มะนาวแป้น17ส.ค.กิ่งพันธุ์  พันธุ์มะนาวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และปลู การแปล - มะนาวแป้น17ส.ค.กิ่งพันธุ์  พันธุ์มะนาวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และปลู ไทย วิธีการพูด

มะนาวแป้น17ส.ค.กิ่งพันธุ์ พันธุ์มะ

มะนาวแป้น

17
ส.ค.
กิ่งพันธุ์


พันธุ์มะนาวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และปลูกกันในประเทศไทย ในปัจจุบัน ได้แก่

1. มะนาวหนัง ผลอ่อน มีลักษณะกลมยาว หัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ ผลจะมีลักษณะกลม ค่อนข้างยาว มีกลมมนบ้าง เล็กน้อย ด้านหัว มีจุกเล็ก ๆ มีเปลือกค่อนข้างหนา จึงทำให้ เก็บรักษาผลไว้ได้นาน
2. มะนาวไข่ มีขนาดและลักษณะ คล้ายมะนาวหนังเกือบทุกอย่าง ผลอ่อนมีลักษณะ กลมยาวหัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ ผลจะมีลักษณะ กลมมนเป็นส่วนมาก เปลือกบาง ผลโตกว่า มะนาวหนัง
3. มะนาวแป้น เป็นมะนาวที่สามารถ ให้ดอกออกผลตลอดปี ผลมีขนาดกลาง ทรงผลแป้น เปลือกบาง มีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์แป็นรำไพ แป้นทราย เป็นต้น


สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
มะนาวเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิต ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว ดินทราย แต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาว ให้เจริญงอกงามดี มี ผลดก และคุณภาพดี ก็ควรจะปลูกในพื้นท ี่ที่เป็นดินร่วนซุย มีการระบาย น้ำดี มีอินทรียวัตถุผสม อยู่มาก และควรเลือกพื้นที่ที่อยูใกล้แหล่งน้ำ
การเตรียมพื้นที่ปลูก
1. พื้นที่ลุ่ม เตรียมพื้นที่โดยการทำคันดินใหัมีความกว้างประมาณ 6-8 เมตร ส่วนสูงให้สังเกตจากปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงโดยให้อยู่สูงกว่า แนวระดับน้ำท่วม 50 เซนติเมตร แทงร่องหรือซอยร่องทำประตูน้ำเพื่อ ระบายน้ำเข้าออก ขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร พื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตร ใช้ระยะปลูก 5X5 เมตร
2. พื้นที่ดอน ควรไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืช และทำให้ดินร่วนซุย ใช้ระยะปลูก 4 x 4 – 6 x 6 เมตร ทั้งนี้ขื้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
วิธีการปลูก
ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน ควรขุดหลุมปลูก ให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ผสมดิน ปุ๋ยคอก และปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกัน ในหลุมให้ สูงประมาญ 2 ใน 3 ของหลุม ยกถุงกล้า ต้นไม้วางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่า ระดับดินปากหลุมเล็กน้อย ใช้มีดที่คม กรีดถุง จากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน (ช้ายและขวา)


ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น ปักไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมพัดโยก หาวัสถุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง รดน้ำให้โชก ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด
การปฏิบัติดูแลรักษา
1. การให้น้ำ
ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ ในช่วง ที่ปลูกใหม่ๆ ควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) หลังจากปลูกประมาณ 15 วัน มะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้ว ให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง และควรหา วัสดุมาคลุมดินบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชื้น
ควรเริ่มงดให้น้ำ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม เป็นต้นไป จนถึงช่วงออกดอก เพื่อให้มะนาวสะสม อาหารให้สูงถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ ปกติมะนาวจะออกดอก เดือนเมษายน-พฤษภาคม หลังจากมะนาวออกดอก และกำลังติดผลอ่อน เป็นช่วงที่มะนาวต้องการน้ำมาก เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ของผล
2. การใส่ปุ๋ย
2.1 หลังจากมะนาวอายุได้ 3-4 เดือน ควรใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก ประมาณต้นละ 0.5 กิโลกรัม กรณีใส่ปุ๋ยเคมีควรใส่หลังจาก พรวนดิน กำจัดวัชพืชแล้ว โดยใส่บริเวญรอบทรงพุ่ม แล้วก็ให้น้ำ ตามเพื่อ ให้ปุ๋ยละลาย
2.2 เมื่อมะนาวอายุ 1 ปี ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ ต้นละ 300 กรัม และเมื่อมะนาวอายุ 2 ปี ก็เพิ่มปริมาญปุ๋ยโดยใส่ปีละ 2 ครั้ง ๆ ละประมาณ 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ขี้นอยู่กับสภาพความอุดมสมบูรณ์ ของตน และเมื่อมะนาว อายุย่างเข้าปีที่ 3 ก็จะเริ่มให้ผลผลิต
2.3 ช่วงระยะก่อนออกดอกประมาณ 1-2 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย สูตรที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น สูตร 12-24-12 หรืออาจใช้ปุ๋ยสูตร 3-10-10 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในระยะที่ยังไม่ออกดอก และใช้สูตร 0-52-34 ในระยะเร่งการออกดอก ประมาณ 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ปริมาณที่ใช้ ขึ้นอยู่กับอายุของต้นพืช โดยใส่ในปริมาณครึ่งหนึ่งของอายุต้น
3. การกำจัดวัชพืช
การกำจัดวัชพืชในสวนมะนาวสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ถอน ถาง หรือใช้เครื่องตัดหญ้าแต่ต้องระวังอย่าให้เกิดบาดแผลตามโคนต้น หรือกระทบกระเทือนราก วิธีกำจัดวัชพืชอีกวิธีหนึ่งที่นิยมคือการใช้สารเคมี เช่น พาราชวิท ไกลโฟเสท ดาวพอน เป็นตัน โดยการใช้จะต้องระวัง อย่าให้สารพวกนี้ปลิวไปถูกใบมะนาวเพราะอาจเกิดอันตรายได้ เช่นทำให้ ใบไหม้เหลืองเป็นจุดๆ หรือไหม้ทั้งใบ ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนลมสงบ

4. การค้ำกิ่ง
เมื่อมะนาวใกล้จะผลิดอกออกผล ต้องมีการค้ำกิ่งให้กับต้นมะนาวด้วย เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักหรือฉีกขาดโดยเฉพาะในช่วงติดผล และยังช่วยลดความเสียหาย เนื่องจากโรคและแมลงได้ โดยวิธีการค้ำกิ่ง สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การค้ำกิ่งโดยการใช้ไม้รวกหรือไม์ไผ่ทำเป็นง่าม สอดเขัากับกิ่งมะนาว ให้ปลายอีกข้างหนึ่งวางตั้งรับน้ำหนักของกิ่งอยู่บนพื้นดิน แล้วใช้เชือกผูกมัดกิ่งไว้
2. การค้ำกิ่งแบบคอกหรือนั่งร้าน โดยเอาไม้มาทำเป็นนั่งร้านรูปสี่เหลี่ยนรอบๆ ต้นมะนาวเพื่อรองรับกิ่งใหญ่ ๆ ของมะนาวไว้ อาจทำเป็น 2-3 ชั้น แล้วให้กิ่งพาดอยู่ที่ชั้นใดก็ได้ ซึ่งวิธีนื้จะมั่นคงทนทาน และใชัประโยชน์ได้ดีกว่าวิธีแรก

5. การตัดแต่งกิ่ง
เพื่อให้มะนาวมีทรงพุ่มสวยและให้ผลดกปราศจากการทำลายของโรคและแมลง การตัดแต่งกิ่งควรทำหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งแห้ง กิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกให้หมด แล้วนำไปเผาทำลาย อย่าปล่อยทิ้งไว้ตามโคนต้น เพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมโรคได้

โรคที่สำคัญของมะนาว
1. โรคแคงเกอร์
ลักษณะอาการ
จะเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วน ทั้งที่ใบ กิ่งก้าน และผล โดยอาการที่ใบและผล จะมีลักษณะคล้ายกัน คือจะเกิดเป็นแผลกลม แล้วจะขยายใหญ่ ฟู นูนคล้ายฟองน้ำ มีสีเหลืองอ่อนถึงสีเหลืองเข้ม


ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม และจะแตกเป็นสะเก็ด มีวงแหวนสีเหลือง ล้อมรอบแผล ส่วนอาการที่กิ่งก้าน จะมีแผลฟูนูนสีเหลือง ต่อมาแผลจะ แตกแห้ง เป็นสีน้ำตาลขยายไปรอบๆ กิ่ง รูปร่างธองแผลไม่แน่นอน และไม่มีวงแหวน ล้อมรอบ เมื่อต้นมะนาวเป็นโรคนี้มากๆ จะแสดงอาการต้นโทรม แคระแกร็น ใบร่วง ผลผลิตลดลง กิ่งและต้นจะแห้งตายในที่สุด
การป้องกันกำจัด
ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคเผาทำลาย ไม่ขยายพันธุ์จากต้นแม่ที่เป็นโรคแคงเกอร์ พยายามอย่าให้มะนาวเกิดบาดแผล และ ป้องกันแมลงที่เป็นพาหะ เช่น หนอนชอนใบ หรือฉีดพ่นด้วยสารเคมี กำจัดแมลงกลุ่มคาร์บาริล มา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
มะนาวแป้น17ส.คกิ่งพันธุ์ พันธุ์มะนาวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและปลูกกันในประเทศไทยในปัจจุบันได้แก่ 1. มะนาวหนังผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลมเมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาวมีกลมมนบ้างเล็กน้อยด้านหัวมีจุกเล็กๆ มีเปลือกค่อนข้างหนาจึงทำให้เก็บรักษาผลไว้ได้นาน 2. มะนาวไข่มีขนาดและลักษณะคล้ายมะนาวหนังเกือบทุกอย่างผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลมเมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมมนเป็นส่วนมากเปลือกบางผลโตกว่ามะนาวหนัง 3. มะนาวแป้นเป็นมะนาวที่สามารถให้ดอกออกผลตลอดปีผลมีขนาดกลางทรงผลแป้นเปลือกบางมีหลายพันธุ์เช่นพันธุ์แป็นรำไพแป้นทรายเป็นต้น สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มะนาวเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิตไม่ว่าจะเป็นดินเหนียวดินทรายแต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาวให้เจริญงอกงามดีมีผลดกและคุณภาพดีก็ควรจะปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดีมีอินทรียวัตถุผสมอยู่มากและควรเลือกพื้นที่ที่อยูใกล้แหล่งน้ำการเตรียมพื้นที่ปลูก 1. พื้นที่ลุ่มเตรียมพื้นที่โดยการทำคันดินใหัมีความกว้างประมาณ 6-8 เมตรส่วนสูงให้สังเกตจากปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงโดยให้อยู่สูงกว่าแนวระดับน้ำท่วม 50 เซนติเมตรแทงร่องหรือซอยร่องทำประตูน้ำเพื่อระบายน้ำเข้าออกขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตรลึก 1 เมตรพื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตรใช้ระยะปลูก 5 X 5 เมตร2. พื้นที่ดอนควรไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืชและทำให้ดินร่วนซุยใช้ระยะปลูก 4 x 4 – 6 x 6 เมตรทั้งนี้ขื้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินวิธีการปลูก ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝนควรขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตรผสมดินปุ๋ยคอกและปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกันในหลุมให้สูงประมาญ 2 ใน 3 ของหลุมยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุมโดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อยใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน (ช้ายและขวา) ดึงถุงพลาสติกออกโดยระวังอย่าให้ดินแตกกลบดินที่เหลือลงในหลุมกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นปักไม้หลักและผูกเชือกยึดเพื่อป้องกันลมพัดโยกหาวัสถุคลุมดินบริเวณโคนต้นเช่นฟางข้าวหญ้าแห้งรดน้ำให้โชกทำร่มเงาเพื่อช่วยพรางแสงแดดการปฏิบัติดูแลรักษา1. การให้น้ำ ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงที่ปลูกใหม่ ๆ ควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) หลังจากปลูกประมาณ 15 วันมะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้วให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้งและควรหาวัสดุมาคลุมดินบริเวณโคนต้นเพื่อช่วยรักษาความชื้น ควรเริ่มงดให้น้ำตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไปจนถึงช่วงออกดอกเพื่อให้มะนาวสะสมอาหารให้สูงถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ปกติมะนาวจะออกดอกเดือนเมษายน-พฤษภาคมหลังจากมะนาวออกดอกและกำลังติดผลอ่อนเป็นช่วงที่มะนาวต้องการน้ำมากเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของผล2. การใส่ปุ๋ย 2.1 หลังจากมะนาวอายุได้ 3-4 เดือนควรใส่ปุ๋ยเคมีปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกประมาณต้นละ 0.5 กิโลกรัมกรณีใส่ปุ๋ยเคมีควรใส่หลังจากพรวนดินกำจัดวัชพืชแล้วโดยใส่บริเวญรอบทรงพุ่มแล้วก็ให้น้ำตามเพื่อให้ปุ๋ยละลาย 2.2 เมื่อมะนาวอายุ 1 ปีให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณต้นละ 300 กรัมและเมื่อมะนาวอายุ 2 ปีก็เพิ่มปริมาญปุ๋ยโดยใส่ปีละ 2 ครั้งๆ ละประมาณ 1 กิโลกรัมทั้งนี้ขี้นอยู่กับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของตนและเมื่อมะนาวอายุย่างเข้าปีที่ 3 ก็จะเริ่มให้ผลผลิต 2.3 ช่วงระยะก่อนออกดอกประมาณ 1-2 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตรที่มีฟอสฟอรัสสูงเช่นสูตร 12-24-12 หรืออาจใช้ปุ๋ยสูตร 3-10-10 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในระยะที่ยังไม่ออกดอกและใช้สูตร 0-52-34 ในระยะเร่งการออกดอกประมาณ 0.5-1 กิโลกรัม/ต้นปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นพืชโดยใส่ในปริมาณครึ่งหนึ่งของอายุต้น3. การกำจัดวัชพืช การกำจัดวัชพืชในสวนมะนาวสามารถทำได้หลายวิธีเช่นถอนถางหรือใช้เครื่องตัดหญ้าแต่ต้องระวังอย่าให้เกิดบาดแผลตามโคนต้นหรือกระทบกระเทือนรากวิธีกำจัดวัชพืชอีกวิธีหนึ่งที่นิยมคือการใช้สารเคมีเช่นพาราชวิทไกลโฟเสทดาวพอนเป็นตันโดยการใช้จะต้องระวังอย่าให้สารพวกนี้ปลิวไปถูกใบมะนาวเพราะอาจเกิดอันตรายได้เช่นทำให้ใบไหม้เหลืองเป็นจุด ๆ หรือไหม้ทั้งใบดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนลมสงบ4. การค้ำกิ่ง เมื่อมะนาวใกล้จะผลิดอกออกผลต้องมีการค้ำกิ่งให้กับต้นมะนาวด้วยเพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักหรือฉีกขาดโดยเฉพาะในช่วงติดผลและยังช่วยลดความเสียหายเนื่องจากโรคและแมลงได้โดยวิธีการค้ำกิ่งสามารถทำได้ 2 วิธีคือ 1. การค้ำกิ่งโดยการใช้ไม้รวกหรือไม์ไผ่ทำเป็นง่ามสอดเขัากับกิ่งมะนาวให้ปลายอีกข้างหนึ่งวางตั้งรับน้ำหนักของกิ่งอยู่บนพื้นดินแล้วใช้เชือกผูกมัดกิ่งไว้ 2. การค้ำกิ่งแบบคอกหรือนั่งร้านโดยเอาไม้มาทำเป็นนั่งร้านรูปสี่เหลี่ยนรอบ ๆ ต้นมะนาวเพื่อรองรับกิ่งใหญ่ๆ ของมะนาวไว้อาจทำเป็น 2-3 