อาหารขยะมีสารอาหารหลักจำพวก แป้ง น้ำตาล และไขมัน ทั้งสามอย่างนี้เน้นให้พลังงานทั้งหมดด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันสารอาหารจำพวก โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่นั้น หาได้ยากให้อาหารประเภทนี้ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำลายความสมดุลทางโภชนาการของร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่างๆ ดังนี้
- เกิดภาวะไม่สมดุลยทางโภชนาการของร่างกาย นั่นคือ การได้รับสารอาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง ในปริมาณที่เกินความพอดี ในทางกลับกัน ร่างกายขาดสารอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป ภาวะเช่นนี้ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบขับถ่าย และระบบย่อยอาหาร ทำให้ขับถ่ายผิดเวลา บางครั้งถึงกับไม่มีการขับถ่ายเลยในหนึ่งวันนั้นๆ การย่อยอาหารยากขึ้น เนื่องจากขาดใยอาหารที่มีส่วนช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร
- เกิดการสะสมไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาหารประเภทนี้ให้พลังงานเป็นสารอาหารหลัก เมื่อร่างกายได้รับพลังงานในปริมาณมาก แล้วจะไม่สามารถใช้นำไปให้หมดได้ พลังงานดังกล่าวจะแปรเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของไขมัน แล้วเก็บอยู่ตามส่วนต่างๆ โดยเฉพาะ ต้นขา ต้นแขน และหน้าท้อง สร้างความไม่มั่นใจแก่ผู้บริโภค บุคลิกภาพแย่ลง และที่ร้ายแรง คือ โรคอ้วน ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคแทรกซ้อนต่างๆอีกมาก เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบ โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด โรคความดันเลือดสูง เป็นต้น
- อันตรายจากวัตถุดิบ และกรรมวิธีการผลิต เพราะอาหารขยะไม่ได้ผ่านการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เนื่องจากความต้องการของผู้ผลิตที่จะผลิตอาหารในปริมาณที่มากแต่ราคาถูก ทำให้วัตถุดิบที่ใช้ผลิตนั้น ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานในการผลิตอาหาร ยกตัวอย่างเช่น เนื้อบดที่ใช้ในการผลิตแฮมเบอร์เกอร์(Hamburger) นั้น เหตุใดจึงต้องบด ทั้งที่สามารถใช้เนื้อสัน หรือเนื้อชิ้นส่วนอื่นได้ คำตอบคือ ภายในเนื้อบดนั้น ประกอบไปด้วยเนื้อแท้ๆเพียงไม่กี่ส่วน แต่ที่รวมอยู่ด้วยคือ หนัง เล็บ และส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการขจัดออก นำไปบดรวมกันเพื่อให้ได้ในปริมาณที่ต้องการ ส่วนเรื่องของกรรมวิธีการผลิตนั้น อาหารขยะแทบทั้งหมดใช้วิธีการทอด เพื่อให้อาหารมีความกรอบ และมัน ชวนให้ผู้บริโภคติดใจ และอยากบริโภคอีก โดยที่ไม่คำนึงว่า อาหารจำพวกมันฝรั่ง และแป้ง เมื่อรวมกับน้ำมัน แล้วผ่านความร้อนที่สูง(เช่นกรรมวิธีการทอด) จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งได้เร็วขึ้นกว่าปกติหลายเท่าตัว
โรคที่แฝงมากับอาหารขยะ
- โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูง เพราะกินอาหารที่มีไขมันบ่อย พอสะสมในร่างกายเยอะๆ ทำให้เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตและโรคไต
- โรคข้อกระดูกอักเสบ น้ำหนักที่มากเกิน ส่งผลให้ข้อเข่าและสะโพกล้า กระดูกอ่อนอาจเสื่อมสภาพได้
- โรคตับ หากสะสมไขมันในตับ อาจทำให้เป็นโรคตับแข็งได้
- โรคเบาหวาน พอมีไขมันที่หน้าท้องมากเกิน ทำให้เกิดการต้านอินซูลินส่งผลให้สะสมกลูโคสในร่างกายทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลให้ทำลายหลอดเลือดในจอตา ทำให้ตาบอดแทรกซ้อนได้
- ไขมันในเลือดสูง เพราะกินอาหารจำพวกนี้เป็นประจำ เสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน หลอดเลือดพิการ เพราะไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด
อาหารต่างๆล้วนแต่มีประโยชน์ หากรู้จักเลือกรับประทาน และทานในปริมาณที่เหมาะสม