Bicarbonate alkalinity and carbon c

Bicarbonate alkalinity and carbon can be provided by the addition of sodium bicarbonate to the cultivation medium.
In synthetic cultivation media for the cultivation of Spirulina sp. the most frequently used medium is Zarrouk medium,which provides carbon as sodium bicarbonate in the amount of 16.8 g L1 . In the earlier studies, sodium bicarbonate was added to media containing anaerobically digested wastes
in amounts in the range of 9–17 g L1 , but 2–4 g L1 is now considered as sufficient . Furthermore, suggested that supplementation of sodium bicarbonate need not exceed 0.5% of the culture medium to be adequate for Spirulina growth in effluents of anaerobically digested pig and cattle manure. It has been suggested that many factors, including
bicarbonate (HCO3) furnishes the carbon skeleton needed for algal biomass particularly, proteins. It may be essential for protein synthesis in the organism, probably because sodium is necessary for the activity of certain enzymes involved
in protein synthesis, formation of coenzymes and adenosine phosphates and biosynthesis of sulfur-containing proteins, respectively . Moreover, algae put up different metabolic products during photosynthesis, using only light and nutrients. The relative amounts of these products are tightly linked to environmental and nutrient conditions, including CO2 levels. Carbon is required as non-mineral nutrient for algal growth as as reported by Walker. Similar to the results reported from this study, the OD680 and biochemical constituents of the tested alga had greatly affected when grown under different
concentrations of sodium bicarbonate as compared by control culture after 12 days. The statistical analyses have already
revealed that sodium bicarbonate exerted a significant positive effect on the algal constituents of proteins and chlorophyll
(p > 0.01). In accordance with the study results, previous studies have shown sodium bicarbonate can be added as a form of inorganic carbon to increase cell dry weight, FAME, and pigment production . Even though, reported that inorganic carbon of alkalinity in the form of bicarbonate was consumed rapidly, in turn causing the attenuation of cell
growth of Scenedesmus sp. Moreover, it has been reported that the elevated CO2 concentrations decrease the relative concentrations of proteins and pigments in the cells but increase carbohydrate content of the A. platensis which was accompanied by reduction in the maximum biomass yield as reported by Gordillo et al.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด่างไบคาร์บอเนตและคาร์บอนสามารถให้บริการโดยการเพิ่มขึ้นของโซเดียมไบคาร์บอเนตกลางการเพาะปลูกที่.
ในสื่อการเพาะปลูกสังเคราะห์สำหรับการเพาะปลูกของสาหร่ายเกลียวทองเอสพี สื่อที่ใช้บ่อยที่สุดเป็นสื่อ Zarrouk ซึ่งมีคาร์บอนเป็นโซเดียมไบคาร์บอเนตในจำนวน 16.8 กรัม L1 ในการศึกษาก่อนหน้านี้โซเดียมไบคาร์บอเนตถูกบันทึกอยู่ในสื่อที่มีของเสียย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศในปริมาณที่อยู่ในช่วง 9-17 กรัม L1 แต่ 2-4 กรัม L1 ตอนนี้ถือว่าเพียงพอ
นอกจากนี้ชี้ให้เห็นว่าการเสริมโซเดียมไบคาร์บอเนตไม่จำเป็นต้องเกิน 0.5% ของอาหารเลี้ยงเชื้อที่จะเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของสาหร่ายเกลียวทองในน้ำทิ้งจากการย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศหมูวัวและมูล มันได้รับการชี้ให้เห็นว่าหลายปัจจัยรวมถึงไบคาร์บอเนต (HCO3) furnishes โครงกระดูกคาร์บอนที่จำเป็นสำหรับพลังงานชีวมวลสาหร่ายโดยเฉพาะโปรตีน
มันอาจจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนในชีวิตอาจจะเป็นเพราะโซเดียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของเอนไซม์บางอย่างที่เกี่ยวข้องในการสังเคราะห์โปรตีนก่อตัวของโคเอนไซม์และฟอสเฟต adenosine และการสังเคราะห์โปรตีนที่มีกำมะถันตามลำดับ
นอกจากนี้สาหร่ายวางผลิตภัณฑ์การเผาผลาญอาหารที่แตกต่างกันในระหว่างการสังเคราะห์แสงโดยใช้เพียงแสงและสารอาหาร จำนวนเงินที่ญาติของผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการเชื่อมโยงอย่างแน่นหนากับสภาพแวดล้อมและสารอาหารรวมทั้งระดับ CO2 คาร์บอนจะต้องเป็นสารอาหารที่ไม่แร่สำหรับการเจริญเติบโตของสาหร่ายเป็นตามการรายงานของวอล์คเกอร์ คล้ายกับผลที่ได้รับรายงานจากการศึกษานี้ OD680
และองค์ประกอบทางชีวเคมีของสาหร่ายทดสอบได้รับผลกระทบอย่างมากเมื่อเติบโตขึ้นภายใต้การที่แตกต่างกันมีความเข้มข้นของโซเดียมไบคาร์บอเนตเมื่อเทียบจากวัฒนธรรมการควบคุมหลังจาก12 วัน
การวิเคราะห์ทางสถิติที่มีอยู่แล้วเปิดเผยว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตออกแรงผลบวกอย่างมีนัยสำคัญในองค์ประกอบของโปรตีนสาหร่ายและคลอโรฟิล
(p> 0.01) สอดคล้องกับผลการศึกษาการศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตสามารถเพิ่มเป็นรูปแบบหนึ่งของคาร์บอนนินทรีย์ที่จะเพิ่มน้ำหนักเซลล์แห้ง FAME และการผลิตเม็ดสี แม้ว่ารายงานว่าคาร์บอนนินทรีย์ของอัลคาไลน์ในรูปแบบของไบคาร์บอเนตถูกครอบงำอย่างรวดเร็วในการเปิดที่ก่อให้เกิดการลดทอนของเซลล์เจริญเติบโตของ Scenedesmus SP
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่าความเข้มข้นของ CO2 สูงลดความเข้มข้นของญาติของโปรตีนและเม็ดสีในเซลล์ แต่เพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรต platensis เอที่มาพร้อมกับการลดลงของผลผลิตมวลชีวภาพสูงสุดตามที่รายงานโดย Gordillo et al,

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สภาพด่างไบคาร์บอเนตและคาร์บอนสามารถให้โดยการเติมโซเดียมไบคาร์บอเนตเพื่อการเพาะปลูกกลาง .
