4) Upon receiving message Kn  Gn+1

4) Upon receiving message Kn  Gn+1 and the modified
message K0n
Gn+2nx, R first verifies whether Kn
Gn+1 is the expected one. Since the message is correct,
R updates IDS = F(IDS  Gn) and Gn+1 = K0n

Gn+2  nx  K0n
= Gn+2  nx.
5) The server has Gn;G0
n+1 but the the tag has Gn;Gn+1
where Gn+1 6= G0
n+1. In the next session, the tag will
be able to authenticate the server but the server will not
be able to authenticate the tag.
In the next section, we describe how the privacy can be
compromised due to the misuse of LFSR in the protocol.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4) เมื่อได้รับข้อความ Kn Gn + 1 และการแก้ไขข้อความ K0nGn + 2 nx, R ที่ตรวจสอบก่อนว่า KnGn + 1 เป็นดี ตั้งแต่ข้อถูกต้องรหัสการปรับปรุง R = F (รหัส Gn) และ Gn + 1 = K0nGn + 2 nx K0n= Gn + 2 nx5) เซิร์ฟเวอร์มี Gn G0n + 1 แต่แท็กมี Gn Gn + 1ที่ Gn + 1 6 = G0n + 1 ในเซสชันถัดไป แท็กจะไม่สามารถรับรองความถูกต้องเซิร์ฟเวอร์ แต่เซิร์ฟเวอร์จะไม่ไม่สามารถรับรองความถูกต้องของแท็กในส่วนถัดไป เราอธิบายวิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถละเมิดเนื่องจากการใช้ LFSR ในโพรโทคอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4) เมื่อได้รับข้อความ Kn? GN + 1 และแก้ไข
K0n ข้อความ
? GN + 2? NX, R แรกตรวจสอบว่า Kn?
GN + 1 คือคาดว่าหนึ่ง เนื่องจากข้อความที่ถูกต้อง,
R การปรับปรุง IDS = F (IDS? Gn) และ Gn + 1 = K0n
?
Gn + 2 หรือไม่? NX? K0n
= Gn + 2 หรือไม่? . NX
5) เซิร์ฟเวอร์มี Gn; G0
N + 1 แต่แท็กมี Gn; Gn + 1
ที่ Gn 1 + 6 = G0
N + 1 ในครั้งต่อไปแท็กจะ
สามารถในการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ แต่เซิร์ฟเวอร์จะไม่
สามารถที่จะตรวจสอบความถูกแท็ก.
ในส่วนถัดไปเราจะอธิบายวิธีการความเป็นส่วนตัวที่สามารถ
ทำลายเนื่องจากการใช้ผิดวัตถุประสงค์ของ LFSR ในโปรโตคอล