DISCUSSIONTime of planting influenc

DISCUSSION
Time of planting influenced the tuber yield of cassava.
Planting cassava at the onset of rains in 1999 gave
higher yield than late season planting in 2000. The
vegetative stage and tuber initiation of late planted
cassava suffered severe stress due to cessation of
rainfall for three to four months of the dry season period
(November – February) in south-western Nigeria.The dry
season is characterized by low soil moisture and high soil
temperature. Stress was experienced in early-planted
cassava only at maturity period. Water stress during root
and tuber formation reduced cassava yield significantly
while that after seven months of planting had no influence
on yield (Oliveira et al., 1982; Villamayor et al., 1985; ElSharkawy
et al., 1998). This indicated that stress at
vegetative and growth stages rather than at post maturity
stage caused lower yield in cassava.
The addition of fertilizer did not influenced tuber yield in
1999 due to the influence of rainfall on fertilizer during
early planting. There was excessive rainfall in 1999 and a
total of 990 mm was recorded in the first three months
after fertilizer was applied in the early planting season.
This had negative influence on fertilizer retention and
availability to plants. In late planted cassava (2001), the
total rainfall in the first three months after fertilization was
low (284 mm) and also in the second fertilizer application,
total rainfall for three months was 417 mm. Rainfall
pattern and intensity influenced inorganic fertilizer
efficiency in cassava yield. The excessive rainfall washes
applied nutrient and soils in agricultural lands in rainforest
areas making fertilizers unavailable for plant use (Ofori,
1976). The onset of rains after the dry season
encouraged the rapid development of the above ground
biomass in late planted cassava. With the combined
effect of applied fertilizer and low rainfall in a soil with
average N and K levels, a luxuriant top growth was
enhanced at the expense of tuber growth. During this
period a high nutrient concentration of fertilizers at 400 kg
and 800 kg NPK/ha depressed the cassava tuber yield.
A similar influence of excessive nutrient on cassava top
biomass at the expense of tuber yield had been reported
(Sanchez, 1976).
Tuber rot was lowest in TMS 00033 and NR 8082 and
this accounted for their higher yields in both planting
periods. Also, TMS 91/453 yield was depressed due to
high rot incidence in early planting but the yield increased
by 17% in late planting season as a result of lower
incidence of rot. These indicated that genetic improvement
and selection for rot resistance will enhance yield in
cassava varieties cultivated in south-western Nigeria.
From the study, early-planted cassava gave better yield
than late planted ones. Late season cassava also gave
lower yield in south-western Zaire due to low moisture
regime and high soil temperature during the vegetative
stage. Tuber yield increased with the use of mulch during
the dry season (Lutaladio et al., 1992). The application of
supplemental irrigation during late season cassava
production will increase yield and productivity of cassava
in south–western Nigeria. With the high cost of irrigation,
introduction of drought resistant varieties for late season
cultivation will improve the yield of cassava significantly
among peasant farmers in south-western Nigeria. The
response of cassava to fertilizer will improve in late
season cultivation where a controlled irrigation system is
used but the application of fertilizer to early-planted
cassava will remain uneconomical and wasteful in
season of excessive rainfall.
Among the varieties, NR 8082 was better planted early
than in late season while TMS 00033 which gave stable