ชั้นแล้วให้กิ่งพาดอยู่ที่ชั้นใดก็ได้ซึ่งวิธีนื้จะมั่นคงทนทานและใชัประโยชน์ได้ดีกว่าวิธีแรก5. การตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้มะนาวมีทรงพุ่มสวยและให้ผลดกปราศจากการทำลายของโรคและแมลงการตัดแต่งกิ่งควรทำหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วโดยตัดกิ่งที่เป็นโรคกิ่งแห้งกิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกให้หมดแล้วนำไปเผาทำลายอย่าปล่อยทิ้งไว้ตามโคนต้นเพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมโรคได้โรคที่สำคัญของมะนาว1. โรคแคงเกอร์ ลักษณะอาการ จะเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วนทั้งที่ใบกิ่งก้านและผลโดยอาการที่ใบและผลจะมีลักษณะคล้ายกันคือจะเกิดเป็นแผลกลมแล้วจะขยายใหญ่ฟูนูนคล้ายฟองน้ำมีสีเหลืองอ่อนถึงสีเหลืองเข้ม ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะแตกเป็นสะเก็ดมีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบแผลส่วนอาการที่กิ่งก้านจะมีแผลฟูนูนสีเหลืองต่อมาแผลจะแตกแห้งเป็นสีน้ำตาลขยายไปรอบ ๆ กิ่งรูปร่างธองแผลไม่แน่นอนและไม่มีวงแหวนล้อมรอบเมื่อต้นมะนาวเป็นโรคนี้มาก ๆ จะแสดงอาการต้นโทรมแคระแกร็นใบร่วงผลผลิตลดลงกิ่งและต้นจะแห้งตายในที่สุด การป้องกันกำจัด ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคเผาทำลายไม่ขยายพันธุ์จากต้นแม่ที่เป็นโรคแคงเกอร์พยายามอย่าให้มะนาวเกิดบาดแผลและป้องกันแมลงที่เป็นพาหะเช่นหนอนชอนใบหรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีกำจัดแมลงกลุ่มคาร์บาริลมา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
และปลูกกันในประเทศไทยในปัจจุบัน ได้แก่1 มะนาวหนังผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลมเมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาวมีกลมมนบ้างเล็กน้อยด้านหัวมีจุกเล็ก ๆ มีเปลือกค่อนข้างหนาจึงทำให้เก็บรักษาผลไว้ได้นาน 2 มะนาวไข่มีขนาดและลักษณะคล้ายมะนาวหนังเกือบทุกอย่างผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลมเมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมมนเป็นส่วนมากเปลือกบางผลโตกว่ามะนาวหนัง 3 มะนาวแป้นเป็นมะนาวที่สามารถให้ดอกออกผลตลอดปีผลมีขนาดกลางทรงผลแป้นเปลือกบางมีหลายพันธุ์เช่นพันธุ์แป็นรำไพแป้นทราย ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียวดินทราย แต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาวให้เจริญงอกงามดีมีผลดกและคุณภาพดีก็ควรจะปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดีมีอินทรียวัตถุผสมอยู่มาก พื้นที่ลุ่ม 6-8 เมตร แนวระดับน้ำท่วม 50 เซนติเมตรแทงร่องหรือซอยร่องทำประตูน้ำเพื่อระบายน้ำเข้าออกขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตรลึก 1 เมตรพื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตรใช้ระยะปลูก 5X5 เมตร2 พื้นที่ดอนควรไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืชและทำให้ดินร่วนซุยใช้ระยะปลูก 4 x 4-6 x 6 เมตร ควรขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตรผสมดินปุ๋ยคอกและปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกันในหลุมให้สูงประมาญ 2 ใน 3 ของหลุมยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุมโดยให้ระดับของดินใน ถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อยใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน (ช้ายและขวา) ดึงถุงพลาสติกออกโดยระวังอย่าให้ดินแตกกลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นปักไม้หลักและผูกเชือกยึดเพื่อป้องกันลมพัดโยกหาวัสถุคลุมดินบริเวณโคนต้นเช่นฟางข้าวหญ้าแห้งรดน้ำให้โชกทำร่มเงา โดยเฉพาะในช่วงที่ปลูกใหม่ ๆ ควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) หลังจากปลูกประมาณ 15 วันมะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้วให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้งและควรหาวัสดุมาคลุมดินบริเวณ โคนต้น ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไปจนถึงช่วงออกดอกเพื่อให้มะนาวสะสม ปกติมะนาวจะออกดอกเดือนเมษายน - พฤษภาคมหลังจากมะนาวออกดอกและกำลังติดผลอ่อนเป็นช่วงที่มะนาวต้องการน้ำมากเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของผล2 การใส่ปุ๋ย2.1 หลังจากมะนาวอายุได้ 3-4 เดือนควรใส่ปุ๋ยเคมีปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกประมาณต้นละ 0.5 กิโลกรัมกรณีใส่ปุ๋ยเคมีควรใส่หลังจากพรวนดินกำจัดวัชพืชแล้วโดยใส่บริเวญรอบทรงพุ่มแล้วก็ให้น้ำ ตามเพื่อให้ปุ๋ยละลาย 2.2 เมื่อมะนาวอายุ 1 ปีให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณต้นละ 300 กรัมและเมื่อมะนาวอายุ 2 ปีก็เพิ่มปริมาญปุ๋ยโดยใส่ปีละ 2 ครั้ง ๆ ละประมาณ 1 กิโลกรัม ของตนและเมื่อมะนาวอายุย่างเข้าปีที่ 3 ก็จะเริ่มให้ผลผลิต2.3 ช่วงระยะก่อนออกดอกประมาณ 1-2 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตรที่มีฟอสฟอรัสสูงเช่นสูตร 12-24-12 หรืออาจใช้ปุ๋ยสูตร 3-10- 10 และใช้สูตร 0-52-34 ในระยะเร่งการออกดอกประมาณ 0.5-1 กิโลกรัม / ต้นปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นพืช เช่นถอนถาง หรือกระทบกระเทือนราก เช่นพาราชวิทไกลโฟเสทดาวพอนเป็นตันโดยการใช้จะต้องระวัง เช่นทำให้ใบไหม้เหลืองเป็นจุด ๆ หรือไหม้ทั้งใบดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนลมสงบ4 และยังช่วยลดความเสียหายเนื่องจากโรคและแมลงได้โดยวิธีการค้ำกิ่งสามารถทำได้ 2 วิธีคือ1 สอดเขัากับกิ่งมะนาว แล้วใช้เชือกผูกมัดกิ่งไว้2 การค้ำกิ่งแบบคอกหรือนั่งร้าน ต้นมะนาวเพื่อรองรับกิ่งใหญ่ ๆ ของมะนาวไว้อาจทำเป็น 2-3 ชั้นแล้วให้กิ่งพาดอยู่ที่ชั้นใดก็ได้ซึ่งวิธีนื้จะมั่นคงทนทานและใชัประโยชน์ได้ดีกว่าวิธีแรก5 โดยตัดกิ่งที่เป็นโรคกิ่งแห้งกิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกให้หมดแล้วนำไปเผาทำลายอย่าปล่อยทิ้งไว้ตามโคนต้น ทั้งที่ใบกิ่งก้านและผลโดยอาการที่ใบและผลจะมีลักษณะคล้ายกันคือจะเกิดเป็นแผลกลมแล้วจะขยายใหญ่ฟูนูนคล้ายฟองน้ำ และจะแตกเป็นสะเก็ดมีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบแผลส่วนอาการที่กิ่งก้านจะมีแผลฟูนูนสีเหลืองต่อมาแผลจะแตกแห้งเป็นสีน้ำตาลขยายไปรอบ ๆ กิ่งรูปร่าง ธ องแผลไม่แน่นอนและไม่มีวงแหวนล้อมรอบเมื่อ ต้นมะนาวเป็นโรคนี้มาก ๆ จะแสดงอาการต้นโทรมแคระแกร็นใบร่วงผลผลิตลดลง พยายามอย่าให้มะนาวเกิดบาดแผลและป้องกันแมลงที่เป็นพาหะเช่นหนอนชอนใบหรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีกำจัดแมลงกลุ่มคาร์บาริลมา


















































