of their DNA sequences and producti

of their DNA sequences and production of iridoid glycosides and caffeoyl phenylethyl
glycosides such as verbascoside (Grayer et al., 1999). However, the Nepetoideae
are chemically a highly derived subfamily in the Lamiaceae, whereas the
Scrophulariaceae, which normally produce monoterpenoid-derived iridoid glycosides
instead of essential oils, are chemically more similar to the other subfamilies
of the Lamiaceae, which produce the same classes of compounds (Grayer et al.,
1999). This means that the ability to produce essential oils and 6-,8-oxygenated
surface flavones has probably originated separately in both families (parallel evolution).
Perhaps all plant families that produce iridoids have the potential to alter
the production of monoterpenoid iridoids to that of monoterpenoid-containing
essential oils. This biosynthetic change also seems to have happened independently
to certain genera of the related family Verbenaceae. The development of the production
of surface flavones in plants that produce essential oils may therefore be
another example of parallel evolution.
References

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของลำดับดีเอ็นเอผลิต iridoid glycosides และ caffeoyl phenylethylglycosides เช่น verbascoside (Grayer et al., 1999) อย่างไรก็ตาม Nepetoideaeมีสารเคมี subfamily รับสูงในวงศ์กะเพรา ขณะScrophulariaceae ซึ่งโดยปกติผลิตได้ monoterpenoid iridoid glycosidesแทนการระเหย มีสารเคมีมากขึ้นคล้ายกับ subfamilies อื่น ๆของวงศ์กะเพรา ที่ผลิตชนชั้นเดียวกันของสารประกอบ (Grayer et al.,1999) ซึ่งหมายความ ว่า ความสามารถในการผลิตน้ำมันหอมระเหย 6- 8 oxygenatedflavones ผิวได้อาจเริ่มต้นต่างหากในทั้งครอบครัว (วิวัฒนาการคู่ขนาน)บางทีครอบครัวโรงงานที่ผลิต iridoids มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการผลิตของ monoterpenoid iridoids ที่ประกอบด้วย monoterpenoidน้ำมันหอมระเหย เปลี่ยน biosynthetic ดูเหมือนว่า เกิดขึ้นอย่างอิสระการบางสกุลของครอบครัวที่เกี่ยวข้อง Verbenaceae การพัฒนาการผลิตของ flavones ผิวในพืชที่ผลิตน้ำมันจึงอาจอีกตัวอย่างของวิวัฒนาการคู่ขนานการอ้างอิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ของลำดับดีเอ็นเอและการผลิตของ glycosides iridoid และ caffeoyl Phenylethyl ของพวกเขา
ไกลโคไซด์เช่น verbascoside (Grayer et al., 1999) อย่างไรก็ตาม Nepetoideae
เคมีอนุวงศ์มาอย่างมากในกะเพราขณะที่
Scrophulariaceae ซึ่งปกติผลิต monoterpenoid มา glycosides iridoid
แทนของน้ำมันหอมระเหยที่มีสารเคมีมากขึ้นคล้ายกับครอบครัวอื่น ๆ
ของกะเพราซึ่งผลิตชั้นเรียนเดียวกันของสารประกอบ (Grayer et al.,
1999) ซึ่งหมายความว่าความสามารถในการผลิตน้ำมันหอมระเหยและ 6- 8 ออกซิเจน
flavones พื้นผิวได้อาจจะเกิดขึ้นแยกต่างหากในครอบครัวทั้งสองฝ่าย (วิวัฒนาการขนาน).
บางทีครอบครัวพืชที่ผลิต iridoids มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยน
การผลิตของ iridoids monoterpenoid กับที่ monoterpenoid ที่มี
น้ำมันหอมระเหย การเปลี่ยนแปลงสังเคราะห์นี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระ
ที่จะจำพวกหนึ่งของครอบครัว Verbenaceae ที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาของการผลิต
ของฟลาโวนพื้นผิวในโรงงานที่ผลิตน้ำมันหอมระเหยจึงอาจจะเป็น
ตัวอย่างของการวิวัฒนาการขนานอื่น.
อ้างอิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลำดับของดีเอ็นเอและการผลิตไกลโคไซด์ และ caffeoyl ริ ดอยด phenylethyl
ไซด์เช่นเวอรบาสโคไซด ( เกรเยอร์ et al . , 1999 ) อย่างไรก็ตาม nepetoideae
เคมีสูงได้มา subfamily ในประเทศเนปาล ส่วน
scrophulariaceae ซึ่งปกติผลิต monoterpenoid ได้มาริ ดอยดไซด์
แทนของน้ํามันหอมระเหย , สารเคมีมากขึ้นคล้ายกับ
วงศ์ย่อยอื่น ๆของประเทศเนปาล ซึ่งผลิตในชั้นเรียนเดียวกันของสารประกอบ ( เกรเยอร์ et al . ,
1999 ) นี่หมายความว่า ความสามารถในการผลิตน้ํามันหอมระเหยและ 6 - , 8-oxygenated
ผิวนิลในสูตรอาจจะมาแยกทั้งสองครอบครัว ( วิวัฒนาการคู่ขนาน ) .
บางทีพืชตระกูลที่ผลิต iridoids มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลง
การผลิต monoterpenoid iridoids ที่ monoterpenoid ประกอบด้วย
น้ํามันหอมระเหย การเปลี่ยนแปลงนี้ยังดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างอิสระ
บางสกุลของครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับเวอร์บีนาซี . การพัฒนาการผลิต
ของพื้นผิวในพืชที่ผลิตนิลในสูตรน้ํามันหอมระเหย จึงอาจเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของวิวัฒนาการคู่ขนาน
.
การอ้างอิง