yields in both early and late planting is recommended for
adoption trials by farmers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาเวลาปลูกมีอิทธิพลต่อผลผลิตหัวของมันสำปะหลังปลูกมันสำปะหลังอย่างฝนในปี 1999 ให้ผลผลิตสูงกว่าปลายฤดูเพาะปลูกในปี 2000 ที่ปลูกผักเรื้อรังระยะและหัวเริ่มต้นของสายมันสำปะหลังประสบความเครียดอย่างรุนแรงเนื่องจากการยุติปริมาณน้ำฝน 3-4 เดือนระยะเวลาแล้ง(พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) ในตะวันตกใต้ Nigeria.The แห้งฤดูกาลมีลักษณะ โดยความชื้นในดินต่ำและดินสูงอุณหภูมิ ความเครียดมีประสบการณ์ในการปลูกต้นมันสำปะหลังที่ครบกำหนดรอบระยะเวลา ความเครียดของน้ำในรากและก่อตัวหัวน้อยผลผลิตมันสำปะหลังมากในขณะที่หลังจากเดือนที่ 7 ของการเพาะปลูกมีอิทธิพลไม่บนผลตอบแทน (Oliveira et al., 1982 Villamayor และ al., 1985 ElSharkawyและ al., 1998) ซึ่งระบุว่า ความเครียดที่ผักเรื้อรัง และระยะการเจริญเติบโตแทน ที่ไปรษณีย์กำหนดระยะเกิดต่ำกว่าผลผลิตในมันสำปะหลังการเพิ่มปุ๋ยได้ผลผลิตไม่เชืหัวในปี 1999 เนื่องจากอิทธิพลของฝนในปุ๋ยระหว่างก่อนปลูก มีปริมาณน้ำฝนมากเกินไปในปี 1999 และบันทึกในสามเดือนแรกจำนวน 990 มม.หลังจากมีใช้ปุ๋ยในต้นฤดูปลูกนี้มีอิทธิพลลบในการเก็บรักษาปุ๋ย และพร้อมกับพืช ในสายปลูกมันสำปะหลัง (2001), การปริมาณน้ำฝนรวมในสามเดือนแรกหลังจากการปฏิสนธิได้ต่ำ (284 mm) และ ในที่สองใส่ ปุ๋ยปริมาณน้ำฝนรวมสามเดือนได้ 417 มม.ปริมาณน้ำฝนรูปแบบและความรุนแรงอิทธิพลปุ๋ยอนินทรีย์ประสิทธิภาพในผลผลิตมันสำปะหลัง ต่อผิวหน้าปริมาณน้ำฝนมากเกินไปใช้ธาตุอาหารและในพื้นที่เกษตรกรรมในป่าพื้นที่ทำปุ๋ยที่พร้อมใช้งานสำหรับใช้ในโรงงาน (Ofori1976) ของฝนหลังฤดูแล้งส่งเสริมการพัฒนาอย่างรวดเร็วของพื้นดินด้านบนชีวมวลในมันสำปะหลังที่ปลูกล่าช้า มีการรวมผลของการใช้ปุ๋ยและปริมาณน้ำฝนต่ำในดินด้วยค่าเฉลี่ย N และ K ระดับ เจริญเติบโตสูงสุดที่ชัดเจนได้เพิ่มค่าใช้จ่ายหัวเจริญเติบโต ในระหว่างนี้รอบระยะเวลาความเข้มข้นธาตุอาหารสูงปุ๋ยที่ 400 กิโลกรัมและผลผลิตหัวมันสำปะหลังเชื่อมซึม 800 kg NPK/ฮาอิทธิพลคล้ายธาตุอาหารมากเกินไปมันสำปะหลังด้านบนมีรายงานการชีวมวลค่าใช้จ่ายผลผลิตหัว(ซาน 1976)หัว rot ได้ต่ำสุดใน TMS 00033 NR 8082 และซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนของพวกเขาสูงทั้งการปลูกรอบระยะเวลา ยัง TMS 91/453 ผลผลิตตกต่ำเนื่องอุบัติการณ์สูง rot ก่อนปลูกแต่ผลผลิตเพิ่มขึ้น17% ในการปลูกฤดูกาลจากล่างสายอุบัติการณ์ของ rot เหล่านี้แสดงการปรับปรุงพันธุกรรมและการต้านทาน rot จะเพิ่มผลผลิตในพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูกในประเทศไนจีเรียตะวันตกใต้จากการศึกษา ปลูกต้นมันสำปะหลังให้ผลผลิตดีกว่าสายปลูกคน นอกจากนี้ยังให้มันสำปะหลังช่วงปลายฤดูผลผลิตต่ำใน Zaire ใต้ตะวันตกเนื่องจากความชื้นต่ำระบอบการปกครองและอุณหภูมิดินสูงในช่วงที่ผักเรื้อรังขั้นตอนการ หัวผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ด้วยการใช้การ mulch ระหว่างฤดูแล้ง (Lutaladio et al., 1992) การประยุกต์ใช้ชลประทานเพิ่มเติมระหว่างมันสำปะหลังช่วงปลายฤดูผลิตการเพิ่มผลผลิตและผลผลิตของมันสำปะหลังประเทศไนจีเรียใต้ – ตะวันตก ด้วยต้นทุนที่สูงของชลประทานแนะนำพันธุ์ที่ทนแล้งในช่วงปลายฤดูเพาะปลูกจะเพิ่มผลผลิตของมันสำปะหลังอย่างมีนัยสำคัญในหมู่เกษตรกรชาวนาในตะวันตกใต้ไนจีเรีย ที่ตอบสนองของมันสำปะหลังปุ๋ยจะปรับปรุงในสายฤดูกาลเพาะปลูกซึ่งเป็นระบบชลประทานควบคุมใช้แต่แอพลิเคชันของปุ๋ยก่อนปลูกมันสำปะหลังจะอยู่ใน wasteful และ uneconomicalฤดูกาลปริมาณน้ำฝนมากเกินไประหว่างพันธุ์ NR 8082 ได้ดีกว่าปลูกต้นกว่าในปลายฤดูกาลขณะ TMS 00033 ซึ่งให้มั่นคงแนะนำสำหรับอัตราผลตอบแทนในการปลูกทั้งต้น และปลายยอมรับการทดลอง โดยเกษตรกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อภิปรายเวลาของการปลูกอิทธิพลต่อผลผลิตมันสำปะหลังหัว.
มันสำปะหลังปลูกที่เริ่มมีอาการของฝนในปี 1999
ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการปลูกในฤดูกาลในช่วงปลายปี2000 ขั้นตอนพืชและการเริ่มต้นของการปลูกพืชในช่วงปลายมันสำปะหลังได้รับความเดือดร้อนอย่างรุนแรงความเครียดเนื่องจากการหยุดชะงักของปริมาณน้ำฝนที่สามถึงสี่เดือนของรอบระยะเวลาฤดูแล้ง(พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ในทางตะวันตกเฉียงใต้ Nigeria.The แห้งฤดูกาลที่โดดเด่นด้วยความชุ่มชื้นในดินต่ำและดินสูงอุณหภูมิ ความเครียดมีประสบการณ์ในช่วงต้นปลูกมันสำปะหลังเฉพาะที่ครบกำหนดระยะเวลา ความเครียดในช่วงน้ำรากสร้างและผลผลิตมันสำปะหลังหัวลดลงอย่างมากในขณะที่ว่าหลังจากเจ็ดเดือนของการปลูกไม่มีผลต่อผลผลิต(Oliveira et al, 1982;.. Villamayor et al, 1985; ElSharkawy., et al, 1998) แสดงให้เห็นว่าความเครียดในที่พืชและระยะการเจริญเติบโตมากกว่าที่โพสต์ครบกําหนดขั้นตอนการก่อให้เกิดผลตอบแทนที่ต่ำกว่าในมันสำปะหลัง. นอกจากนี้ปุ๋ยไม่ได้มีอิทธิพลต่อผลผลิตหัวในปี 1999 อันเนื่องมาจากอิทธิพลของปริมาณน้ำฝนในปุ๋ยในช่วงการเพาะปลูกในช่วงต้น มีปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปในปี 1999 และรวมของ990 มมถูกบันทึกไว้ในช่วงสามเดือนแรกหลังจากที่ถูกนำมาใช้ปุ๋ยในฤดูกาลเพาะปลูกในช่วงต้น. นี้มีอิทธิพลในทางลบต่อการเก็บรักษาปุ๋ยและความพร้อมให้กับโรงงาน ในช่วงปลายทศวรรษที่ปลูกมันสำปะหลัง (2001) ซึ่งเป็นปริมาณน้ำฝนรวมในช่วงสามเดือนแรกหลังจากการปฏิสนธิเป็นต่ำ(284 มิลลิเมตร) และยังอยู่ในปุ๋ยที่สองปริมาณน้ำฝนรวมสำหรับงวดสามเดือนเป็น417 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำฝนรูปแบบและความรุนแรงอิทธิพลปุ๋ยอนินทรีประสิทธิภาพในการให้ผลผลิตมันสำปะหลัง ล้างปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปใช้สารอาหารและดินในดินแดนทางการเกษตรในป่าฝนเขตพื้นที่การทำปุ๋ยพร้อมใช้งานสำหรับการใช้พืช(Ofori, 1976) การโจมตีของฝนหลังจากฤดูแล้งได้รับการสนับสนุนการพัฒนาอย่างรวดเร็วของบนพื้นดินชีวมวลในมันสำปะหลังที่ปลูกปลาย ด้วยการรวมผลกระทบของการใช้ปุ๋ยและปริมาณน้ำฝนต่ำในดินที่มีค่าเฉลี่ยยังไม่มีและระดับK, การเจริญเติบโตงอกงามด้านบนได้รับการเพิ่มค่าใช้จ่ายของการเจริญเติบโตของหัว ในช่วงระยะเวลาที่มีความเข้มข้นสารอาหารสูงของปุ๋ยที่ 400 กก. และ 800 กก. NPK / ไร่หดหู่ผลผลิตพืชมันสำปะหลัง. อิทธิพลที่คล้ายกันของสารอาหารที่มากเกินไปในมันสำปะหลังบนชีวมวลที่ค่าใช้จ่ายของผลผลิตพืชได้รับรายงาน(ซานเชซ, 1976). หัว เน่าต่ำสุดใน TMS 00,033 และ NR 8082 และครั้งนี้คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นทั้งในการปลูกระยะเวลา นอกจากนี้ TMS 91/453 ผลผลิตได้รับความสุขอันเนื่องมาจากอัตราการเกิดโรคโคนเน่าสูงในการปลูกต้นแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น17% ในช่วงปลายฤดูกาลเพาะปลูกเป็นผลจากการลดลงอุบัติการณ์ของโรคโคนเน่า เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการปรับปรุงทางพันธุกรรมและการเลือกสำหรับความต้านทานเน่าจะช่วยเพิ่มผลผลิตในพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูกในประเทศไนจีเรียตะวันตกเฉียงใต้. จากการศึกษามันสำปะหลังต้นที่ปลูกให้ผลผลิตที่ดีขึ้นกว่าคนที่ปลูกปลาย มันสำปะหลังในช่วงปลายฤดูกาลที่ยังให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าใน Zaire ตะวันตกเฉียงใต้อันเนื่องมาจากความชื้นต่ำระบอบการปกครองและอุณหภูมิดินสูงในช่วงที่พืชเวที ผลผลิตหัวที่เพิ่มขึ้นด้วยการใช้วัสดุคลุมดินในช่วงฤดูแล้ง (Lutaladio et al., 1992) การประยุกต์ใช้การชลประทานเสริมในช่วงปลายฤดูมันสำปะหลังการผลิตจะเพิ่มผลผลิตและผลผลิตของมันสำปะหลังในทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย ด้วยต้นทุนที่สูงของการชลประทานการแนะนำของสายพันธุ์ที่ทนแล้งสำหรับปลายฤดูการเพาะปลูกจะเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังอย่างมีนัยสำคัญในหมู่เกษตรกรชาวนาในทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย ตอบสนองของมันสำปะหลังปุ๋ยจะดีขึ้นในช่วงปลายปีการเพาะปลูกในฤดูกาลที่ระบบชลประทานควบคุมใช้แต่ใส่ปุ๋ยให้กับต้นที่ปลูกมันสำปะหลังจะยังคงไม่ประหยัดและสิ้นเปลืองในฤดูกาลปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป. ท่ามกลางพันธุ์ NR 8082 ปลูกที่ดีขึ้นในช่วงต้นกว่าในช่วงปลายฤดูกาลขณะที่ TMS 00033 ซึ่งทำให้มีเสถียรภาพอัตราผลตอบแทนทั้งในการปลูกต้นและปลายเป็นที่แนะนำสำหรับการทดลองการยอมรับจากเกษตรกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย
เวลาปลูกต่อผลผลิตมันสำปะหลัง มันเทศ มันสำปะหลัง ปลูก .
ที่ onset ของฝนในปี 1999 จะให้ผลผลิตสูงกว่าการปลูกในฤดู
2000 สาย
เวทีและการปลูกพืชหัวช้า
มันสำปะหลังประสบความเครียดเนื่องจากการ
ฝนตกรุนแรง สามสี่เดือนของช่วงฤดูแล้ง ( พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ )

ใต้ตะวันตกไนจีเรีย แห้งฤดูกาลเป็นลักษณะความชื้นต่ำและอุณหภูมิดิน
สูง ความเครียดคือประสบการณ์ในการปลูกมันสำปะหลังต้น
เพียงระยะเวลาครบกําหนด แล้งน้ำในรากและการลดผลผลิตมันสำปะหลังหัว

ส่วนทางเจ็ดเดือนหลังจากปลูกไม่มีผลต่อ
ต่อผลผลิต ( Oliveira et al . , 1982 ; บียามายอร์ et al . , 1985 ; elsharkawy
et al . , 1998 ) นี้ พบว่า ความเครียด
ลักษณะและขั้นตอนการเจริญเติบโตมากกว่าระยะสุกแก่ ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลงโพสต์
.
เพิ่มปุ๋ยไม่มีผลต่อผลผลิตมันฝรั่งใน
2542 เนื่องจากอิทธิพลของปริมาณน้ำฝนในปุ๋ยในระหว่าง
ก่อนปลูก มีปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปในปี 1999 และ
รวม 990 มม. อัดใน
3 เดือนแรกหลังปุ๋ยเคมีในฤดูปลูกแรก .
นี้จะมีอิทธิพลในทางลบต่อการเก็บรักษาปุ๋ย
ความพร้อมสู่พืช ในช่วงการปลูกมันสำปะหลัง ( 2001 ) ,
รวมปริมาณน้ำฝนในช่วง 3 เดือนแรกหลังการปฏิสนธิคือ
ต่ำ ( 284 มม. ) และในการใส่ปุ๋ย 2
ปริมาณน้ำฝนรวม 3 เดือน คือ 417 มิลลิเมตร รูปแบบและอิทธิพลปุ๋ยอนินทรีย์ความเข้มฝน

