Racial discrimination occurs when a

Racial discrimination occurs when an individual is subjected to unequal treatment because of their actual or perceived race. The U.S. Constitution and the Civil Rights Act of 1964 work in concert to ensure that each resident’s rights and standing under the law are not damaged by their race. However, it's important to remember that slavery was a major driver of the U.S. economy when the Constitution was first ratified, so racism has long played a major (if dubious) role in American culture. This section offers in-depth information on unlawful racial discrimination in a number of settings, including employment, housing, education, and other public resources. It also provides links to key federal laws and U.S. Supreme Court decisions related to racial discrimination.« Show Less

Racial Discrimination and the U.S. Supreme Court

Many of today's racial anti-discrimination laws are based on decisions by the U.S. Supreme Court, each case telling the story of the struggle for racial equality in the United States. The Court denied U.S. citizenship to all blacks, whether free or slave, in its pre-Civil War Dred Scott (1857) ruling; which would eventually be overturned by passage of the 14th Amendment. Laws are always being altered and replaced, as the Court's history of racial discrimination rulings shows:

Plessy v. Ferguson (1896) - The Court decided 7-1 that racial segregation of public facilities was constitutional under the doctrine of "separate but equal," a holding that was followed until 1954 (Brown v. Board of Education).
Korematsu v. U.S. (1944) - The conviction of a Japanese-American citizen who refused to leave California during the World War II internment of Japanese-Americans, was upheld.
Brown v. Board of Education (1954) - This case reversed the Plessy decision, prohibiting racial segregation of public schools, and laid the groundwork for the Civil Rights Act of 1964.
Loving v. Virginia (1967) - The Court ruled that state laws banning interracial marriage are unconstitutional.
Lau v. Nichols (1973) - A school system's failure to provide English language instruction to students of Chinese ancestry was ruled to be discriminatory.
Employment and Racial Discrimination

Federal and state employment laws prohibit the use of one's racial identity as a basis for hiring, firing, and related employment decisions. Some cases may involve overt racism, but it tends to be much more nuanced and thus difficult to remedy in some cases. For instance, it is illegal to not hire somebody solely based on race. But even so, the rejected job candidate typically has no clue why they didn't get the job; and even when there is suspicion, individuals looking for work are less likely to file lawsuits.

There also may be instances where an employer is acting in a discriminatory manner but isn't even aware. For instance, there may be certain recruitment practices, written tests, or certain policies at work that have a disproportionately adverse effect on racial minorities. But if there isn't a legitimate business reason, the employer may be on the hook for a discrimination claim.

Filing a Racial Discrimination Claim with the EEOC

If you have reason to believe that your employer has discriminated against you on the basis of your race, you may file a "charge" (a formal complaint, but not a civil claim) with the federal Equal Employment Opportunity Commission (EEOC). You must file this charge with the EEOC within 180 days of the alleged discriminatory act, after which the EEOC will send notice to your employer. The agency then investigates the charge to determine its merit and finally makes a finding of cause (or "no cause").

If the EEOC finds cause that your employer may have discriminated, then you and your employer will work toward a settlement as a result of conciliation. But if conciliation fails, you may sue your employer after the agency issues a "right to sue" letter.

Learn more about racial discrimination laws by clicking one of the following links.

