Motion 1.You hear a bowling ball hi

Motion
1.You hear a bowling ball hitting the pins. The pins fly in directions. We many know that each pin is in motion because the distance between each pin and where it started is changing.
2. Motion depends on frame of reference. A frame of reference is dependent upon the background used to observe motion. Suppose you are riding a moving walkway, such as the ones you might see at many airports. What is your frame of reference? Are you moving?
3. If your friend is riding with you, you are not moving compared to him or her. Your friend is a frame of reference. Your distance from your friend does not change, so there is no motion relative to your friend. However, compared to someone who is not on the walkway, you are moving. Your distance from that person constantly changes.
4. Scientists try not to say that something is in motion without stating the frame of reference. Relative motion is the motion of an object compared to a frame of reference. A person on a moving walkway has no relative motion compared to someone who is also on the walkway. That same person does have relative motion when the frame of reference is someone or something off the walkway.
5. Because motion involves changing distance, you must be able to measure distance to measure motion. Distance is the length or space between two objects or places. When discussing motion distance far object often refers to how an moves from its starting point. A distance measurement is a measurement of length. Distance can be measured using a tool that is used to measure length. Distance is measured using units of length, such as meters, miles, or kilometers.
6. Suppose you are traveling from one town to another. If you travel on a straight road, the distance might be 45 km. Another
road towns might involve between the several turns. The distance between the towns path might be 62 km along that Although start and stop at the same you places, distance might be different for each path.
7. Sometimes might want to know you the shortest straight-line distance from one place to another. You might not be able to follow this path because there are things in your way. However, you can measure the straight-line distance. It will be the same measurement no matter how many different paths there might be. The measurement will tell you how far one place or object is from another place or object.
8 .To describe where one object is relative to another object, you need more than a distance measurement. You also need to know the direction one object is from the other. Displacement is the distance and direction of an object's change in position from a starting point.
9. The distance you travel between two objects is not necessarily the length of the displacement. Suppose your school is three blocks north and three blocks east from your home. The distance between home and school depends on the path you take. You might walk three blocks north and three blocks east for a distance of six blocks. Or, you might go out of your way to go to a friend's home. This might take you one block north, one block west, two blocks north, and four blocks east. The distance for this path is eight blocks.
