BOOTLEGGING. In January 1920, the E

BOOTLEGGING. In January 1920, the Eighteenth Amendment became law, banning the manufacture, transportation, importation, and sale of intoxicating liquors in the United States. Known as Prohibition, the amendment was the culmination of more than a century of attempts to remove alcohol from society by various temperance organizations. Many large cities and states actually went dry in 1918. Americans could no longer legally drink or buy alcohol. The people who illegally made, imported, or sold alcohol during this time were called bootleggers.

In contrast to its original intent, Prohibition, a tenet of the "Jazz Age" of the 1920s, caused a permanent change in the way the nation viewed authority, the court system, and wealth and class. Particularly damning was the lack of enforcement, which led to the rise of the mob and notorious criminals such as Al Capone. As a result, bootlegging became big business in the era, often as immigrants took hold of power in urban centers.

Despite enforcement efforts by federal, state, and local officers, Prohibition actually instigated a national drinking spree that persisted until Americans repealed the law thirteen years later. The effects on the American national psyche, however, were long lasting, ushering in a general cynicism and distrust. Many cities proudly proclaimed that they were the nation's wettest. In the early 1920s, Chicago had more than 7,000 drinking parlors, or speak-easies, so named because patrons had to whisper code-words to enter. Physicians nationwide dispensed prescriptions for medicinal alcohol, while pharmacies applied for liquor licenses. Alcohol was available for a price and delivered with a wink and wry smile.

Given the pervasive lawlessness during Prohibition, bootlegging was omnipresent. The operations varied in size, from an intricate network of bootlegging middlemen and local suppliers, right up to America's bootlegging king, George Remus, who operated from Cincinnati, lived a lavish lifestyle, and amassed a $5 million fortune. To escape prosecution, men like Remus used bribery, heavily armed guards, and medicinal licenses to circumvent the law. More ruthless gangsters, such as Capone, did not stop at crime, intimidation, and murder.

Under those conditions, the nation's cities were ripe for crime. In cities like Pittsburgh and Cleveland, numerous ethnic gangs fought to control the local bootlegging activities. In Chicago, 800 gangsters were killed in gang warfare during Prohibition, primarily due to the fight over alcohol sales.

Bootleggers counterfeited prescriptions and liquor licenses to gain access to alcohol. The most common practice was to import liquor from other countries aboard ships. The river between Detroit and Canada was a thriving entry point, as was the overland method on the long border between the two countries. Bootleggers also evaded authorities by building secret breweries with intricate security systems and lookouts. In addition to eluding the police, bootleggers had to fend off other bootleggers who would steal the precious cargo for their own sale. Bootleggers began a national controversy by selling adulterated liquor, which resulted in countless fatalities and poisonings.

Bootlegging grew into a vast illegal empire, in part, because of widespread bribery. Many enforcement agents received monthly retainers (some receiving$300,000 a month) to look the other way. Critics said that Prohibition Bureau agents had a license to make money through bribes from bootleggers. The corruption among agents was so prevalent that President Warren G. Harding commented on it in his State of the Union address in 1922.

Countless books and movies, including F. Scott Fitzgerald's The Great Gatsby and the hit film The Untouchables, have chronicled the period. As a result of Prohibition and the illegal bootlegging culture, popular culture examines both the Roaring 1920s and the darker aspects of the period, which play an important role in creating the American mythos.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

