Anthropogenic impact on the shelfFi

Anthropogenic impact on the shelf

First of all, we need to note the extreme diversity and mosaic nature of anthropogenic impact on the hydrosphere. It includes such multifactorial phenomena as changes in temperature regime and radioactive background, discharges of toxic effluents and inflow of nutrients, irretrievable water consumption and damage of water organisms during seismic surveys, landing of commercial species and their cultivation, destruction of the shoreline and construction of drilling rigs.

Underestimation of the striking complexity of anthropogenic impact on the water ecosystems and the use of a single-factorial approach to analyze their state, focusing on some single aspect of human activity, generally lead to a distorted picture of the consequences of such activity. Simultaneous impacts of several factors can cause synergetic effects when the consequences can exceed the mere sum of the effects caused by each factor separately. Such situations are quite possible, for example, when radioactive, chemical, and thermal impacts are combined.

Another important circumstance is that many kinds of economic activities are rather difficult to differentiate based on their effects in the marine and freshwater systems. Many pure inland activities can lead to the ecological changes in the marine environment. Examples include dam construction, removal of river water for irrigation, cutting of forests, use of chemicals in agriculture, atmospheric emissions from factories and automobiles, sewage discharges into lakes and rivers, and many other impacts that take place hundreds and thousands of kilometers away from the seashore. Sooner or later, these activities affect the ecology of estuaries, bays, coastal waters, and sometimes of entire seas. The situations that developed, for example, in the Aral and Caspian Seas, the Sea of Asov, the Baltic and Black Seas clearly show that dividing the ecological problems and environmental protection programs into marine and freshwater ones is artificial and inept. From a broader perspective, we may state that effective protection of the water environment is impossible without protection of the inland ecosystems and vice versa.

Anthropogenic impact on the water environment should be defined as a cumulative manifestation of all kinds of human activity which causes obvious and/or hidden disturbances in the natural structure and functions of water biotic communities, anomalies in their habitats, changes in the hydrology and geomorphology of water bodies, diminishing their fisheries and recreational value, and other negative effects of ecological, economic, or socioeconomic nature. This definition is based on the concept of a multifactorial nature of anthropogenic impact on the hydrosphere. This impact cumulatively results in structural and functional responses of the water ecosystems and biota.