ในสื่อการสังเคราะห์สำหรับการเพาะปลูกของสาหร่ายเกลียวทอง ที่ใช้บ่อยที่สุดเป็นสื่อที่ซารูคขนาดกลางซึ่งมีคาร์บอนเป็นโซเดียมไบคาร์บอเนต ในจํานวน L1 16.8 กรัม ในการศึกษาก่อนหน้านี้โซเดียมไบคาร์บอเนตเป็นสื่อที่มีพย่อยของเสีย
ยอดในช่วง 9 - l1 17 กรัม แต่ 2 – 4 g l1 ตอนนี้ถือว่าเพียงพอ นอกจากนี้ พบว่า การเสริมโซเดียมไบคาร์บอเนตต้องไม่เกิน 0.5% ของวัฒนธรรมอาหารจะเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของสาหร่ายในน้ำทิ้งของพย่อยสุกรและวัวปุ๋ยคอกจะได้รับการชี้ให้เห็นว่าปัจจัยหลายอย่างรวมทั้ง
ไบคาร์บอเนต ( hco3 ) ประกอบด้วยคาร์บอนโครงกระดูกที่จำเป็นสำหรับสาหร่ายชีวมวล โดยเฉพาะโปรตีน มันอาจจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนในร่างกาย อาจจะเพราะโซเดียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของเอนไซม์บางอย่างที่เกี่ยวข้อง
ในการสังเคราะห์โปรตีนการก่อตัวของโค และฟอสเฟต adenosine และชีวสังเคราะห์ของ sulfur-containing โปรตีน ตามลำดับ นอกจากนี้ สาหร่ายใส่ผลิตภัณฑ์ที่การเผาผลาญแตกต่างกันในระหว่างการสังเคราะห์แสงโดยใช้แสงเท่านั้น และสารอาหาร ปริมาณสัมพัทธ์ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้เชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมและสารอาหาร รวมถึงระดับของ CO2 .คาร์บอนจะต้องเป็นแร่ธาตุเพื่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่ไม่เป็นตามที่รายงานโดยวอล์คเกอร์ คล้ายกับผลรายงานจากการศึกษานี้ od680 ชีวเคมีและองค์ประกอบของการทดสอบสาหร่ายมีผลกระทบอย่างมากเมื่อโตได้ที่ระดับความเข้มข้นของโซเดียมไบคาร์บอเนตเมื่อ
โดยวัฒนธรรมการควบคุมหลังจาก 12 วัน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ได้
พบว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตนั่นเอง ทางด้านบวกต่อองค์ประกอบของโปรตีนและคลอโรฟิลล์ในสาหร่าย
( P < 0.01 ) สอดคล้องกับผลการศึกษาการศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้โซเดียมไบคาร์บอเนตสามารถเพิ่มเป็นรูปแบบของอนินทรีย์คาร์บอนเพื่อเพิ่มน้ำหนักเซลล์แห้ง , ชื่อเสียง , และการผลิตสี แม้ว่ารายงานว่าคาร์บอนอนินทรีย์ของความเป็นด่างในรูปแบบของไบคาร์บอเนตเป็นบริโภคอย่างรวดเร็ว จะทำให้การเติบโตของเซลล์
ซีนเดสมัส sp . นอกจากนี้ มันได้รับรายงานว่าปริมาณ CO2 สูงลดความเข้มข้นสัมพัทธ์ของโปรตีนและเม็ดสีในเซลล์ แต่เพิ่มคาร์โบไฮเดรตของ Aplatensis ซึ่งมาพร้อมกับการลดผลผลิตมวลชีวภาพสูงสุดตามที่รายงานโดย gordillo et al .