10. The displacement is the shortest distance between your home and school, plus the direction you need to travel to get from place to place. The displacement is just over four blocks northeast. You might not be able to follow that exact path if buildings or other things block your way. But whatever path you take, the displacement from your home to your school is the same.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เคลื่อนไหว 1.คุณได้ยินลูกโบว์ลิ่งตีหมุด หมุดบินในเส้นทาง เรามากรู้ว่า แต่ละขาในการเคลื่อนไหวเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระยะห่าง ระหว่างแต่ละขา และเริ่มต้นที่ 2. เคลื่อนไหวในกรอบของการอ้างอิงนั้น กรอบของการอ้างอิงจะขึ้นอยู่ตามพื้นหลังที่ใช้ในการปฏิบัติการเคลื่อนไหว สมมติว่า คุณจะขี่ประกอบเคลื่อน เช่นคุณอาจเห็นที่สนามบินมาก กรอบอ้างอิงของคุณคืออะไร คุณย้ายหรือไม่ 3. ถ้าเพื่อนมีขี่กับคุณ คุณจะไม่ย้ายเมื่อเทียบกับเขาหรือเธอ เพื่อนเป็นกรอบของการอ้างอิง ระยะห่างจากเพื่อนของคุณการเปลี่ยนแปลง ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กับเพื่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้อยู่บนทางเดิน คุณกำลังย้าย ระยะห่างจากบุคคลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 4. นักวิทยาศาสตร์ไม่ต้องพูดว่า บางสิ่งบางอย่างในการเคลื่อนไหวโดยไม่ระบุการอ้างอิงของเฟรมได้ เคลื่อนไหวสัมพันธ์กันเป็นการเคลื่อนไหวของวัตถุเทียบกับกรอบอ้างอิง คนบนทางเดินเคลื่อนไหวเคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กันเปรียบเทียบกับคนที่ยังอยู่ทางเดินได้ บุคคลเดียวกันให้เคลื่อนไหวสัมพันธ์กันเมื่อกรอบอ้างอิงของ คนหรือสิ่งที่ออกจากทางเดิน 5. เนื่องจากการเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงระยะทาง คุณต้องวัดระยะห่างในการวัดการเคลื่อนไหว ระยะทางคือ ความยาวหรือระยะห่างระหว่างวัตถุสองหรือสถาน เมื่อสนทนาเคลื่อนไหวห่างไกล วัตถุมักจะอ้างถึงวิธีการย้ายจากจุดเริ่มต้น การวัดเป็นการวัดความยาว สามารถวัดระยะทางโดยใช้เครื่องมือที่ใช้วัดความยาว วัดระยะทางโดยใช้หน่วยของความยาว เมตร ไมล์ หรือกิโลเมตรเช่น 6. สมมติว่าคุณเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีก ถ้าคุณเดินทางบนถนนตรง ระยะห่างอาจจะ 45 กิโลเมตรอีกถนนหมดอาจเกี่ยวข้องกับระหว่างเปิดหลาย ระยะห่างระหว่างเมืองเส้นทางอาจ 62 กิโลเมตรตามที่แม้ว่าจะเริ่ม และหยุดที่เดียวกับคุณสถาน ระยะทางอาจแตกต่างกันสำหรับแต่ละเส้นทาง 7. บางครั้งอาจต้องการรู้ว่าสั้นที่สุดเส้นตรงระยะห่างจากที่หนึ่งไปยังอีก คุณอาจไม่สามารถทำตามเส้นทางนี้เนื่องจากมีสิ่งที่ในทางของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถวัดระยะทางแบบเส้นตรง มันจะเป็นวัดเดียวกันไม่กี่เส้นทางแตกต่างกันอาจมี การประเมินจะบอกคุณเท่าใดหนึ่ง หรือวัตถุมาจากสถานที่หรือวัตถุอื่น 8เพื่ออธิบายวัตถุหนึ่งที่สัมพันธ์กับวัตถุอื่น ได้มากกว่าการวัดระยะทาง คุณต้องทราบทิศทางหนึ่งคือจากอื่น ๆ ด้วย ปริมาณกระบอกสูบเป็นระยะทางและทิศทางการเปลี่ยนตำแหน่งจากจุดเริ่มต้นของวัตถุ 9. ระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองไม่จำเป็นต้องยาวของแทนที่ สมมติว่า โรงเรียนคุณอยู่เหนือสามบล็อกและบล็อกที่ 3 ตะวันออกจากบ้านของคุณ ระยะห่างระหว่างบ้านกับโรงเรียนขึ้นอยู่กับเส้นทางที่คุณใช้ คุณอาจเดินสามบล็อกเหนือ และบล็อกที่ 3 ตะวันออกสำหรับระยะทางบล็อกหก ขึ้น คุณจะไปจากทางไปบ้านเพื่อน บล็อกหนึ่งเหนือ ตะวันตกหนึ่งบล็อก บล็อกสองเหนือ และบล็อกสี่ทิศตะวันออกนี้อาจใช้ ระยะทางในเส้นทางนี้เป็นบล็อก 8 10.ปริมาณกระบอกสูบเป็นระยะทางที่สั้นที่สุดระหว่างบ้าน และโรงเรียน บวกทิศทางที่ต้องเดินทางไปจากสถานนั้น แทนที่เป็นบล็อกเพียง 4 ตะวันออกเฉียงเหนือ คุณอาจไม่สามารถตามอาคารหรือสิ่งอื่น ๆ วิธีการบล็อกเส้นทางที่แน่นอน แต่เส้นทางใดก็ตามคุณ จะ ย้ายจากบ้านไปโรงเรียนของคุณเหมือนกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเคลื่อนไหว
1.You ได้ยินลูกโบว์ลิ่งตีขา ขาบินไปในทิศทาง เราหลายคนรู้ว่าแต่ละขาเป็นในการเคลื่อนไหวเพราะระยะห่างระหว่างแต่ละขาและสถานที่ที่มันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
2 การเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับกรอบอ้างอิง กรอบของการอ้างอิงจะขึ้นอยู่กับพื้นหลังที่ใช้ในการสังเกตการเคลื่อนไหว สมมติว่าคุณกำลังขี่ทางเดินที่เคลื่อนไหวเช่นคนที่คุณอาจจะเห็นในสนามบินจำนวนมาก กรอบของการอ้างอิงของคุณคืออะไร? คุณย้าย?
