and adolescents, breakfast consumpt

and adolescents, breakfast consumption declined from 1965 to
1991 (Siega-Riz et al., 1998), an alarming situation, since eating
breakfast is associated with higher overall dietary quality,
and frequency of daily meals has been shown to be inversely
associated with the prevalence of being overweight (Toschke
et al., 2005).
Obese children eat less energy at breakfast, miss breakfast
more frequently, and consume a higher percentage of energy
at dinner (Moreno and Rodriguez, 2007). The co-occurrence of
decline in the frequency of eating breakfast and the emergence
of the obesity epidemic, raised scientific interest in the possible
causal role of breakfast in weight control and related disease
risks (Timlin and Pereira, 2007). Intriguing lines of research that
may have broad public health application include the evaluation
of the breakfast meal and the frequency in which it is eaten
in driving such important factors as appetite control, dietary
quality, and chronic disease risk. Furthermore, eating breakfast
or not, and the composition of breakfast cannot be separated
from environmental factors such as when is the breakfast eaten,
time allocated to breakfast, and societal factors such as eating
alone. In the case of dinner, for instance, more favorable dietary
patterns and balances have been found in the case of family
dinner (Gillman et al., 2000).Accordingly, it may be derived that
regular family meals give parents the opportunity to monitor and
limit children’s intake of unbalanced food, and to serve as role

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัยรุ่น การบริโภคอาหารเช้าลงจาก 1965 เพื่อ1991 (ข้าว Siega et al. 1998), การกลัวสถานการณ์ เนื่องจากการรับประทานอาหารเกี่ยวข้องกับคุณภาพของอาหารโดยรวมสูงขึ้น อาหารเช้าและได้รับการแสดงความถี่ของอาหารประจำวันจะ inverselyเกี่ยวข้องกับความชุกของน้ำหนักเกิน (Toschkeet al. 2005)เด็กอ้วนกินพลังงานน้อยกว่าอาหารเช้า อาหารเช้าพลาดบ่อย และใช้สัดส่วนสูงของพลังงานที่เย็น (Moreno และร็อดริเกซ 2007) เกิดร่วมลดลงตามความถี่ของการรับประทานอาหารเช้าและการเกิดขึ้นการระบาดของโรคอ้วน ยกสนใจทางวิทยาศาสตร์ในสุดบทบาทเชิงสาเหตุของในการควบคุมน้ำหนักและโรคที่เกี่ยวข้องความเสี่ยง (Timlin และ Pereira, 2007) รายการที่น่าสนใจของงานวิจัยที่อาจมีสิ่งสาธารณสุขประยุกต์รวมถึงการประเมินผลอาหารเช้าและความถี่ที่จะรับประทานในการขับขี่ดังกล่าวปัจจัยสำคัญเป็นตัวควบคุมความอยากอาหาร อาหารคุณภาพ และความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ รับประทานอาหารเช้าหรือ ไม่ และไม่สามารถแยกองค์ประกอบของอาหารเช้าจากปัจจัยแวดล้อมเช่นเมื่อเช้ากินเวลาเช้า และปัจจัยสังคมการกินคนเดียว ในกรณีของอาหาร เช่น อาหารดีขึ้นดุลและรูปแบบที่พบได้ในกรณีที่ครอบครัวอาหาร (Gillman et al. 2000) ดังนั้น คุณอาจได้รับมาที่ปกติอาหารครอบครัวให้พ่อแม่โอกาสที่จะตรวจสอบ และจำกัดเด็กบริโภคอาหารไม่สมดุล และเป็นบทบาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และวัยรุ่นการบริโภคอาหารเช้าลดลงจากปี 1965 ที่จะ
ปี 1991 (Siega-Riz et al., 1998) สถานการณ์ที่น่ากลัวตั้งแต่การรับประทาน
อาหารเช้าที่เกี่ยวข้องกับการมีคุณภาพสูงการบริโภคอาหารโดยรวม
และความถี่ของอาหารประจำวันได้รับการแสดงที่จะผกผัน
เกี่ยวข้องกับ ความชุกของการมีน้ำหนักเกิน (Toschke
et al., 2005).
เด็กอ้วนกินพลังงานน้อยกว่าที่อาหารเช้า, อาหารเช้าพลาด
บ่อยครั้งมากขึ้นและใช้ในสัดส่วนที่สูงของพลังงาน
งานเลี้ยงอาหารค่ำ (เรโนและ Rodriguez, 2007) ผู้ร่วมการเกิดขึ้นของ
การลดลงของความถี่ในการกินอาหารเช้าและการเกิดขึ้นของ
การระบาดของโรคอ้วนเพิ่มขึ้นน่าสนใจทางวิทยาศาสตร์ในการที่เป็นไปได้
มีบทบาทเชิงสาเหตุของอาหารเช้าในการควบคุมน้ำหนักและโรคที่เกี่ยวข้องกับ
ความเสี่ยง (Timlin และ Pereira, 2007) เส้นที่น่าสนใจของการวิจัยที่
อาจมีโปรแกรมสุขภาพของประชาชนในวงกว้างรวมถึงการประเมินผล
ของอาหารรับประทานอาหารเช้าและความถี่ในการที่จะกิน
ในการผลักดันปัจจัยที่สำคัญเช่นการควบคุมความอยากอาหารการบริโภคอาหาร
ที่มีคุณภาพและความเสี่ยงโรคเรื้อรัง นอกจากนี้การกินอาหารเช้า
หรือไม่และองค์ประกอบของอาหารเช้าไม่สามารถแยกออก
จากปัจจัยแวดล้อมเช่นเมื่อมีการรับประทานอาหารเช้ารับประทาน
เวลาที่จัดสรรให้กับอาหารเช้าและปัจจัยทางสังคมเช่นการรับประทานอาหาร
เพียงอย่างเดียว ในกรณีของการรับประทานอาหารค่ำเช่นการบริโภคอาหารที่ดีขึ้น
รูปแบบและยอดคงเหลือได้ถูกพบในกรณีของครอบครัว
รับประทานอาหารค่ำ (Gillman et al., 2000) .Accordingly มันอาจจะมาที่
อาหารครอบครัวปกติให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีโอกาสที่จะตรวจสอบและ
จำกัด การบริโภคของเด็กของอาหารที่ไม่สมดุลและจะทำหน้าที่เป็นบทบาท