The concept of anthropogenic impact is extremely important for analyzing the ecology of coastal and shelf zone. For centuries this zone has been the center of various human activities. These include urbanization, construction of seaports and harbors, development of natural resources (including oil production and fishing), marine aquaculture, shipping, recreation, and many others. Various activities that are in progress in the narrow area on both sides of the shoreline provide 50% and more of the gross national product of many countries. All of these activities affect (usually directly and hazardously) the shelf ecology. At present, the anthropogenic disturbances of the shelf zone are found on a global scale. In many areas, they have reached critical limits. This is the prize for the unjustifiably rapid economic growth and shortsighted environmental policy (or rather for its absence).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลกระทบที่มาของมนุษย์บนชั้นครั้งแรกของทั้งหมด เราจำเป็นต้องทราบมากหลากหลายและโมเสคลักษณะของผลกระทบ hydrosphere มาของมนุษย์ รวมถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว multifactorial เป็นการเปลี่ยนแปลงในระบอบอุณหภูมิ และพื้นหลังของกัมมันตรังสี ปล่อยของ effluents เป็นพิษและการไหลเข้าของสารอาหาร น้ำ irretrievable และความเสียหายของสิ่งมีชีวิตน้ำระหว่างสำรวจธรณี จอดค้าพันธุ์ และการเพาะปลูก ทำลายชายฝั่งและก่อสร้างเจาะ rigsUnderestimation ซับซ้อนมาของมนุษย์ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำโดดเด่นและใช้เป็นแนวทางเดียวแฟกทอเรียลเพื่อวิเคราะห์สถานะ เน้นบางแง่มุมเดียวของกิจกรรมมนุษย์ โดยทั่วไปทำให้ภาพเพี้ยนของผลกระทบของกิจกรรมดังกล่าว ผลกระทบพร้อมกันของปัจจัยหลายอย่างอาจทำให้เกิดผล synergetic เมื่อผลสามารถเกินเพียงผลรวมของผลกระทบที่เกิดจากแต่ละปัจจัยแยกจากกัน สถานการณ์ดังกล่าวเป็นไปได้ค่อนข้าง เช่น เมื่อรวมผลกระทบของกัมมันตรังสี เคมี และความร้อนสถานการณ์สำคัญอื่นคือว่า หลาย ๆ ชนิดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจค่อนข้างยากที่จะแยกแยะตามลักษณะพิเศษของพวกเขาในระบบทางทะเล และน้ำจืด หลายกิจกรรมรื่นรมย์บริสุทธิ์สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศในน้ำทะเล ตัวอย่างเช่นการก่อสร้างเขื่อน เอาน้ำในแม่น้ำสำหรับการชลประทาน ตัดของป่า การใช้สารเคมีในการเกษตร การปล่อยอากาศจากโรงงานและรถยนต์ การปล่อยน้ำเสียลงในทะเลสาบและแม่น้ำ และผลกระทบอื่น ๆ มากมายที่จะทำร้อยและพันกิโลเมตรจากนั้น ช้า กิจกรรมเหล่านี้มีผลต่อระบบนิเวศชายฝั่งทะเล อ่าว ปากแม่น้ำ และบางครั้ง ของทะเลทั้งหมด สถานการณ์ที่พัฒนา ตัวอย่าง อารัล และ ทะเลแคสเปียน ซี Asov บอลติก และ ทะเลดำชัดเจนแสดงว่าหารปัญหาระบบนิเวศ และโปรแกรมป้องกันสิ่งแวดล้อมในทะเล และน้ำจืดประดิษฐ์ และ inept จากมุมมองที่กว้างขึ้น เราอาจระบุว่า ป้องกันที่มีประสิทธิภาพของสิ่งแวดล้อมน้ำเป็นไปไม่ได้ โดยไม่มีการป้องกัน ของระบบนิเวศแหล่งน้ำภายใน และในทางกลับกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้ำมาของมนุษย์ที่ควรกำหนดเป็นการสะสมของทุกของกิจกรรมมนุษย์ที่สาเหตุชัดเจน หรือซ่อนเกิดธรรมชาติโครงสร้างและหน้าที่ของน้ำ biotic ชุมชน สิ่งผิดวิสัยในการอยู่อาศัย การเปลี่ยนแปลงในการอุทกวิทยาและธรณีสัณฐานวิทยาของแหล่งน้ำ การลดลงของประมง และค่านันทนาการ และอื่น ๆ ผลกระทบเชิงลบของระบบนิเวศเศรษฐกิจ หรือประชากรธรรมชาติ ข้อกำหนดนี้ขึ้นอยู่กับแนวคิดของลักษณะ multifactorial ของ hydrosphere มาของมนุษย์ผลกระทบ ผลกระทบนี้ส่งผลในการตอบสนองโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบนิเวศทางน้ำและสิ่ง cumulativelyแนวคิดของผลกระทบที่มาของมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการวิเคราะห์ระบบนิเวศของชายฝั่งทะเล และโซนชั้น ศตวรรษ โซนนี้ได้รับการศูนย์กลางของกิจกรรมต่าง ๆ ที่มนุษย์ เหล่านี้รวมเป็น ก่อสร้างรเปอร์ และแผ่นดินใหญ่ พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ (รวมถึงการผลิตน้ำมันและประมง), เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางทะเล จัดส่ง นันทนาการ และอื่น ๆ อีกมากมาย กิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการในบริเวณที่แคบทั้งสองด้านของชายฝั่ง ให้ 50% และอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ของประเทศชาติรวม กิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมดต่อ (มักจะตรง และ hazardously) นิเวศวิทยาชั้น ปัจจุบัน แหล่งที่มาของมนุษย์ของโซนชั้นจะพบในระดับสากล ในหลายพื้นที่ พวกเขามาถึงขีดจำกัดที่สำคัญ นี่เป็นรางวัลสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว unjustifiably และนโยบายสิ่งแวดล้อม shortsighted (หรือมากกว่าสำหรับการขาดงาน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลกระทบที่เกิดจากมนุษย์บนหิ้ง

ครั้งแรกของทั้งหมด เราต้องการที่จะทราบความหลากหลายมากและผลกระทบของมนุษย์ต่อธรรมชาติ mosaic อุทกภาค . มันมีปรากฏการณ์ multifactorial เช่นการเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิ และอัตราการไหลของน้ำเสียหลังกัมมันตรังสีเป็นพิษและการไหลของสารอาหาร น้ำและความเสียหายของน้ำสิ่งมีชีวิตเอาคืนไม่ได้ในการสำรวจแผ่นดินไหว ,เชื่อมโยงไปถึงชนิดของการค้าและการเพาะปลูกของพวกเขา ทำลายชายฝั่งและก่อสร้างแท่นขุดเจาะ .

การการประเมินค่าต่ำไปของความซับซ้อนของมนุษย์ จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน้ำและใช้วิธีการวิเคราะห์แบบเดียวของรัฐ เน้นบางด้านเดียวของกิจกรรมของมนุษย์โดยทั่วไปนำไปสู่การบิดเบือนภาพผลของกิจกรรมดังกล่าว ผลกระทบของปัจจัยหลายๆอย่างพร้อมกันสามารถก่อให้เกิดผลซึ่งทำงานร่วมกันเมื่อผลสามารถเกินผลรวมเพียงของผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยแยกแต่ละด้าน สถานการณ์ดังกล่าวจะค่อนข้างเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อรังสี , เคมี , และผลกระทบทางความร้อนรวม .

อื่นที่สำคัญสถานการณ์ที่หลาย ๆ ชนิดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างยากที่จะแยกความแตกต่างจากผลของพวกเขาในระบบทางทะเลและน้ำจืด . กิจกรรมแหล่งบริสุทธิ์มากสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาในสิ่งแวดล้อมทางทะเล ตัวอย่าง ได้แก่ เขื่อน , การกำจัดน้ำเพื่อการชลประทาน การตัดป่า การใช้สารเคมีในการเกษตรบรรยากาศการปล่อยจากโรงงานและรถยนต์ , ขี้ไหลในแม่น้ำและทะเลสาบ และหลายอื่น ๆผลกระทบที่ใช้เวลาหลายร้อยและหลายพันกิโลเมตร และห่างจากชายฝั่ง ไม่ช้าก็เร็ว กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของน้ำบริเวณปากแม่น้ำ อ่าว ชายฝั่ง และบางครั้งในทะเลทั้งหมด สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ในทะเลอารัล และแคสเปี้ยนทะเล asov ทะเลบอลติกและสีดำแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นปัญหาทางนิเวศวิทยาและโปรแกรมป้องกันสิ่งแวดล้อมทางทะเลและน้ำจืด และเป็นคนที่สมควรเทียม จากมุมมองที่กว้างขึ้น เราอาจระบุว่า การป้องกันที่มีประสิทธิภาพของน้ำสภาพแวดล้อมเป็นไปไม่ได้โดยไม่ต้องคุ้มครองระบบนิเวศบกและในทางกลับกัน .

ผลกระทบของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมน้ำควรจะถูกกำหนดเป็นเครื่องสะสมทุกชนิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ทำให้ชัดเจนและ / หรือการรบกวนที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติโครงสร้างและหน้าที่ของน้ำชีวภาพชุมชน , ความผิดปกติในถิ่นของพวกเขา การเปลี่ยนแปลงในอุทกวิทยาและธรณีสัณฐานของน้ำในร่างกายให้ลดน้อยลงและมูลค่าของการประมงนันทนาการและผลกระทบเชิงลบอื่น ๆของทางนิเวศวิทยา เศรษฐกิจ หรือลักษณะทางเศรษฐกิจสังคม คำนิยามนี้จะขึ้นอยู่กับแนวคิดของธรรมชาติ multifactorial ผลกระทบของมนุษย์ต่ออุทกภาค . นี้สามารถขยายผลต่อโครงสร้างและหน้าที่ของระบบนิเวศน้ำและการตอบสนองของสิ่งมีชีวิต .

แนวคิดของผลกระทบที่เกิดจากมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ระบบนิเวศชายฝั่งและชั้นโซน สำหรับศตวรรษเขตนี้ได้รับการศูนย์กลางของกิจกรรมของมนุษย์ต่างๆ เหล่านี้ ได้แก่ ความเป็นเมือง การก่อสร้างท่าเรือและท่าจอดเรือ การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการผลิตน้ำมันทางทะเล การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และประมง ) , จัดส่ง , นันทนาการ , และอื่น ๆอีกมากมายกิจกรรมต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่แคบๆบนทั้งสองด้านของชายฝั่งให้ 50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของหลายประเทศ ทั้งหมดของกิจกรรมเหล่านี้มีผลต่อ ( ปกติโดยตรงและอย่างเป็นอันตราย ) การเก็บรักษาระบบนิเวศ ปัจจุบัน เนื่องจากมนุษย์ชั้น โซนที่พบในระดับโลก ในหลายพื้นที่ที่พวกเขาได้มาถึงขีดจำกัดที่สําคัญนี้คือรางวัลสำหรับ unjustifiably อย่างรวดเร็วการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและนโยบายสิ่งแวดล้อมสั้น ( หรือมากกว่าของขาด )