- See more at: http://civilrights.findlaw.com/discrimination/racial-discrimination.html/#sthash.y3qrYFHG.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เหยียดผิวเกิดขึ้นเมื่อบุคคลอยู่ภายใต้การรักษาสมดุลเนื่องจากการแข่งขันที่เกิดขึ้นจริงหรือการรับรู้ของพวกเขา สหรัฐอเมริการัฐธรรมนูญและสิทธิของ 1964 การทำงานในคอนเสิร์ตเพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิของแต่ละท้องถิ่นและยืนอยู่ภายใต้กฎหมายจะไม่ได้รับความเสียหายจากการแข่งขันของพวกเขา แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าการเป็นทาสเป็นคนขับรถที่สำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับเป็นครั้งแรกเพื่อให้การเหยียดสีผิวได้เล่นนานที่สำคัญ (ถ้ามีพิรุธ) มีบทบาทในวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน ในส่วนนี้จะนำเสนอข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับการเหยียดผิวที่ผิดกฎหมายในจำนวนของการตั้งค่ารวมทั้งการจ้างงาน, ที่อยู่อาศัย, การศึกษา, และทรัพยากรที่สาธารณะอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงไปกฎหมายของรัฐบาลกลางที่สำคัญและการตัดสินใจของศาลฎีกาสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดผิว. «แสดงน้อยลงการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและศาลฎีกาสหรัฐหลายแห่งกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติของวันนี้ทางเชื้อชาติจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจโดยศาลฎีกาสหรัฐแต่ละกรณีบอก เรื่องราวของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา ศาลปฏิเสธสหรัฐเป็นพลเมืองที่ทุกคนผิวดำไม่ว่าจะฟรีหรือทาสในของมันก่อนสงครามกลางเมืองเบื่อก็อตต์ (1857) การพิจารณาคดี; ซึ่งจะได้รับการพลิกคว่ำโดยเนื้อเรื่องของ 14 แปรญัตติ กฎหมายมักจะถูกเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของศาลชี้ขาดเหยียดผิวแสดง: . Plessy โวลต์เฟอร์กูสัน (1896) - ศาลตัดสิน 7-1 ที่แยกเชื้อชาติของสถานที่สาธารณะเป็นรัฐธรรมนูญภายใต้หลักคำสอนของ " แต่แยกกัน" โฮลดิ้งที่ตามมาจนถึง 1954 (โวลต์คณะกรรมการการศึกษา.). Korematsu V สหรัฐ (1944). - เชื่อมั่นของพลเมืองญี่ปุ่นอเมริกันที่ปฏิเสธที่จะออกจากแคลิฟอร์เนียในช่วงกักกันสงครามโลกครั้งที่สองของญี่ปุ่นอเมริกันอยู่ในเกณฑ์ดี . . โวลต์คณะกรรมการการศึกษา (1954) - กรณีนี้ย้อนกลับไปที่การตัดสินใจ Plessy ห้ามแยกเชื้อชาติของโรงเรียนของรัฐและวางรากฐานสำหรับสิทธิของปี 1964 รักโวลต์เวอร์จิเนีย (1967). - ศาลปกครองรัฐว่า กฎหมายห้ามเชื้อชาติแต่งงานมีรัฐธรรมนูญ. Lau วีนิโคลส์ (1973). - ความล้มเหลวของระบบโรงเรียนเพื่อให้การเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนเชื้อสายจีนถูกปกครองที่จะพินิจพิเคราะห์. จ้างงานและการเหยียดผิวของรัฐบาลกลางและการจ้างงานของรัฐกฎหมายห้ามการใช้งานของคนเชื้อชาติ ตัวตนที่เป็นพื้นฐานสำหรับการจ้างงาน, การยิงและการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน บางกรณีอาจจะเกี่ยวข้องกับการเหยียดสีผิวโจ่งแจ้ง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเหมาะสมยิ่งมากขึ้นและยากดังนั้นเพื่อแก้ไขในบางกรณี ยกตัวอย่างเช่นมันเป็นกฎหมายที่จะไม่จ้างใครสักคน แต่เพียงผู้เดียวบนพื้นฐานของเชื้อชาติ แต่ยังให้ผู้สมัครงานปฏิเสธมักจะมีเบาะแสว่าทำไมพวกเขาไม่ได้รับงานไม่; และแม้จะมีความสงสัยบุคคลที่กำลังมองหางานที่มีโอกาสน้อยที่จะยื่นฟ้องคดี. นอกจากนี้ยังอาจจะเป็นกรณีที่นายจ้างจะทำหน้าที่ในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติ แต่ไม่ได้ตระหนักถึงแม้ ยกตัวอย่างเช่นอาจจะมีการปฏิบัติบางอย่างการรับสมัครการทดสอบเขียนหรือนโยบายบางอย่างในการทำงานที่มีผลกระทบเป็นสัดส่วนในชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติ แต่ถ้ามีไม่ได้เป็นเหตุผลที่ธุรกิจที่ถูกกฎหมายนายจ้างอาจจะอยู่ในตะขอสำหรับการเรียกร้องการเลือกปฏิบัติ. ใช้สิทธิเรียกร้องเหยียดผิวกับ EEOC หากคุณมีเหตุผลที่จะเชื่อว่านายจ้างของคุณได้เลือกปฏิบัติกับคุณบนพื้นฐานของการแข่งขันของคุณ คุณอาจยื่น "ค่าใช้จ่าย" (ร้องเรียนอย่างเป็นทางการ แต่ไม่เรียกร้องทางแพ่ง) กับรัฐบาลกลางที่เท่าเทียมกันโอกาสการจ้างกรรมการ (EEOC) คุณต้องยื่นค่าใช้จ่ายนี้ด้วย EEOC ภายใน 180 วันแห่งพระราชบัญญัติการเลือกปฏิบัติที่ถูกกล่าวหาหลังจากที่ EEOC จะส่งแจ้งให้นายจ้างของคุณ หน่วยงานนั้นสำรวจค่าใช้จ่ายในการกำหนดบุญและในที่สุดก็ทำให้การค้นหาของสาเหตุ (หรือ "ไม่มีสาเหตุ"). ถ้า EEOC พบว่าทำให้เกิดการที่นายจ้างของคุณอาจจะเลือกปฏิบัติแล้วคุณและนายจ้างของคุณจะทำงานต่อการตั้งถิ่นฐานเป็นผล ของการเจรจาต่อรอง แต่ถ้าการเจรจาต่อรองล้มเหลวคุณอาจฟ้องนายจ้างของคุณหลังจากที่หน่วยงานที่ประเด็น "สิทธิที่จะฟ้อง" จดหมาย. เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายเหยียดผิวโดยการคลิกลิงค์ใดลิงค์หนึ่งต่อไปนี้. - ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://civilrights.findlaw.com /discrimination/racial-discrimination.html/#sthash.y3qrYFHG.dpuf