One approach to interpret students’

One approach to interpret students’ scientifically inaccurate ideas that has proved fruitful in the context of physics education research is to consider the framework of knowledge as discrete pieces--called phenomenological primitives, or p-prims--that students develop throughout their lives to make sense of their physical world (di Sessa 1993). For example, the p-prim often referred to as "closer means more" is useful in helping us understand that car headlights appear brighter when cars are closer than when they are farther away. However, students all too often misapply this p-prim when asked to reason about seasons and the corresponding changes in Earth’s temperature. In this context, students will often state that Earth is hotter in the summertime because Earth is closer to the Sun than in the wintertime. Much to the disappointment of faculty, students will often continue to misapply this p-prim to the concept of seasons despite targeted instruction intended to help them understand otherwise.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการหนึ่งในการตีความความคิดที่ไม่ถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีผลในบริบทของการวิจัยการศึกษาฟิสิกส์คือการพิจารณากรอบความรู้เป็นชิ้นส่วนที่ไม่ต่อเนื่อง - เรียกว่าปรากฏการณ์วิทยาการหรือ P-prims - ว่านักเรียนมีการพัฒนาตลอดชีวิตของพวกเขาที่จะทำให้ ความรู้สึกของโลกทางกายภาพของพวกเขา (ดิ Sessa 1993) ยกตัวอย่างเช่น P-Prim มักจะเรียกว่า "หมายถึงใกล้ชิดมากขึ้น" จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้เราเข้าใจว่าไฟหน้ารถสว่างขึ้นเมื่อรถยนต์มีความใกล้ชิดกว่าเมื่อพวกเขาอยู่ห่างไกลออกไป อย่างไรก็ตามนักเรียนทั้งหมดก็มักจะผิด P-Prim นี้เมื่อถามว่าจะด้วยเหตุผลเกี่ยวกับฤดูกาลและการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกันในอุณหภูมิของโลก ในบริบทนี้นักเรียนมักจะระบุว่าโลกร้อนในฤดูร้อนเพราะโลกอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์กว่าในเหมันตฤดู มากไปสู่ความผิดหวังของคณะนักเรียนมักจะยังคงผิด P-Prim นี้กับแนวคิดของฤดูกาลแม้จะมีการเรียนการสอนที่กำหนดเป้าหมายที่ตั้งใจไว้จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการหนึ่งที่จะแปลความคิดที่ไม่ถูกต้องของนักเรียนวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่ามีผลในบริบทของการวิจัยการศึกษาฟิสิกส์คือการพิจารณากรอบของความรู้ที่ต่อเนื่องชิ้น -- เรียกว่า Phenomenological primitives , หรือ p-prims -- นักเรียนพัฒนาตลอดชีวิตของพวกเขาที่จะทำให้ความรู้สึกของโลกทางกายภาพของพวกเขา ( ในเซสซา 1993 ) ตัวอย่างเช่น p-prim มักจะเรียกว่า " ใกล้มีความหมาย " มีประโยชน์ในการช่วยให้เราเข้าใจว่ารถที่ไฟหน้าปรากฏยิ่งเมื่อรถใกล้กว่าเมื่อพวกเขาอยู่ไกลออกไป อย่างไรก็ตาม นักเรียนทั้งหมดก็มักจะใช้ผิดวัตถุประสงค์ p-prim นี้เมื่อถามเหตุผลเกี่ยวกับฤดูกาลและการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกันในอุณหภูมิของโลก ในบริบทนี้ นักเรียนมักจะระบุว่า โลก ร้อน ในช่วงฤดูร้อน เพราะโลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าในฤดูหนาว . มากเพื่อความผิดหวังของคณะนักเรียนมักจะไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ p-prim นี้แนวคิดของฤดูกาล แม้เป้าหมายการสอนมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างอื่น