BOOTLEGGING ในเดือน 1920 มกราคม แก้ไขราชเป็น กฎหมาย ห้าม ขนส่ง นำเข้า และการขายของ intoxicating เหล้าในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า Prohibition แก้ไขการถูกสุดกว่าศตวรรษของความพยายามในการเอาแอลกอฮอล์จากสังคมต่าง ๆ องค์กรที่พอควร ในเมืองใหญ่และรัฐจริงแห้งใน 1918 ไป ชาวอเมริกันอาจดื่มไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คน ที่ผิดกฎหมายทำ นำเข้า ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลานี้ ถูกเรียกว่า bootleggersตรงข้ามปรับค่าสีเดิม Prohibition ทฤษฎีของ "แจ๊สอายุ" 1920 เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรในลักษณะประเทศดูอำนาจ ศาล และอีกมากมายให้ กับคลาส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง damning ถูกขาดการบังคับใช้ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของม็อบและอาชญากรอื้อฉาวเช่น Al Capone ดัง bootlegging กลายเป็น ธุรกิจใหญ่โตในยุค มักจะเป็นนานเอา เก็บของในเมืองแม้จะพยายามบังคับใช้ โดยรัฐบาลกลาง รัฐ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น Prohibition instigated สนุกสนานดื่มแห่งชาติที่ยังคงอยู่จนกว่าชาวอเมริกัน repealed กฎหมายสิบสามลักษณะปี จริง ผลกระทบในอเมริกันชาติ อย่างไรก็ตาม ได้ยาวยาวนาน ushering ทั่วไปทำและระแวง เมืองหลายภูมิใจประกาศว่า พวกเขา wettest ของประเทศ ในช่วงปี 1920 ชิคาโกมี 7000 กว่าดื่มที่นี่ประกอบไป หรือพูด-easies ดังนั้น ชื่อ เพราะเหนื่อยมีกระซิบคำรหัสป้อน แพทย์ทั่วประเทศคำข้อกำหนดสำหรับยาแอลกอฮอล์ ในขณะที่ยาที่ใช้สำหรับใบอนุญาตขายเหล้า แอลกอฮอล์มีราคา และจัดส่งวิคโฮสเทและยิ้ม wryกำหนด lawlessness ชุมชนที่แพร่หลายระหว่าง Prohibition, bootlegging ถูกรตุ การดำเนินงานที่แตกต่างกันในขนาด เครือข่ายซับซ้อนของ bootlegging พ่อค้าคนกลางและซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น ไปจนถึงอเมริกา bootlegging คิง จอร์จส ผู้ดำเนินการจากซินซินนาติ อาศัยชีวิตฟุ่มเฟือย และไว้ด้วยโชค 5 ล้านดอลลาร์ หนีการดำเนินคดี ผู้ชายเช่นสการติดสินบน ยามติดอาวุธหนัก และใบอนุญาตยาเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย ขึ้นเหี้ยมอันธพาล เช่น Capone ไม่ได้หยุด ที่อาชญากรรม ข่มขู่ ฆาตกรรมเมืองของประเทศอยู่ไม่สุกสำหรับอาชญากรรมภายใต้เงื่อนไขเหล่านั้น ในเมืองพิตส์เบิร์กและคลีฟแลนด์ แก๊งหลายเชื้อชาติสู้เพื่อควบคุมกิจกรรม bootlegging ท้องถิ่น ในชิคาโก อันธพาล 800 ถูกฆ่าตายในสงครามแก๊งระหว่าง Prohibition เป็นหลักเนื่องจากการต่อสู้เหนือขายแอลกอฮอล์Bootleggers counterfeited สถานีตำรวจและใบอนุญาตสุราเข้าไปแอลกอฮอล์ ปฏิบัติกันทั่วไปคือการ นำเข้าสุราจากประเทศอื่น ๆ บนเรือเรือ แม่น้ำดีทรอยต์และแคนาดามีความเจริญรุ่งเรืองจุด เป็นวิธีการขับบนเส้นขอบที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ Bootleggers evaded หน่วยงาน โดยการสร้างโรงเบียร์ลับกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนและเลนยัง นอกจาก eluding ตำรวจ bootleggers มีเพื่อปัดเป่าปิดอื่น ๆ bootleggers ที่จะขโมยสินค้าล้ำค่าขายของตนเอง Bootleggers เริ่มถกเถียงชาติขายเจือสุรา ซึ่งส่งผลให้ผู้นับไม่ถ้วนและ poisoningsBootlegging ขยายตัวเป็นจักรวรรดิไม่ถูกต้องมากมาย ส่วนหนึ่ง เนื่องจากการติดสินบนอย่างแพร่หลาย ตัวแทนเจ้าหน้าที่จำนวนมากได้รับรายเดือนยึด (บางรับ $300,000 เดือน) ตา นักวิจารณ์กล่าวว่า ตัวแทนสำนัก Prohibition มีใบอนุญาตการทำเงินผ่านแมคอินทอชจาก bootleggers โกงกินตัวแทนถูกแพร่หลายมากว่า ดดิงกรัมวอร์เรนประธานความเห็นไว้ในของรัฐอยู่ในค.ศ. 1922หนังสือและภาพยนตร์ Gatsby ดีห้องเอฟสก็อตต์และผู้ชมภาพยนตร์ The Untouchables นับไม่ถ้วนมี chronicled รอบระยะเวลา จาก Prohibition และวัฒนธรรม bootlegging ผิดกฎหมาย วัฒนธรรมสมัยนิยมตรวจสอบ 1920 คำรามและเข้มด้านรอบระยะเวลา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้าง mythos อเมริกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เถื่อน ในเดือนมกราคม 1920 การแก้ไขเพิ่มเติมที่สิบแปดกลายเป็นกฎหมายห้ามการผลิต, การขนส่ง, นำเข้าและการขายของมึนเมาสุราในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รู้จักกันว่าห้ามแก้ไขเป็นสุดยอดของกว่าศตวรรษของความพยายามที่จะเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากสังคมโดยองค์กรต่างๆลง เมืองขนาดใหญ่จำนวนมากและกล่าวจริงไปแห้งในปี 1918 ชาวอเมริกันไม่สามารถที่จะถูกต้องตามกฎหมายดื่มหรือซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คนที่ทำผิดกฎหมายนำเข้าหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลานี้ถูกเรียกว่าเถื่อน. ในทางตรงกันข้ามกับความตั้งใจเดิมห้ามทฤษฎีของ "แจ๊สยุค" ของปี ค.