ประสิทธิภาพผลผลิตมันสำปะหลังการล้างปริมาณน้ำฝนมากเกินไป
ใช้ธาตุอาหารพืชและดินในพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่ป่าฝน
ทำปุ๋ยไม่พร้อมใช้งานสำหรับการใช้พืช ( ofori
, 1976 ) การโจมตีของฝนตามฤดู
สนับสนุนการพัฒนาอย่างรวดเร็วของมวลชีวภาพเหนือพื้นดิน
ช้าปลูกมันสำปะหลัง กับผลรวม
ใช้ปุ๋ยและปริมาณน้ำฝนต่ำในดิน
เฉลี่ยของ N และ K ระดับมีการเจริญเติบโตงอกงามบน
เพิ่มค่าใช้จ่ายของการเจริญเติบโตของหัว ในช่วงระยะเวลานี้
สูงความเข้มข้นของธาตุอาหารของปุ๋ยที่ 400 กิโลกรัม และ 800 กิโลกรัม / ไร่ ปุ๋ย NPK

ส่วนหดหู่มันสำปะหลังผลผลิต มีอิทธิพลคล้ายกันมากเกินไปสารอาหารมันสำปะหลังด้านบน
ชีวมวลที่ค่าใช้จ่ายของผลผลิตมันฝรั่งได้รับรายงาน
( ซานเชส , 1976 ) .
หัวเน่าถูกสุดใน TMS และ 00033 ยางธรรมชาติ 8082 และ
นี้คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นของพวกเขาทั้งในการปลูก
คาบ นอกจากนี้ สูงสุด 91 / 453 ผลผลิตกำลังเศร้าใจเนื่องจากอุบัติการณ์สูงในการปลูกต้นเน่า

แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 17% ในช่วงฤดูปลูก ผลของการลด
ของเน่า ชี้ให้เห็นว่า การปรับปรุงพันธุ์และการคัดเลือกสำหรับเน่า
ต้านทานจะเพิ่มผลผลิตของพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูกในตะวันตก

ใต้ไนจีเรียส์จากการศึกษาก่อนปลูกมันสำปะหลังให้
ให้ผลดีกว่าสายคนปลูก ฤดูกาลล่าสุดมันสำปะหลังยังให้ผลผลิตลดลงในซาอีร์
ใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากความชื้นต่ำและอุณหภูมิของดินสูง
ในระหว่างขั้นตอนและ

ผลผลิตมันฝรั่งเพิ่มขึ้น ด้วยการใช้วัสดุคลุมดินในฤดูแล้ง (
lutaladio et al . , 1992 ) โปรแกรมเสริมในช่วงฤดูน้ำ

มันสําปะหลังการผลิตจะเพิ่มผลผลิตและผลผลิตมันสำปะหลัง
ในภาคใต้–ตะวันตกไนจีเรีย กับค่าใช้จ่ายสูงของชลประทาน
แนะนำพันธุ์ทนแล้งในช่วงฤดูการเพาะปลูก
จะช่วยเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกรอย่างมีนัยสำคัญ
ชาวนาในภาคตะวันตกเฉียงใต้ไนจีเรีย การตอบสนองต่อปุ๋ยมันสำปะหลัง

จะปรับปรุงในปลายฤดูการเพาะปลูกที่ควบคุมระบบการชลประทานคือ
ใช้แต่ใส่ปุ๋ยก่อนปลูกมันสำปะหลังจะอยู่ที่ฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลือง

ในฤดูฝนมากเกินไป .
ของพันธุ์ยาง 8082 ดีกว่าปลูกเร็วกว่าในช่วงปลายฤดู ขณะที่งาน

00033 ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่มั่นคงทั้งเร็วและช้า การปลูก แนะนำ ให้ สำหรับ
ยอมรับการทดลอง โดยเกษตรกร