ชื่อเกิด แองเจลีนา โจลี วอยต์
เกิด 4 มิถุนายน พ.ศ. 2518
คู่สมรส จอห์นนี่ ลี มิลเลอร์ (2539-2542) เจอกันระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Hackers
บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน (2543-2546) เจอกันระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Pushing Tin
แบรด พิตต์ (2548-ปัจจุบัน)
ประวัติครอบครัว และผลงานด้านการแสดง
แองเจลีนา โจลี วอยต์เกิดมาในครอบครัวของนักแสดงโดยตรง โดยคุณพ่อ จอน วอยห์ และคุณแม่ มาร์เชลีน เบอร์ทรานด์และมีพี่ชายอีกคนหนึ่งคือ เจมส์ เฮเว่น ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงเช่นกัน เธอได้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดในโลก เช่นเดียวกับสตรีที่ "สวยที่สุด" ในโลก ซึ่งที่ฉายาที่เธอได้รับความสนใจจากสื่ออย่างต่อเนื่อง มีลูกทั้งหมด 6 คน มีลูกบุญธรรม 3 คนอย่างแม็ดด็อกซ์ , แพ็กซ์ เทียน และสะฮารา รวมถึงลูกสาวคนโตแท้ๆ อย่างไชโลห์ และฝาแฝดหญิง น็อกซ์ และ วิเวียน
ในด้านการแสดงนั้น แองเจลินา โจลี เริ่มต้นงานแสดงเมื่ออายุ 7 ขวบ จากบทเล็ก ๆ ในเรื่อง Lookin' to Get Out ซึ่งคุณพ่อของเธอร่วมเขียนบทและรับบทในเรื่องนี้ด้วย และเธอยังเคยเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ที่พี่ชายกำกับ ในช่วงที่พี่ชายเรียนที่โรงเรียนสอนด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ รวมทั้งยังเคยเล่นมิวสิควิดีโอมากมาย ทั้งเพลง Stand by My Woman ของ Lenny Kravitz , เพลง Alta Marea ของ Antonello Venditti แต่แองเจลินา โจลี เริ่มงานนักแสดงอาชีพในปี ค.ศ. 1993 จากการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Cyborg 2 แต่เนื่องจากเธอเองรู้สึกผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เธอไม่ไปออดิชั่นภาพยนตร์เรื่องไหนอีกเลยเป็นปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1995 ที่ แองเจลินา โจลี ได้รับบท Kate Libby ในภาพยนตร์เรื่อง Hackers และได้รับเสียงตอบรับในแง่ดีจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมาก และในปี ค.ศ. 1996 แองเจลินา โจลี ก็มีงานออกมาเรื่อย ๆ จากทั้งภาพยนตร์เรื่อง Love Is All There Is, Mojave Moon และยังได้เล่นมิวสิควิดีโอเพลง Anybody Seen My Baby? ของ Rolling Stones อีกด้วย ผลงานของ แองเจลินา โจลี เริ่มโดดเด่นขึ้นเป็นอย่างมาก ในช่วงปี ค.ศ. 1998 จากผลงานละครโทรทัศน์เรื่อง George Wallace ที่ส่งให้เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ และเธอยังมีชื่อเข้าชิงรางวัล เอมมี่ อวอร์ด และในปี ค.ศ. 1998 แองเจลินา โจลี ได้รับเล่นซีรีส์เรื่อง Gia ซึ่งจากซีรีส์เรื่องนี้ ส่งผลให้ แองเจลินา โจลี คว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาครอง และมีชื่อเข้าชิงรางวัล เอมมี่ อวอร์ด อีกครั้ง อีกทั้งเธอยังได้รับรางวัลจากสมาคมนักแสดงเป็นครั้งแรกด้วย แต่ภายหลังจากการประสบความสำเร็จจากซีรีส์เรื่อง Gia แล้ว แองเจลินา โจลี กลับหันหลังให้วงการบันเทิง เนื่องจากเธอรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะแสดงอีก เธอเลิกกับสามี และลงเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ในด้านภาพยนตร์และเขียนบท แต่ไม่นานหลังจากนั้น แองเจลินา โจลี ก็กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง จากเรื่อง Hell's Kitchen และ Playing by Heart, The Bone Collector แองเจลินา โจลี รับบท สมทบในภาพยนตร์เรื่อง Girl, Interrupted โดยที่เธอเองได้แสดงคู่กับ วิโนนา ไรเดอร์ จนส่งผลให้ แองเจลินา โจลี ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงไปครอง
หลังจากนั้น นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา แองเจลินา โจลี ก็เริ่มรับบทกับภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากขึ้น อาทิเรื่อง Gone In 60 Seconds และ Lara Croft: Tomb Raider ซึ่งทำให้เธอต้องไปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษและฝึกศิลปะการต่อสู้ และจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้แองเจลินา โจลี กลับมาอีกครั้งในเรื่อง Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life อันทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่มีรายได้มากที่สุดของฮอลลีวูดในเวลานั้น และยังได้แสดงในภาพยนตร์ดราม่าอย่าง Beyond Borders, Taking Lives และ Alexander
ในปี ค.ศ.2005-2011 แองเจลินา โจลี ได้รับเล่นภาพยนตร์เรื่อง Mr. & Mrs. Smith ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เธอได้พบกับ แบรด พิตต์ สามีของเธอ และยังได้เล่นภาพยนตร์คุณภาพอีกหลายเรื่อง เช่น The Good Shepherd, A Mighty Heart, Beowulf, Wanted รวมทั้งยังได้ร่วมงานกับ คลินต์ อีสท์วู้ด ผู้กำกับคนดังจากภาพยนตร์เรื่อง Changeling ซึ่งส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ รางวัลบาฟต้า และรางวัลจากสมาคมนักแสดง นอกจากนี้ แองเจลินา โจลี ยังมีโอกาสได้กำกับและเขียนบทในภาพยนตร์เรื่อง In the Land of Blood and Honey
ชื่อเกิดแองเจลีนาโจลีวอยต์เกิด 4 มิถุนายนพ.ศ. 2518แฮกเกอร์คู่สมรสจอห์นนี่ลีมิลเลอร์ (2539-2542) เจอกันระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง บิลลี่บ็อบธอร์นตัน (2543- ๒๕๔๖) เจอกันระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องผลักดันกระป๋อง แบรดพิตต์ (2548-ปัจจุบัน)ประวัติครอบครัวและผลงานด้านการแสดง แองเจลีนาโจลีวอยต์เกิดมาในครอบครัวของนักแสดงโดยตรงโดยคุณพ่อจอนวอยห์และคุณแม่มาร์เชลีนเบอร์ทรานด์และมีพี่ชายอีกคนหนึ่งคือเจมส์เฮเว่นซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงเช่นกันเธอได้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดในโลกเช่นเดียวกับสตรีที่ "สวยที่สุด" ในโลกซึ่งที่ฉายาที่เธอได้รับความสนใจจากสื่ออย่างต่อเนื่องมีลูกทั้งหมด 6 คนมีลูกบุญธรรม 3 คนอย่างแม็ดด็อกซ์ แพ็กซ์เทียนและสะฮารารวมถึงลูกสาวคนโตแท้ ๆ อย่างไชโลห์และฝาแฝดหญิงน็อกซ์และวิเวียน ในด้านการแสดงนั้น แองเจลินา โจลี เริ่มต้นงานแสดงเมื่ออายุ 7 ขวบ จากบทเล็ก ๆ ในเรื่อง Lookin' to Get Out ซึ่งคุณพ่อของเธอร่วมเขียนบทและรับบทในเรื่องนี้ด้วย และเธอยังเคยเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ที่พี่ชายกำกับ ในช่วงที่พี่ชายเรียนที่โรงเรียนสอนด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ รวมทั้งยังเคยเล่นมิวสิควิดีโอมากมาย ทั้งเพลง Stand by My Woman ของ Lenny Kravitz , เพลง Alta Marea ของ Antonello Venditti แต่แองเจลินา โจลี เริ่มงานนักแสดงอาชีพในปี ค.