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
มะนาวแป้น


ส 17 . ค .
กิ่งพันธุ์


พันธุ์มะนาวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและปลูกกันในประเทศไทยในปัจจุบันได้แก่

1มะนาวหนังผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลมเมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาวมีกลมมนบ้างเล็กน้อยด้านหัวมีจุกเล็กจะมีเปลือกค่อนข้างหนาจึงทำให้เก็บรักษาผลไว้ได้นาน
2มะนาวไข่มีขนาดและลักษณะคล้ายมะนาวหนังเกือบทุกอย่างผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลมเมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมมนเป็นส่วนมากเปลือกบางผลโตกว่ามะนาวหนัง
3มะนาวแป้นเป็นมะนาวที่สามารถให้ดอกออกผลตลอดปีผลมีขนาดกลางทรงผลแป้นเปลือกบางมีหลายพันธุ์เช่นพันธุ์แป็นรำไพแป้นทรายเป็นต้น



สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมมะนาวเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิตไม่ว่าจะเป็นดินเหนียวดินทรายแต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาวให้เจริญงอกงามดีคอนโดผลดกและคุณภาพดีก็ควรจะปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดีอยู่มากและควรเลือกพื้นที่ที่อยูใกล้แหล่งน้ำ
การเตรียมพื้นที่ปลูก
1พื้นที่ลุ่มเตรียมพื้นที่โดยการทำคันดินใหัมีความกว้างประมาณ 6-8 เมตรส่วนสูงให้สังเกตจากปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงโดยให้อยู่สูงกว่าแนวระดับน้ำท่วม 50 เซนติเมตรแทงร่องหรือซอยร่องทำประตูน้ำเพื่อขนาดร่องน้ำกว้าง 15 เมตรลึก 1 เมตรพื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตรใช้ระยะปลูก 5x5 เมตร
2 พื้นที่ดอนควรไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืชและทำให้ดินร่วนซุยใช้ระยะปลูก 4 x 4 - 6 x 6 เมตรทั้งนี้ขื้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน

วิธีการปลูกควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝนควรขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตรผสมดินปุ๋ยคอกและปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกันในหลุมให้สูงประมาญ 2 the 3 ของหลุมยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุมระดับดินปากหลุมเล็กน้อยใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้งด้าน ( ช้ายและขวา )
2

ดึงถุงพลาสติกออกโดยระวังอย่าให้ดินแตกกลบดินที่เหลือลงในหลุมกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นปักไม้หลักและผูกเชือกยึดเพื่อป้องกันลมพัดโยกหาวัสถุคลุมดินบริเวณโคนต้นเช่นฟางข้าวหญ้าแห้งรดน้ำให้โชกทำร่มเงาการปฏิบัติดูแลรักษา
1 การให้น้ำ
ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะ said studies ที่ปลูกใหม่ๆควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย ( กรณีฝนไม่ตก ) หลังจากปลูกประมาณ 15 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่ามะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้วให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้งและควรหาเพื่อช่วยรักษาความชื้น
ควรเริ่มงดให้น้ำตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไปจนถึงช่วงออกดอกเพื่อให้มะนาวสะสมอาหารให้สูงถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ปกติมะนาวจะออกดอกเดือนเมษายน - พฤษภาคมหลังจากมะนาวออกดอกและกำลังติดผลอ่อนเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของผล
2 . การใส่ปุ๋ย
2.1 หลังจากมะนาวอายุได้ 3-4 เดือนควรใส่ปุ๋ยเคมีปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกประมาณต้นละ 05 กิโลกรัมกรณีใส่ปุ๋ยเคมีควรใส่หลังจากพรวนดินกำจัดวัชพืชแล้วโดยใส่บริเวญรอบทรงพุ่มแล้วก็ให้น้ำตามเพื่อให้ปุ๋ยละลาย
22 เมื่อมะนาวอายุ 1 . ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณต้นละ 300 กรัมและเมื่อมะนาวอายุ 2 . ก็เพิ่มปริมาญปุ๋ยโดยใส่ปีละ 2 ครั้งจะละประมาณ 1 กิโลกรัมทั้งนี้ขี้นอยู่กับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของตนและเมื่อมะนาวก็จะเริ่มให้ผลผลิต
32.3 ช่วงระยะก่อนออกดอกประมาณ 1-2 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตรที่มีฟอสฟอรัสสูงเช่นสูตร 12-24-12 หรืออาจใช้ปุ๋ยสูตร 3-10-10 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในระยะที่ยังไม่ออกดอกและใช้สูตร 0-52-34 ในระยะเร่งการออกดอกประมาณ 0กิโลกรัม 5-1 / ต้นปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นพืชโดยใส่ในปริมาณครึ่งหนึ่งของอายุต้น
3 การกำจัดวัชพืช
การกำจัดวัชพืชในสวนมะนาวสามารถทำได้หลายวิธีเช่นถอนถางหรือใช้เครื่องตัดหญ้าแต่ต้องระวังอย่าให้เกิดบาดแผลตามโคนต้นหรือกระทบกระเทือนรากวิธีกำจัดวัชพืชอีกวิธีหนึ่งที่นิยมคือการใช้สารเคมีเช่นพาราชวิทดาวพอนเป็นตันโดยการใช้จะต้องระวังอย่าให้สารพวกนี้ปลิวไปถูกใบมะนาวเพราะอาจเกิดอันตรายได้เช่นทำให้ใบไหม้เหลืองเป็นจุดๆหรือไหม้ทั้งใบดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนลมสงบ

4 การค้ำกิ่ง
เมื่อมะนาวใกล้จะผลิดอกออกผลต้องมีการค้ำกิ่งให้กับต้นมะนาวด้วยเพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักหรือฉีกขาดโดยเฉพาะในช่วงติดผลและยังช่วยลดความเสียหายเนื่องจากโรคและแมลงได้โดยวิธีการค้ำกิ่งสามารถทำได้
วิธีความ 21 . การค้ำกิ่งโดยการใช้ไม้รวกหรือไม์ไผ่ทำเป็นง่ามสอดเขัากับกิ่งมะนาวให้ปลายอีกข้างหนึ่งวางตั้งรับน้ำหนักของกิ่งอยู่บนพื้นดินแล้วใช้เชือกผูกมัดกิ่งไว้
2การค้ำกิ่งแบบคอกหรือนั่งร้านโดยเอาไม้มาทำเป็นนั่งร้านรูปสี่เหลี่ยนรอบๆต้นมะนาวเพื่อรองรับกิ่งใหญ่จะของมะนาวไว้อาจทำเป็น 2-3 ชั้นแล้วให้กิ่งพาดอยู่ที่ชั้นใดก็ได้ซึ่งวิธีนื้จะมั่นคงทนทาน
5 การตัดแต่งกิ่ง
เพื่อให้มะนาวมีทรงพุ่มสวยและให้ผลดกปราศจากการทำลายของโรคและแมลงการตัดแต่งกิ่งควรทำหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วโดยตัดกิ่งที่เป็นโรคกิ่งแห้งกิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกให้หมดแล้วนำไปเผาทำลายเพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมโรคได้
โรคที่สำคัญของมะนาว

1 โรคแคงเกอร์

ลักษณะอาการจะเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วนทั้งที่ใบกิ่งก้านและผลโดยอาการที่ใบและผลจะมีลักษณะคล้ายกันคือจะเกิดเป็นแผลกลมแล้วจะขยายใหญ่ฟูนูนคล้ายฟองน้ำมีสีเหลืองอ่อนถึงสีเหลืองเข้ม


ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะแตกเป็นสะเก็ดมีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบแผลส่วนอาการที่กิ่งก้านจะมีแผลฟูนูนสีเหลืองต่อมาแผลจะแตกแห้งเป็นสีน้ำตาลขยายไปรอบๆกิ่งรูปร่างธองแผลไม่แน่นอนและไม่มีวงแหวนเมื่อต้นมะนาวเป็นโรคนี้มากๆจะแสดงอาการต้นโทรมแคระแกร็นใบร่วงผลผลิตลดลงกิ่งและต้นจะแห้งตายในที่สุด
การป้องกันกำจัด
ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคเผาทำลายไม่ขยายพันธุ์จากต้นแม่ที่เป็นโรคแคงเกอร์พยายามอย่าให้มะนาวเกิดบาดแผลและป้องกันแมลงที่เป็นพาหะเช่นหนอนชอนใบหรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีกำจัดแมลงกลุ่มคาร์บาริลมา
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: