The impact of gray leaf spot on mai

The impact of gray leaf spot on maize yield depends on the time of onset of the disease relative to the growth stage of the plant, the level of disease severity, the weather conditions during grainfill, the susceptibility and tolerance of the genotype planted, and the severity of lodging due to stalk rot (39). Reports based on yield differences between fungicide-treated plots and nontreated controls indicate that substantial yield losses may occur in both maize seed and grain production. Martinson et al. (41) reported that in seed production fields where gray leaf spot onset occurred prior to tasseling and the difference in ear leaf disease severity
between sprayed plots and unsprayed control was 63%; yield losses were 21 to 27%. Research conducted in South Africa has shown that gray leaf spot may result in yield losses in grain production of as high as 30 to 60% during seasons of high disease severity. (63). In individual hybrid maize fields, yield losses ranging from 24 to 69% have been reported in Virginia (9, 53, 55-57), 11 to 44% in Iowa (30), 11^6 in Kentucky (62), 15 to 33% in Ohio (37, 38), and 50 to 65% in South Africa (66). According to Munkvold et al. (42), annual yield loss estimates in maize production in Iowa exceeded $100 million for several years during the 1990s.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลกระทบของสีเทาใบจุดบนผลผลิตของข้าวโพดขึ้นอยู่กับเวลาเริ่มมีอาการของโรคสัมพันธ์กับระยะการเจริญเติบโตของพืช ระดับของความรุนแรงของโรค สภาพอากาศในระหว่าง grainfill ความอ่อนแอ และความอดทนของจีโนไทป์ที่ปลูก และความรุนแรงของสิ่งเนื่องจากก้านเน่า (39) รายงานตามผลความแตกต่างระหว่างยาฆ่าเชื้อรารักษาผืน และควบคุม nontreated บ่งชี้ว่า พบผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในเมล็ดข้าวโพดและเมล็ดการผลิต Martinson et al. (41) รายงานว่า ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ของเขตข้อมูลที่เริ่มมีอาการใบสีเทาจุดเกิดก่อน tasseling และความแตกต่างในความรุนแรงของโรคใบหู ระหว่างแปลงพ่นและ unsprayed ควบคุมคือ 63% สูญเสียผลผลิต 21 ถึง 27% ผลงานวิจัยในแอฟริกาใต้ได้แสดงที่จุดใบสีเทาอาจส่งผลขาดทุนจากผลผลิตธัญพืชการผลิตสูงถึง 30 ถึง 60% ในช่วงฤดูกาลของความรุนแรงของโรคสูง (63) . ในผสมข้าวโพดแต่ละฟิลด์ สูญเสียผลผลิตตั้งแต่ 24 ถึง 69% มีการรายงานในเวอร์จิเนีย (9, 53, 55-57), 11 44% ในไอโอวา (30), 11 ^ 6 ในเคนตั๊กกี้ (62), 15 ถึง 33% ในโอไฮโอ (37, 38), และ 50 ถึง 65% ในแอฟริกาใต้ (66) ตาม Munkvold et al. (42), ประมาณการขาดทุนผลผลิตประจำปีในการผลิตข้าวโพดในไอโอวาเกิน $100 ล้านสำหรับหลายปีในช่วงปี 1990

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของโรคใบจุดสีเทาที่มีต่อผลผลิตข้าวโพดขึ้นอยู่กับเวลาที่เริ่มมีอาการของโรคที่สัมพันธ์กับระยะการเจริญเติบโตของพืชระดับของความรุนแรงของโรคที่สภาพอากาศในช่วง grainfill ที่อ่อนแอและความอดทนของจีโนไทป์ปลูกและ ความรุนแรงของที่พักเนื่องจากก้านเน่า (39) รายงานตามความแตกต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างแปลงสารกำจัดเชื้อราได้รับการรักษาและการควบคุม nontreated ระบุว่าสูญเสียผลผลิตที่สำคัญอาจเกิดขึ้นทั้งในเมล็ดข้าวโพดและผลิตข้าว Martinson et al, (41) รายงานว่าในสาขาการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่เริ่มมีอาการใบจุดสีเทาที่เกิดขึ้นก่อนที่จะ tasseling และความแตกต่างในหูรุนแรงของโรคใบ
ระหว่างแปลงพ่นและการควบคุม unsprayed เป็น 63%; การสูญเสียผลผลิต 21-27% การวิจัยดำเนินการในแอฟริกาใต้ได้แสดงให้เห็นว่าใบจุดสีเทาอาจทำให้เกิดการสูญเสียผลผลิตในการผลิตข้าวสูงถึง 30 ถึง 60% ในช่วงฤดูกาลของความรุนแรงของโรคสูง (63) ในแต่ละสาขาข้าวโพดลูกผสมสูญเสียผลผลิตตั้งแต่ 24-69% ได้รับการรายงานในเวอร์จิเนีย (9, 53, 55-57) 11-44% ในไอโอวา (30), 11 ^ 6 แห่งในเคนตั๊กกี้ (62) 15 33% ในโอไฮโอ (37, 38) และ 50-65% ในแอฟริกาใต้ (66) ตามที่ Munkvold et al, (42) การประมาณการสูญเสียผลผลิตประจำปีในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในรัฐไอโอวาเกิน $ 100 ล้านบาทเป็นเวลาหลายปีในช่วงปี 1990