3 หากเพื่อนของคุณขี่กับคุณคุณจะไม่ย้ายเมื่อเทียบกับเขาหรือเธอ เพื่อนของคุณเป็นกรอบของการอ้างอิง ระยะทางของคุณจากเพื่อนของคุณจะไม่เปลี่ยนแปลงดังนั้นจึงไม่มีการเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับเพื่อนของคุณ แต่เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้อยู่ในทางเดินที่คุณกำลังจะย้าย ระยะทางของคุณจากบุคคลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
4 นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะไม่บอกว่ามีอะไรบางอย่างในการเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องระบุกรอบอ้างอิง การเคลื่อนไหวที่สัมพันธ์คือการเคลื่อนไหวของวัตถุเมื่อเทียบกับกรอบอ้างอิง คนที่อยู่บนทางเดินที่เคลื่อนไหวไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเมื่อเทียบกับคนที่ยังอยู่ในทางเดิน ว่าคนคนเดียวกันจะมีการเคลื่อนไหวที่สัมพันธ์เมื่อกรอบของการอ้างอิงเป็นใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างออกจากทางเดิน
5 เพราะการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในระยะนี้คุณจะต้องสามารถวัดระยะทางในการวัดการเคลื่อนไหว ระยะทางคือความยาวหรือช่องว่างระหว่างสองวัตถุหรือสถานที่ เมื่อพูดถึงการเคลื่อนไหวของวัตถุระยะไกลมักจะหมายถึงวิธีการย้ายจากจุดเริ่มต้นของ การวัดระยะทางคือการวัดความยาว ระยะทางสามารถวัดได้โดยใช้เครื่องมือที่จะใช้ในการวัดความยาว ระยะทางวัดโดยใช้หน่วยของความยาวเช่นเมตรไมล์หรือกิโลเมตร
ที่ 6 สมมติว่าคุณกำลังเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีก ถ้าคุณเดินทางบนถนนตรงทางไกลอาจจะมี 45 กิโลเมตร อีก
เมืองถนนอาจเกี่ยวข้องกับการระหว่างหลายรอบ ระยะห่างระหว่างเส้นทางเมืองอาจจะ 62 กม. ไปตามที่แม้เริ่มต้นและหยุดอยู่ที่สถานที่เดียวกับที่คุณเป็นระยะทางอาจจะมีที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละเส้นทาง
7 บางครั้งอาจต้องการที่จะรู้ว่าคุณระยะทางที่สั้นเส้นตรงจากที่หนึ่งไปยังอีก คุณอาจจะไม่สามารถที่จะไปตามเส้นทางนี้เพราะมีสิ่งที่อยู่ในทางของคุณ อย่างไรก็ตามคุณสามารถวัดระยะทางเส้นตรง มันจะเป็นวัดเดียวกันไม่ว่ากี่เส้นทางที่แตกต่างกันอาจจะมี วัดจะบอกคุณว่าไกลหนึ่งในสถานที่หรือวัตถุจากสถานที่อื่นหรือวัตถุ
8 หากต้องการอธิบายที่วัตถุหนึ่งเป็นญาติกับวัตถุอื่นคุณต้องมากกว่าการวัดระยะทาง นอกจากนี้คุณยังจำเป็นต้องรู้ทิศทางของชิ้นหนึ่งจากคนอื่น ๆ แทนที่เป็นระยะทางและทิศทางของการเปลี่ยนแปลงของวัตถุในตำแหน่งจากจุดเริ่มต้นที่
9 ระยะทางที่คุณเดินทางระหว่างวัตถุทั้งสองไม่จำเป็นต้องเป็นความยาวของราง สมมติว่าโรงเรียนของคุณเป็นสามช่วงตึกทางทิศเหนือและทิศตะวันออกสามช่วงตึกจากบ้านของคุณ ระยะห่างระหว่างบ้านและโรงเรียนขึ้นอยู่กับเส้นทางที่คุณใช้ คุณอาจเดินไปสามช่วงตึกทางทิศเหนือและสามช่วงตึกทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางหกช่วงตึก หรือคุณอาจจะไปจากทางของคุณที่จะไปที่บ้านของเพื่อน นี้อาจใช้เวลาคุณเหนือหนึ่งบล็อกหนึ่งบล็อกตะวันตกสองช่วงตึกเหนือและสี่ช่วงตึกทางทิศตะวันออก ระยะทางสำหรับเส้นทางนี้คือแปดบล็อก
10 การเคลื่อนที่เป็นระยะทางที่สั้นระหว่างบ้านและโรงเรียนของคุณรวมทั้งทิศทางที่คุณต้องการในการเดินทางที่จะได้รับจากสถานที่ที่ การเคลื่อนที่เป็นเพียงกว่าสี่ช่วงตึกตะวันออกเฉียงเหนือ คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำตามเส้นทางที่แน่นอนว่าถ้าอาคารหรือสิ่งอื่น ๆ ที่ปิดกั้นทางของคุณ แต่สิ่งที่เส้นทางที่คุณใช้การเคลื่อนที่จากที่บ้านของคุณไปยังโรงเรียนของคุณเป็นเหมือนกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เคลื่อนไหว
1 . คุณได้ยินโบว์ลิ่งบอลชนขา หมุด บินในเส้นทาง เราหลายคนรู้ว่าแต่ละขาจะเคลื่อนไหว เพราะระยะห่างระหว่างแต่ละขาและที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง .
2 เคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับกรอบอ้างอิง กรอบของการอ้างอิงขึ้นอยู่กับพื้นหลัง ใช้สังเกตการเคลื่อนไหว สมมติว่าคุณกำลังขี่ทางเดินเคลื่อนที่เช่นที่คุณเห็นในสนามบินมาก อะไรคือกรอบของการอ้างอิง ? นายกำลังจะย้ายบ้านเหรอ ?
