Speaking English is one of difficul

Speaking English is one of difficult skills for students. Students can deliver their ideas in English to other friends, if they cannot speak English well. Based on cursory observation in one of the senior high schools in Bandung at grade x, it was found that most of students could not speak English well because of several reasons. Those were lack of vocabularies, did grammatical mistakes in speaking, mispronounced words, got stuck in speaking, pausing, and still shy to speak. Therefore, the researcher wanted to investigate and solve those problems by applying Talking Chips Technique in teaching speaking. The objective of this study was to find out whether teaching speaking by using Talking Chips Technique could improve the students' vocabulary or not and also to investigate how could Taking Chips Technique improve students Speaking achievement of students. The subject of this study was students at grade x in of the senior high schools in Bandung. The total number of students was 36 students. This present study applied action research design which focused on four process namely planning, action, observation, and reflection. This present study was conducted in two cycles where each cycle consisted of three meetings. This present study also implemented observation sheet, note taking/field note, and speaking test. The expected target was that students could achieved the standard minimum score for speaking namely 70, so the mean score for speaking in this class must be 70. The findings of this study were that the students got improvement in speaking from cycle one to the cycle 2 by using Talking Chips Technique. It could be seen fromthe mean score of the first cycle was fluency (61,1) and accuracy (62.2) while in the second cycle was fluency (72.3) and accuracy (73). Those improvements were also caused by all students active in speaking and had good motivation. The conclusion is Talking Chips Technique can improve the students’ Speaking achievement

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พูดภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในทักษะที่ยากสำหรับนักเรียน นักเรียนสามารถส่งความคิดในภาษาอังกฤษกับเพื่อน ๆ ถ้าพวกเขาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี ตามสังเกตเผิน ๆ ของโรงเรียนสูงอาวุโสในบันดุงที่เกรด x มันถูกพบว่า ส่วนใหญ่นักเรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษดีไม่เนื่องจากหลายสาเหตุ ผู้ขาด vocabularies ไม่ผิดพลาดทางไวยากรณ์ในการพูด คำ mispronounced มีติดอยู่ในการพูด การหยุด และยังคงอายที่จะพูด ดังนั้น นักวิจัยต้องการตรวจสอบ และแก้ปัญหาเหล่านั้น โดยใช้เทคนิคชิพูดในการสอนพูด วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ พบว่าการสอนพูดโดยพูดคุยเทคนิคชิสามารถปรับปรุงคำศัพท์ของนักเรียน หรือไม่ และยัง เพื่อตรวจสอบว่าสามารถใช้เทคนิคชิปรับปรุงนักเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการพูดของนักเรียน เรื่องของการศึกษานี้มีนักเรียนที่เกรด x ในโรงเรียนสูงอาวุโสในบันดุง จำนวนนักเรียนทั้งหมดมีนักเรียน 36 การศึกษาปัจจุบันนี้ใช้การดำเนินการออกแบบงานวิจัยซึ่งเน้น 4 กระบวนการได้แก่ การวางแผน ดำเนินการ สังเกต และสะท้อน การศึกษาปัจจุบันนี้ได้ดำเนินการในรอบที่สองซึ่งแต่ละรอบประกอบด้วยการประชุมสาม การศึกษาปัจจุบันนี้ใช้แผ่นสังเกต บันทึกรับ/ฟิลด์หมายเหตุ และพูดทดสอบ เป้าหมายที่คาดหวังได้ว่า นักเรียนสามารถทำคะแนนต่ำสุดที่มาตรฐานสำหรับพูดคือ 70 ดังนั้นคะแนนเฉลี่ยสำหรับการพูดในชั้นเรียนนี้ต้องได้ 70 ผลการวิจัยของการศึกษานี้ได้ให้นักเรียนได้ปรับปรุงในการพูดจากรอบหนึ่งรอบ 2 โดยใช้เทคนิคชิพูด สามารถเห็นได้จากค่าเฉลี่ย คะแนนรอบแรกไม่แคล่ว (61,1) และความถูกต้อง (62.2) ในรอบที่สองถูกแคล่ว (72.3) และความถูกต้อง (73) การปรับปรุงเหล่านั้นยังมีสาเหตุจากนักเรียนทั้งหมดที่ใช้ในการพูด และมีแรงจูงใจที่ดี ข้อสรุปคือ เทคนิคชิพูดสามารถปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการพูดของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในทักษะที่ยากสำหรับนักเรียน นักเรียนสามารถส่งความคิดของพวกเขาในภาษาอังกฤษให้กับเพื่อนคนอื่น ๆ หากพวกเขาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี ขึ้นอยู่กับการสังเกตคร่าวๆในหนึ่งในโรงเรียนมัธยมในบันดุงที่ระดับ x มันก็พบว่าส่วนใหญ่ของนักเรียนไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเพราะด้วยเหตุผลหลายประการ สิ่งเหล่านี้เป็นคำศัพท์ที่ขาดไม่ได้ทำผิดพลาดทางไวยากรณ์ในการพูดคำผิด, ได้ติดอยู่ในการพูดหยุดและยังคงอายที่จะพูด ดังนั้นนักวิจัยต้องการที่จะตรวจสอบและแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการใช้เทคนิคการพูดคุยชิปในการสอนพูด วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อหาว่าการเรียนการสอนการพูดโดยใช้เทคนิคการพูดคุยชิปจะปรับปรุงคำศัพท์ของนักเรียนหรือไม่และยังสามารถตรวจสอบวิธีการปรับปรุงเทคนิคชิปนักเรียนพูดความสำเร็จของนักเรียน เรื่องของการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ x ในโรงเรียนมัธยมในบันดุง จำนวนรวมของนักเรียนเป็นนักเรียน 36 คน การศึกษาครั้งนี้นำมาใช้ในปัจจุบันการออกแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการที่มุ่งเน้นไปที่สี่ขั้นตอนคือการวางแผน, การกระทำ, การสังเกตและการสะท้อน การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการในสองรอบซึ่งแต่ละรอบประกอบด้วยสามการประชุม การศึกษาครั้งนี้ปัจจุบันยังดำเนินการแผ่นสังเกตจดบันทึก / บันทึกภาคสนามและการทดสอบการพูด เป้าหมายที่คาดหวังคือการที่นักเรียนสามารถประสบความสำเร็จได้คะแนนต่ำสุดสำหรับการพูดมาตรฐานคือ 70 ดังนั้นคะแนนเฉลี่ยสำหรับการพูดในชั้นนี้มี 70 ผลการศึกษาครั้งนี้มีนักเรียนที่ได้รับการปรับปรุงในการพูดจากวงจรหนึ่งไปใช้ในรอบที่ 2 โดยใช้เทคนิคการพูดคุยชิป มันอาจจะเห็น fromthe ค่าเฉลี่ยของรอบแรกคือความคล่องแคล่ว (61,1) และความถูกต้อง (62.2) ในขณะที่ในรอบที่สองคือความคล่องแคล่ว (72.3) และความถูกต้อง (73) การปรับปรุงเหล่านั้นเกิดจากนักเรียนทุกคนที่ใช้งานในการพูดและการมีแรงจูงใจที่ดี สรุปคือการพูดคุยเทคนิคชิปสามารถปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ของการพูดของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พูดภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่ยากสำหรับนักเรียน นักเรียนสามารถส่งความคิดของตนเป็นภาษาอังกฤษ ให้เพื่อน ๆ ถ้าพวกเขาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี จากการสังเกตคร่าวๆ หนึ่งในรุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยมในบันดุงที่เกรด X พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเนื่องจากเหตุผลหลาย ผู้ที่ขาด ศัพท์ทำข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ในการพูด ออกเสียงผิด คำที่ติดอยู่ในการพูด , หยุดและขี้อาย ก็ยังพูด ผู้วิจัยจึงต้องการศึกษาและแก้ไขปัญหาเหล่านั้นโดยการใช้เทคนิคในการพูด ชิพูดวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อดูว่า การสอนโดยใช้เทคนิคการพูดคุยชิปสามารถปรับปรุงคำศัพท์ของนักเรียนหรือไม่ และยังตรวจสอบว่าสามารถเอาชิปเทคนิคปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน - นักศึกษา เรื่องของการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ x ในของระดับมัธยมศึกษาในบันดุง . จำนวนนักเรียน 36 คนการศึกษานี้ใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการในการออกแบบซึ่งเน้น 4 กระบวนการคือการวางแผน ปฏิบัติการ การสังเกต และการสะท้อน การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์สองรอบ ซึ่งแต่ละรอบประกอบด้วย 3 การประชุม การศึกษานี้ยังใช้แผ่น การสังเกต จดบันทึก / บันทึกข้อมูล และ พูด แบบคาดว่าเป้าหมายว่าผู้เรียนได้บรรลุมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการพูดคือ 70 คะแนน ดังนั้นคะแนนหมายถึงพูดในชั้นนี้ต้อง 70 ผลการศึกษา พบว่า นักเรียนมีการพัฒนาในการพูดจากวงจรหนึ่งรอบ 2 โดยใช้พูดชิ เทคนิค มันสามารถเห็นได้จากค่าเฉลี่ยของคะแนนรอบแรกได้คล่อง ( 61,1 ) และความแม่นยำ ( 622 ) ในขณะที่ในรอบสอง คือ ความคล่องแคล่ว ( เฉพาะ ) และความแม่นยำ ( 73 ) การปรับปรุงเหล่านั้นก็เกิดจากนักเรียนที่ใช้ในการพูดและมีแรงจูงใจที่ดี สรุปคือพูดชิ เทคนิคสามารถปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน พูด