Migraine is a common neurological d

Migraine is a common neurological disease affecting 12% of Americans and millions worldwide. Medication adherence has been studied extensively in many chronic conditions, with poor adherence adversely affecting treatment outcomes. However, little is known about adherence to oral prophylaxis for migraine.

OBJECTIVE:

To examine the literature on assessing oral prophylaxis medication adherence and persistence among migraine patients.

METHODS:

A systematic search of the PubMed (1966 to present) and EMBASE (1974 to present) databases was conducted to locate prospective and retrospective observational studies and randomized controlled trials (RCTs) of propranolol, amitriptyline, and topiramate. RCTs were pooled, weighted by sample size, and stratified by drug and length of study. Average persistence rates and reasons for discontinuation cited in RCTs were examined for each medication.

RESULTS:

A total of 788 unique articles were identified using the search criteria, 33 of which were included in the final review. Observational studies (n = 14) showed adherence ranges of 41% to 95% at 2 months, 21% to 80% at 6 months, and 35% to 56% at 12 months and persistence ranges of 41% to 88% at 2 months, 19% to 79% at 6 months, and 7% to 55% at 12 months. Pooled persistence from RCTs on propranolol, amitriptyline, and topiramate (n = 19) showed rates of 77%, 55%, and 57%, respectively, at 16-26 weeks. Adverse events were the most common reason for discontinuation cited (24% for topiramate and 17% for amitriptyline).

CONCLUSION:

Observational studies and pooled data from RCTs demonstrate poor adherence and persistence to oral migraine prophylaxis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไมเกรนเป็นโรคระบบประสาททั่วไปส่งผลกระทบต่อ 12% ของคนอเมริกันและคนนับล้านทั่วโลก ยาต่าง ๆ มีการศึกษาอย่างกว้างขวางในหลายโรคเรื้อรัง กับต่าง ๆ จนส่งผลกระทบต่อผลการรักษา อย่างไรก็ตาม น้อยมีชื่อเสียงเกี่ยวกับติดกับปาก prophylaxis สำหรับไมเกรนวัตถุประสงค์:ตรวจสอบเอกสารข้อมูลในการประเมินช่องปาก prophylaxis ยาต่าง ๆ และมีอยู่ในหมู่ผู้ป่วยไมเกรนวิธีการ:การค้นหาระบบ PubMed จะ (1966 นำเสนอ) และ EMBASE (1974 ปัจจุบัน) ฐานข้อมูลได้ดำเนินการเพื่อค้นหาอนาคต และคาดการสังเกตการณ์ศึกษา และทดลองควบคุม (RCTs) โพรพาโนลอล amitriptyline และ topiramate randomized RCTs ทางถูกพู ถ่วงน้ำหนัก ด้วยขนาดตัวอย่าง และ stratified โดยยาเสพติดและความยาวของการศึกษา ราคาเฉลี่ยคงอยู่และเหตุผล discontinuation อ้างถึงใน RCTs ถูกตรวจสอบสำหรับยาแต่ละผลลัพธ์:จำนวนบทความเฉพาะ 788 ระบุใช้เงื่อนไขการค้นหา 33 ซึ่งรวมอยู่ในนั้น การศึกษาเชิงสังเกตการณ์ (n = 14) แสดงช่วงต่าง ๆ 41% ถึง 95% ในเดือนที่ 2, 21% ถึง 80% ใน 6 เดือน และ 35% 56% ใน 12 เดือนและช่วงมีอยู่ 41% ถึง 88% ใน 2 เดือน 19% 79% ในเดือนที่ 6 และ 7% กับ 55% 12 เดือน ทางถูกพูคงอยู่จาก RCTs โพรพาโนลอล amitriptyline และ topiramate (n = 19) พบว่าราคา ของ 77%, 55%, 57% ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ 16-26 เหตุการณ์มีเหตุผลทั่วไปสำหรับ discontinuation อ้างถึง (24% สำหรับ topiramate และ 17% สำหรับ amitriptyline)สรุป:การศึกษาเชิงสังเกตการณ์และข้อมูลรวมจาก RCTs สาธิตต่าง ๆ ดีและคงอยู่กับไมเกรนปาก prophylaxis