ศ. 1920 ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรในทางประเทศมองว่าผู้มีอำนาจ ระบบศาลและความมั่งคั่งและระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาปแช่งคือการขาดการบังคับใช้ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของม็อบและอาชญากรชื่อกระฉ่อนเช่นอัลคาโปน เป็นผลให้การขายเหล้าเถื่อนกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในยุคที่มักจะเป็นผู้อพยพเข้ามาถืออำนาจในเมือง. แม้จะมีความพยายามในการบังคับใช้โดยรัฐบาลกลาง, รัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นห้ามจริงบ้าจี้สนุกสนานดื่มแห่งชาติที่ยังคงจนกว่าชาวอเมริกันยกเลิกกฎหมายที่สิบสาม ปีต่อมา ผลกระทบต่อจิตใจของชาติอเมริกันอย่างไรยาวนานในการนำไปสู่มนุษย์ทั่วไปและความไม่ไว้วางใจ หลายเมืองภูมิใจประกาศว่าพวกเขาเป็นประเทศที่ฝนตกชุก ในต้นปี ค.ศ. 1920, ชิคาโกมีมากกว่า 7,000 ร้านดื่มหรือพูด-easies ดังนั้นชื่อเพราะลูกค้ามีการกระซิบรหัสคำพูดที่จะเข้าสู่ แพทย์ทั่วประเทศจ่ายยาสมุนไพรสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่ร้านขายยาที่นำมาใช้สำหรับใบอนุญาตสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาและส่งมอบที่มีการเชื่อมโยงและรอยยิ้มเบี้ยว. ให้ความวุ่นวายที่แพร่หลายในระหว่างการห้ามขายเหล้าเถื่อนเป็นอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง การดำเนินงานที่แตกต่างกันในขนาดจากเครือข่ายที่ซับซ้อนของพ่อค้าคนกลางเถื่อนและซัพพลายเออร์ท้องถิ่นไปจนถึงกษัตริย์เถื่อนอเมริกาจอร์จรีมัสที่ทำจากซินซินอาศัยอยู่วิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยและไว้ด้วย $ 5,000,000 โชคลาภ เพื่อดำเนินคดีหนีผู้ชายชอบใช้รีมัสติดสินบนยามติดอาวุธหนักและใบอนุญาตยาเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย คนร้ายเหี้ยมมากขึ้นเช่นอัลคาโปนไม่ได้หยุดอยู่ที่การกระทำผิดข่มขู่และการฆาตกรรม. ภายใต้เงื่อนไขเหล่านั้นเมืองของประเทศที่มีความสุกสำหรับความผิดทางอาญา ในเมืองเช่นพิตส์เบิร์กและคลีฟแลนด์แก๊งชาติพันธุ์หลายต่อสู้เพื่อควบคุมกิจกรรมเถื่อนท้องถิ่น ในชิคาโก 800 คนร้ายถูกฆ่าตายในสงครามระหว่างแก๊งห้ามหลักเนื่องจากการต่อสู้กับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. เถื่อนปลอมแปลงใบสั่งยาและใบอนุญาตสุราเพื่อให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปฏิบัติที่พบมากที่สุดคือสุราที่จะนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ บนเรือ แม่น้ำระหว่างดีทรอยต์และแคนาดาเป็นจุดเริ่มต้นที่เจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกับวิธีการทางบกบนพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศ เถื่อนยังหลบเจ้าหน้าที่โดยการสร้างโรงงานผลิตเบียร์ลับกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนและเฝ้ายาม นอกเหนือไปจากข้ออ้างของตำรวจเถื่อนต้องปัดเป่าปิดเถื่อนอื่น ๆ ที่จะขโมยสินค้าที่มีค่าการขายของตัวเอง เถื่อนเริ่มความขัดแย้งระดับชาติโดยการขายสุราปลอมปนซึ่งส่งผลให้เสียชีวิตนับไม่ถ้วนและเป็นพิษ. เถื่อนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ที่ผิดกฎหมายในส่วนหนึ่งเนื่องจากการติดสินบนอย่างกว้างขวาง ตัวแทนการบังคับใช้หลายคนที่ได้รับการติดตามรายเดือน (บางคนได้รับ $ 300,000 ต่อเดือน) เพื่อมองไปทางอื่น นักวิจารณ์กล่าวว่าตัวแทนสำนักห้ามมีใบอนุญาตในการสร้างรายได้ผ่านสินบนจากเถื่อน ความเสียหายในหมู่ตัวแทนจึงแพร่หลายว่าประธานาธิบดีวอร์เรนฮาร์ดิงกรัมความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในรัฐของสหภาพที่อยู่ในปี 1922 หนังสือและภาพยนตร์นับไม่ถ้วนรวมทั้งเอฟสกอตต์ฟิตซ์เจอรัลด์ The Great Gatsby และภาพยนตร์ฮิตวรรณะได้ลงมือในช่วงเวลา . อันเป็นผลมาจากการห้ามและวัฒนธรรมเถื่อนผิดกฎหมาย, ความนิยมวัฒนธรรมตรวจสอบทั้งในปี ค.ศ. 1920 คำรามและด้านมืดของรอบระยะเวลาบัญชีซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างมิ ธ อสชาวอเมริกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เถื่อน . ในมกราคม 2463 , จะแก้ไขเป็นกฎหมายห้ามผลิต การขนส่ง การนำเข้า และการขายของมึนเมาสุราในสหรัฐอเมริกา ที่รู้จักกันเป็น การแก้ไขคือสุดยอดของกว่าศตวรรษของการพยายามเอาเหล้าจากสังคมโดยองค์กรเทมเพอแรนซ์ต่าง ๆ เมืองที่มีขนาดใหญ่มากและสภาพจริงไปบริการในปี 1918คนอเมริกันไม่สามารถถูกต้องตามกฎหมายหรือ ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คนที่ลักลอบผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลานี้ถูกเรียกว่า bootleggers