3 ถ้าเพื่อนของคุณ กับคุณ คุณจะไม่ไปเปรียบเทียบกับเขาหรือเธอ เพื่อนของคุณเป็นกรอบของการอ้างอิง ระยะทางของคุณจากเพื่อนของคุณ ไม่ เปลี่ยนแปลง เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวที่สัมพันธ์กับเพื่อนของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้อยู่ในทางเดินที่คุณจะย้ายห่างจากคนนั้นตลอดเวลาการเปลี่ยนแปลง .
4 นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะไม่พูดสิ่งที่อยู่ในการเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องระบุกรอบของการอ้างอิง สัมพัทธ์ คือ การเคลื่อนไหวของวัตถุเทียบกับกรอบอ้างอิง บุคคลบนทางเดินเคลื่อนที่ไม่มีญาติการเคลื่อนไหวเมื่อเทียบกับคนที่ยังอยู่บนทางเดินคนๆนั้นไม่ได้มีกรอบของการอ้างอิงสัมพัทธ์เมื่อมีใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างจากทางเดิน .
5 เพราะการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงระยะทาง คุณต้องสามารถวัดระยะทางวัดการเคลื่อนไหว ระยะทางยาวหรือช่องว่างระหว่างสองวัตถุหรือสถานที่ เมื่อพูดถึงการเคลื่อนไหวของวัตถุไกลระยะมักจะหมายถึงวิธีการย้ายจากจุดเริ่มต้นระยะทางวัดเป็นวัดของความยาว ระยะทางที่สามารถวัดได้โดยใช้เครื่องมือที่ใช้วัดความยาว ระยะทางวัดโดยใช้หน่วยของความยาว เช่น เมตร ไมล์หรือกิโลเมตร .
6 สมมติว่าคุณต้องเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีก ถ้าคุณเดินทางบนถนนตรง ระยะทางอาจจะ 45 กิโลเมตร อีก
ถนนเมืองอาจเกี่ยวข้องกับระหว่างเปลี่ยนหลายระยะทางระหว่างเมือง 62 กม. ตามเส้นทางอาจจะเริ่มต้นและหยุดในสถานที่เดียวกัน ระยะทางอาจจะแตกต่างกันสำหรับแต่ละเส้นทาง
7 บางครั้งอาจจะต้องการทราบว่าคุณมีระยะทางสั้นที่สุด เส้นจากสถานที่หนึ่งไปยังอีก คุณอาจจะไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามเส้นทางนี้ เพราะมีทุกอย่างในทางของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถวัดระยะทางตรง .จะเป็นวัดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่แตกต่างกันอาจจะมี . การวัดจะบอกคุณว่าสถานที่หนึ่งหรือวัตถุจากสถานที่อื่นหรือวัตถุ
8 . อธิบายว่าวัตถุหนึ่งที่เป็นญาติกับวัตถุอื่น ๆที่คุณต้องการมากกว่าวัดระยะทาง . นอกจากนี้คุณยังต้องรู้ทิศทางของวัตถุหนึ่งจากอื่น ๆการกระจัดคือ ระยะทางและทิศทางของการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของวัตถุจากจุดเริ่มต้น .
9 ระยะทางที่คุณเดินทางระหว่างวัตถุสองไม่ใช่เรื่องความยาวของการกระจัด สมมติว่าโรงเรียนของคุณเป็นสามบล็อก 3 บล็อก เหนือและตะวันออกจากที่บ้านของคุณ ระยะทางระหว่างบ้านและโรงเรียนขึ้นอยู่กับเส้นทางที่คุณใช้คุณอาจเดินสามบล็อกเหนือและสามบล็อกตะวันออกเป็นระยะทาง 6 บล็อก หรือคุณอาจจะหาวิธีที่จะไปที่บ้านของเพื่อน นี้อาจนำคุณไปหนึ่งบล็อก เหนือ หนึ่งบล็อกตะวันตก เหนือ 2 บล็อก และบล็อกสี่ทิศตะวันออก ระยะทางสำหรับเส้นทางนี้เป็นแปดบล็อก
10 การกระจัดคือระยะทางที่สั้นที่สุดระหว่างบ้านและโรงเรียนบวกกับทิศทางที่คุณต้องการที่จะเดินทางไปจากสถานที่ที่จะวาง การกระจัดคือเพียงสี่บล็อก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำตามเส้นทางที่แน่นอนถ้าอาคารหรือสิ่งอื่นปิดกั้นทางของคุณ แต่ไม่ว่าเส้นทางที่คุณใช้ การจากบ้านไปถึงโรงเรียนของคุณจะเหมือนกัน

.