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไมเกรนเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบบ่อยมีผลกระทบต่อ 12% ของชาวอเมริกันและนับล้านทั่วโลก รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางในหลายโรคเรื้อรังที่มีการยึดมั่นที่ไม่ดีส่งผลกระทบต่อผลการรักษา แต่ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับการยึดมั่นในการป้องกันโรคในช่องปากสำหรับไมเกรน. วัตถุประสงค์: เพื่อตรวจสอบหนังสือที่เกี่ยวกับการป้องกันโรคในช่องปากการประเมินรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและความเพียรในผู้ป่วยไมเกรน. วิธีการ: การค้นหาระบบของ PubMed (1966 ถึงปัจจุบัน) และ EMBASE (1974 ที่จะนำเสนอ ) ได้ดำเนินการฐานข้อมูลเพื่อหาศึกษาเชิงคาดหวังและย้อนหลังและการทดลองแบบสุ่ม (RCTs) ของ propranolol, Amitriptyline และ topiramate RCTs ถูกรวบรวมถ่วงน้ำหนักตามขนาดตัวอย่างและแบ่งชั้นโดยใช้ยาและระยะเวลาของการศึกษา อัตราการติดตาเฉลี่ยและเหตุผลในการหยุดอ้างถึงใน RCTs ถูกตรวจสอบสำหรับแต่ละยา. ผลรวมของ 788 บทความที่ไม่ซ้ำถูกระบุโดยใช้เกณฑ์การค้นหา 33 แห่งที่ถูกรวมอยู่ในการตรวจสอบขั้นสุดท้าย ศึกษาเชิง (n = 14) แสดงให้เห็นว่าในช่วงการยึดมั่น 41% ถึง 95% ใน 2 เดือน, 21% ถึง 80% ใน 6 เดือนและ 35% เป็น 56% ใน 12 เดือนและช่วงติดตาจาก 41% เป็น 88% ใน 2 เดือน 19% เป็น 79% ใน 6 เดือนและ 7% เป็น 55% ใน 12 เดือน Pooled ติดตาจาก RCTs ใน propranolol, Amitriptyline และ topiramate (n = 19) แสดงให้เห็นว่าอัตรา 77%, 55% และ 57% ตามลำดับที่ 16-26 สัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการหยุดอ้าง (24% สำหรับ topiramate และ 17% สำหรับ Amitriptyline). สรุป: การศึกษาการสังเกตและข้อมูลที่รวบรวมจากการแสดงให้เห็นถึงการยึดมั่น RCTs ยากจนและความคงทนในการป้องกันโรคในช่องปากอาการไมเกรน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไมเกรนคือโรคที่มีผลต่อระบบประสาททั่วไป 12 % ของชาวอเมริกันนับล้านทั่วโลก การใช้ยาตามเกณฑ์การรักษาได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางในภาวะเรื้อรังหลาย กับยึดมั่นจนส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการรักษา แต่น้อยเป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการป้องกันโรคในช่องปากสำหรับไมเกรน วัตถุประสงค์ :



ศึกษาวรรณกรรมในการประเมินการใช้ยาตามเกณฑ์การรักษาช่องปาก การป้องกันโรคและการคงอยู่ของผู้ป่วยไมเกรน วิธีการ :



ค้นหาระบบของ PTV ( 2509 ถึงปัจจุบัน ) และ embase ( 1974 - ปัจจุบัน ) ฐานข้อมูลมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาและศึกษาข้อมูลย้อนหลังและการทดลองแบบสุ่ม ( RCTs ) ศึกษาอะมิทริปไทลีน และ รับประทาน .เป็น RCTs พู ถ่วงน้ำหนัก โดยขนาดตัวอย่าง และแบ่งโดยยาและระยะเวลาของการศึกษา เฉลี่ยอัตราความคงอยู่และการอ้างเหตุผลใน RCTs ศึกษาแต่ละยา

ผล :

รวม 788 บทความที่ไม่ซ้ำ ระบุใช้เกณฑ์การค้นหา 33 ซึ่งถูกรวมอยู่ในการตรวจสอบขั้นสุดท้ายการศึกษาโดยการสังเกต ( N = 14 ) พบในช่วงร้อยละ 41 95 % ใน 2 เดือน ร้อยละ 21 ถึง 80% ใน 6 เดือน และ 35% ถึง 56% ในช่วง 12 เดือนและการคงอยู่ของ 41 ร้อยละ 88 % ใน 2 เดือน 19 % 79 % เดือนที่ 6 และ 7 ) 55% ใน 12 เดือน รวมติดตาจาก RCTs ในศึกษาอะมิทริปไทลีน และ รับประทาน ( n = 19 ) พบว่ามีอัตรา 77 % 55% และ 57 ตามลำดับ ที่ 16-26 สัปดาห์เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้เหตุผลทั่วไปสำหรับการอ้าง ( 24% และ 17% สำหรับรับประทานอะมิทริปไทลีน ) .

สรุป :

สังเกตศึกษาและรวมข้อมูลจาก RCTs แสดงยากจนในช่องปากรักษาไมเกรน
เก็บรักษา .