

Even though the Revolution of 1932 brought an end to the centuries old absolute monarchy, the reverence of the Thai people towards their kings has not been diminished by this change.

Portraits of Thai kings are prominently displayed throughout the kingdom. On Constitution Day, the entire nation is greeted with festivity. The government offices, private buildings and most highrises are decorated with national flags and bunting and are brightly illuminated. On this day, all Thai citizens jointly express their gratitude to the king who graciously granted them an opportunity to take part in governing the country

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

10 ธันวาคมนับเป็นวันรัฐธรรมนูญซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการระลึกถึงการถือกำเนิดของระบอบการปกครองของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญในประเทศไทย. ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนถึง 24 มิถุนายน 1932 มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบรัฐธรรมนูญนำโดยกลุ่มของ ปัญญาชนคนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาในต่างประเทศและแรงบันดาลใจจากแนวความคิดด้านประชาธิปไตยตะวันตก กลุ่มที่ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "คนเลี้ยงหรือคานา Rasdr" นำโดยหลวงประดิษฐมนูธรรม (ปรีดีพนมยงค์) เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เกล้าฯตกลงที่จะยกเลิกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และส่งมอบของประเทศครั้งแรกที่ "ถาวร" รัฐธรรมนูญ ในความเป็นจริงรัชกาลปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปกเกล้า) ได้จัดเตรียมไว้แม้กระทั่งก่อนที่จะถูกถามว่าจะถึงมืออำนาจของเขาให้กับประชาชน. รัฐธรรมนูญไทยทั้งหมด แต่ยอมรับพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหัวหน้ากองกำลังผู้สนับสนุนทั้งหมด ศาสนาและศักดิ์สิทธิ์และเคารพในคนของเขา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอำนาจอธิปไตยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเล็ดลอดออกมาจากผู้คนและจะใช้สิทธิในสามวิธีคือ; อำนาจนิติบัญญัติผ่านรัฐสภาอำนาจบริหารผ่านคณะรัฐมนตรีและอำนาจตุลาการผ่านศาลกฎหมาย. แม้ว่าการปฏิวัติ 1932 นำสิ้นไปศตวรรษที่เก่าระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เคารพของคนไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ของพวกเขาไม่ได้รับการลดลงโดย การเปลี่ยนแปลงนี้. ภาพของพระมหากษัตริย์ไทยจะปรากฏเด่นชัดทั่วราชอาณาจักร ในวันรัฐธรรมนูญทั้งประเทศได้รับการต้อนรับที่มีการเฉลิมฉลอง สถานที่ราชการอาคารเอกชนและตึกสูงมีการตกแต่งด้วยธงชาติและธงทิวและแสงไฟสว่างไสว ในวันนี้ชาวไทยร่วมแสดงความกตัญญูต่อพระมหากษัตริย์ที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พวกเขามีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีเพื่อระลึกถึงการถือกำเนิดของการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญ ประเทศไทย .

ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนกระทั่งวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ที่นำโดยกลุ่มหนุ่มสาวปัญญาชนมีการศึกษาในต่างประเทศและได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของกระบวนการประชาธิปไตย ตะวันตกกลุ่มที่ถูกเรียกว่าเป็น " พรรคของประชาชนหรือคะน้าแจ่มชัดแล้ว " นำโดยหลวงประดิษฐ manudharm ( ปรีดี panomyong ) เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานการยกเลิกการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และส่งมอบของประเทศแรก " ถาวร " รัฐธรรมนูญ ในความเป็นจริง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ( พระมหากษัตริย์ปกเกล้า ) ได้เตรียมไว้ ก่อนที่เขาจะถูกถามเพื่อมอบพลังให้กับประชาชน .

ไทย รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธ upholder ของศาสนาและศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพในบุคคลของเขา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฤทธานุภาพสูงสุดเล็ดลอดออกมาจากคนและใช้สามวิธี ได้แก่ อำนาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภา อำนาจบริหารทางคณะรัฐมนตรี และอำนาจตุลาการผ่านทางศาล .

แม้ว่าการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 มาสิ้นสุดศตวรรษเก่าระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และความเคารพของคนไทยที่มีต่อกษัตริย์ของเขา ไม่ได้ถูกลง โดยการเปลี่ยนแปลงนี้

ภาพของพระมหากษัตริย์ไทยมีปรากฏทั่วราชอาณาจักร ในวันรัฐธรรมนูญ , ทั้งประเทศได้รับการเฉลิมฉลอง หน่วยงานราชการอาคารเอกชนและอาคารสูงส่วนใหญ่จะตกแต่งด้วยธงชาติและธงทิวและสดใสจ้า ในวันนี้ ประชาชนคนไทยทุกคนร่วมกันแสดงความกตัญญูต่อพระผู้พระราชทานอนุญาตให้พวกเขามีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