ศ. 1993 จากการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Cyborg 2 แต่เนื่องจากเธอเองรู้สึกผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เธอไม่ไปออดิชั่นภาพยนตร์เรื่องไหนอีกเลยเป็นปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1995 ที่ แองเจลินา โจลี ได้รับบท Kate Libby ในภาพยนตร์เรื่อง Hackers และได้รับเสียงตอบรับในแง่ดีจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมาก และในปี ค.ศ. 1996 แองเจลินา โจลี ก็มีงานออกมาเรื่อย ๆ จากทั้งภาพยนตร์เรื่อง Love Is All There Is, Mojave Moon และยังได้เล่นมิวสิควิดีโอเพลง Anybody Seen My Baby? ของ Rolling Stones อีกด้วย ผลงานของ แองเจลินา โจลี เริ่มโดดเด่นขึ้นเป็นอย่างมาก ในช่วงปี ค.ศ. 1998 จากผลงานละครโทรทัศน์เรื่อง George Wallace ที่ส่งให้เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ และเธอยังมีชื่อเข้าชิงรางวัล เอมมี่ อวอร์ด และในปี ค.ศ. 1998 แองเจลินา โจลี ได้รับเล่นซีรีส์เรื่อง Gia ซึ่งจากซีรีส์เรื่องนี้ ส่งผลให้ แองเจลินา โจลี คว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาครอง และมีชื่อเข้าชิงรางวัล เอมมี่ อวอร์ด อีกครั้ง อีกทั้งเธอยังได้รับรางวัลจากสมาคมนักแสดงเป็นครั้งแรกด้วย แต่ภายหลังจากการประสบความสำเร็จจากซีรีส์เรื่อง Gia แล้ว แองเจลินา โจลี กลับหันหลังให้วงการบันเทิง เนื่องจากเธอรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะแสดงอีก เธอเลิกกับสามี และลงเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ในด้านภาพยนตร์และเขียนบท แต่ไม่นานหลังจากนั้น แองเจลินา โจลี ก็กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง จากเรื่อง Hell's Kitchen และ Playing by Heart, The Bone Collector แองเจลินา โจลี รับบท สมทบในภาพยนตร์เรื่อง Girl, Interrupted โดยที่เธอเองได้แสดงคู่กับ วิโนนา ไรเดอร์ จนส่งผลให้ แองเจลินา โจลี ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงไปครอง หลังจากนั้นนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาแองเจลินาโจลีก็เริ่มรับบทกับภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากขึ้นอาทิเรื่องไปใน 60 วินาทีและ Lara Croft: Tomb Raider ซึ่งทำให้เธอต้องไปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษและฝึกศิลปะการต่อสู้และจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้แองเจลินาโจลีกลับมาอีกครั้งในเรื่อง Lara Croft Tomb Raider: แหล่งกำเนิดของชีวิตอันทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่มีรายได้มากที่สุดของฮอลลีวูดในเวลานั้นและยังได้แสดงในภาพยนตร์ดราม่าอย่างเกินเส้นขอบ มีชีวิตอยู่และอเล็กซานเดอร์ ในปี ค.ศ.2005-2011 แองเจลินา โจลี ได้รับเล่นภาพยนตร์เรื่อง Mr. & Mrs. Smith ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เธอได้พบกับ แบรด พิตต์ สามีของเธอ และยังได้เล่นภาพยนตร์คุณภาพอีกหลายเรื่อง เช่น The Good Shepherd, A Mighty Heart, Beowulf, Wanted รวมทั้งยังได้ร่วมงานกับ คลินต์ อีสท์วู้ด ผู้กำกับคนดังจากภาพยนตร์เรื่อง Changeling ซึ่งส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ รางวัลบาฟต้า และรางวัลจากสมาคมนักแสดง นอกจากนี้ แองเจลินา โจลี ยังมีโอกาสได้กำกับและเขียนบทในภาพยนตร์เรื่อง In the Land of Blood and Honey
การแปล กรุณารอสักครู่..