ในทางตรงกันข้ามกับความตั้งใจเดิม , สั่งห้าม , ทฤษฎีของ " ยุคดนตรีแจ๊ส " ของปี ค.ศ. 1920 , เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ถาวรในทางประเทศดูอำนาจ ระบบศาล และความมั่งคั่ง และชั้นเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสาปแช่ง คือ ขาดการบังคับใช้ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของแก๊งและอาชญากรฉาวโฉ่เช่น Al Capone ผล เถื่อนก็กลายเป็นธุรกิจใหญ่ในยุคนั้นมักจะเป็นผู้อพยพจับพลังในเมืองศูนย์

แม้จะใช้ความพยายามโดยรัฐบาลกลาง , รัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นข้อห้ามจริงบงการแห่งชาติอเมริกันที่ยังคงดื่มสนุกสนาน จนกระทั่งยกเลิกกฎหมายสิบสามปีต่อมา ผลกระทบต่อจิตใจ ชาติอเมริกัน แต่ก็ติดทนนาน , ushering ในความเห็นถากถางดูถูกทั่วไปและไม่ไว้ใจ . หลายเมืองภูมิใจประกาศว่าพวกเขาถูกของประเทศที่ฝนตกชุก . ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1920 ชิคาโกมีมากกว่า 7 , 000 ร้าน หรือพูด easies ดื่ม , ,ดังนั้นชื่อเนื่องจากลูกค้าต้องกระซิบคำรหัสเพื่อเข้าไป แพทย์ทั่วประเทศจ่ายใบสั่งยา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยา ในขณะที่ร้านใบอนุญาตสุรา แอลกอฮอล์สามารถใช้ได้สำหรับราคาที่ส่ง ด้วยการขยิบตาและยิ้มเบี้ยว

