Further, a majority of retailers (7

Further, a majority of retailers (77 percent) are not considering implementing RFID,
whereas roughly half of the wholesalers/distributors, manufacturing organizations and
others and 61 percent of 3PL warehouse/logistics organizations were not considering
RFID. More importantly, none of the respondent retailer organizations had implemented
RFID. When retailers were asked about the reason for not implementing RFID, the top
reason was “RFID is too expensive” (mean score of 4.6 on a 1-5 scale), the next reason was
“RFID technology is immature” (mean score of 4.0) which was followed by “no customer
demand” (mean score of 3.9). For 3PL warehouse/logistics organizations, the top reason
for not implementing RFID was “no customer demand” (mean score of 4.63) with all
other reasons returning a mean score of 3.0 or below. This probably indicates that
retailers (and to a certain extent 3PLs) are having the upstream partners (distributors
and manufacturers) in the supply chain implement the technology (mainly through
tagging) and retailers and 3PLs are looking to harness the benefits of the technology
(Bhattacharya et al., 2010; Michael and McCathie, 2005).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพิ่มเติม ส่วนใหญ่ของร้านค้าปลีก (77 เปอร์เซ็นต์) จะไม่พิจารณาการใช้ RFIDในขณะที่ประมาณครึ่งหนึ่งของการค้าส่งและตัวแทนจำหน่าย องค์กรการผลิต และผู้อื่น และไม่ถูกพิจารณาร้อยละ 61 ขององค์กรคลังสินค้า/โลจิสติกส์ 3PLRFID ที่สำคัญ ไม่มีดำเนินการองค์กรผู้ค้าปลีกผู้ตอบแบบสำรวจRFID เมื่อร้านค้าปลีกถูกถามเกี่ยวกับเหตุผลของการไม่ใช้งาน RFID ด้านบนเหตุผลคือ "RFID ไม่แพงเกินไป" (หมายถึง คะแนนของ 4.6 ในระดับ 1-5), เหตุผลถัดไป"เทคโนโลยี RFID เป็นอ่อน" (หมายถึง คะแนน 4.0) ซึ่งตามมา ด้วย "ไม่มีลูกค้าความต้องการ" (หมายถึง คะแนนของ 3.9) สำหรับองค์กรคลังสินค้า/โลจิสติกส์ 3PL ระบุสำหรับการใช้ RFID ไม่ถูก "ไม่มีความต้องการลูกค้า" (หมายถึง คะแนนของ 4.63) ทั้งหมดเหตุผลอื่น ๆ กลับมีคะแนนเฉลี่ย 3.0 หรือด้านล่าง อาจจะบ่งชี้ว่าร้านค้าปลีก (และ 3PLs ในขอบเขตบางอย่าง) จะมีคู่ค้าต้นน้ำ (ผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิต) ในการจัดหา โซ่ใช้เทคโนโลยี (ส่วนใหญ่ผ่านป้าย) และร้านค้าปลีกและ 3PLs กำลังใช้ประโยชน์จากประโยชน์ของเทคโนโลยี(ตฤณากุล et al. 2010 ไมเคิลและ McCathie, 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของร้านค้าปลีก (ร้อยละ 77) จะไม่ได้พิจารณาการใช้ RFID,
ในขณะที่ประมาณครึ่งหนึ่งในผู้ค้าส่ง / ผู้จัดจำหน่าย, การผลิตและองค์กร
อื่น ๆ และร้อยละ 61 ของคลังสินค้า 3PL / องค์กรโลจิสติกไม่ได้พิจารณา
RFID ที่สำคัญกว่านั้นไม่มีองค์กรร้านค้าปลีกที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ดำเนิน
RFID ร้านค้าปลีกเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเหตุผลในการไม่ดำเนินการ RFID ด้านบน
เหตุผลก็คือ "RFID มีราคาแพงเกินไป" (ค่าเฉลี่ยของคะแนน 4.6 ในระดับ 1-5) เหตุผลต่อไปคือ
"เทคโนโลยี RFID เป็นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ" (ค่าเฉลี่ยของคะแนน 4.0 ) ซึ่งตามมาด้วย "ไม่มีลูกค้า
มีความต้องการ" (ค่าเฉลี่ยของคะแนน 3.9) สำหรับ 3PL องค์กรคลังสินค้า / โลจิสติเหตุผลด้านบน
เพื่อไม่ให้การดำเนินการ RFID คือ "ไม่มีความต้องการของลูกค้า" (ค่าเฉลี่ยของคะแนน 4.63) กับทุก
เหตุผลอื่น ๆ กลับค่าเฉลี่ยของคะแนน 3.0 หรือต่ำกว่า นี้น่าจะแสดงให้เห็นว่า
ร้านค้าปลีก (และบาง 3PLs ขอบเขต) มีคู่ค้าต้นน้ำ (ผู้จัดจำหน่าย
และผู้ผลิต) ในห่วงโซ่อุปทานการใช้เทคโนโลยี (ส่วนใหญ่ผ่าน
การติดแท็ก) และร้านค้าปลีกและ 3PLs กำลังมองหาที่จะควบคุมผลประโยชน์ของเทคโนโลยี
(Bhattacharya et al, 2010;. ไมเคิลและ McCathie 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของร้านค้าปลีก ( 77 เปอร์เซ็นต์ ) จะไม่พิจารณาการใช้ RFID ,ในขณะที่ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ค้าส่ง / ผู้ ผลิต องค์กรและผู้อื่น และ 61 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรคลังสินค้า / โลจิสติกส์ 3PL คือไม่พิจารณาRFID ที่สำคัญ ไม่มีจำเลย องค์กรมีการขายปลีกRFID เมื่อร้านค้าปลีกที่ถูกถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ไม่ใช้ RFID , ด้านบนด้วยเหตุผล " RFID มีราคาแพงเกินไป " ( เฉลี่ย 4.6 ใน 1-5 ระดับ เหตุผลต่อมาคือ" เทคโนโลยี RFID เป็นเด็ก " ( หมายถึงคะแนน 4.0 ) ซึ่งตาม " ไม่มีลูกค้าความต้องการ " ( หมายถึงคะแนน 3.9 ) สำหรับองค์กรคลังสินค้า / โลจิสติกส์ 3PL , เหตุผลด้านบนสำหรับการใช้ RFID คือ " ลูกค้า " ( ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 ) กับเหตุผลอื่น ๆ กลับได้คะแนน 3.0 หรือด้านล่าง นี้อาจบ่งชี้ว่าร้านค้าปลีก ( และในขอบเขตที่ 3pls แน่นอน ) มีพันธมิตรต้นน้ำ ( ผู้จัดจําหน่ายและผู้ผลิต ) ในห่วงโซ่อุปทานใช้เทคโนโลยี ( ส่วนใหญ่ผ่านการติดแท็ก ) และร้านค้าปลีกและ 3pls ต้องการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี( bhattacharya et al . , 2010 ; ไมเคิล และ mccathie , 2005 )