ให้แพร่หลายในความไร้ระเบียบห้าม , เถื่อนก็อยู่ไปทั่วทุกที่ การดำเนินงานที่แตกต่างกันในขนาดจากเครือข่ายที่ซับซ้อนของเถื่อนพ่อค้าคนกลางและซัพพลายเออร์ท้องถิ่นขวาถึงอเมริกาเถื่อน คิง จอร์จ รีมัสที่ดำเนินการจาก Cincinnati , อาศัยอยู่วิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือย และสะสมโชค 5 ล้านเหรียญ หนีคดี ผู้ชายชอบให้ใช้สินบน ติดอาวุธยาม และ ยาใบอนุญาตเพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย โหดมากนะ เช่น คาโปน ,ไม่ได้หยุดอาชญากรรม ข่มขู่ และฆาตกรรม

ภายใต้เงื่อนไข เมืองของประเทศที่เป็นสุกสำหรับอาชญากรรม ในเมืองพิตส์เบิร์ก และเหมือนถูกแก๊งชาติพันธุ์จำนวนมากต่อสู้เพื่อควบคุมท้องถิ่นเถื่อนต่างๆ ในชิคาโก , 800 อันธพาลที่ถูกฆ่าตายในสงครามระหว่างแก๊งห้าม , หลักเนื่องจากการต่อสู้มากกว่า

เหล้าขายbootleggers ปลอมแปลงใบสั่งยาและสุราใบอนุญาตการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปฏิบัติที่พบมากที่สุดคือ สุรานำเข้าจากประเทศอื่น ๆ บนเรือ แม่น้ำระหว่างดีทรอยต์และแคนาดาเป็นเฟื่องฟู จุด เป็น เป็น วิธี ขึ้นที่ชายแดนนานระหว่างสองประเทศbootleggers ยังหลบหนีเจ้าหน้าที่ด้วยการสร้างโรงเบียร์ลับด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนและหอสังเกตการณ์ นอกจากนี้ เพื่อหลบหนีตำรวจ bootleggers ต้องปัดเป่าปิด bootleggers อื่นใครขโมยค่าสินค้าขายเอง bootleggers เริ่มการโต้เถียงแห่งชาติโดยการปลอมปน สุรา ซึ่งส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตนับไม่ถ้วนและพิษ .

เถื่อนมาก เถื่อนมาเป็นอาณาจักรในส่วนหนึ่งเพราะฉาวติดสินบน ตัวแทนการบังคับใช้หลายได้รับรายเดือน ( บางคนได้รับ $ 300000 เดือน ) เพื่อดูวิธีการอื่น ๆ นักวิจารณ์กล่าวว่าข้อห้าม สำนักงานตัวแทนมีใบอนุญาตทำเงินผ่านสินบนจาก bootleggers . การคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่จึงแพร่หลายว่าประธานาธิบดีวาร์เรน จี.ฮาร์ดิงและในรัฐของเขาที่อยู่ยูเนี่ยนในปี 1922

นับไม่ถ้วนของหนังสือและภาพยนตร์ รวมถึง สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์เป็น The Great Gatsby และตีภาพยนตร์จัณฑาล ได้ลงมือช่วง ผลของการห้ามและผิดกฏหมายเถื่อน วัฒนธรรม วัฒนธรรมที่นิยมตรวจสอบทั้งคำราม 1920 และด้านมืดของระยะเวลาซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Mythos อเมริกัน