However, there is a backport of the

However, there is a backport of the fragment system available in the Android
Support package. This works back to API Level 4, so if your minSdkVersion is lower
than 11 and you want to use fragments, the backport is something that you will wish
to consider. You will need to add the support-v4 JAR to your project (e.g., via
compile 'com.android.support:support-v4:...' in your dependencies in
build.gradle, for some value of ...). You will also need to use
android.support.v4.app.Fragment instead of android.app.Fragment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม มี backport ระบบส่วนใน Androidแพคเกจสนับสนุน ใช้งานไป 4 ระดับ API ดังนั้นถ้า minSdkVersion ของคุณจะต่ำกว่ากว่า 11 และคุณต้องการใช้ชิ้นส่วน backport เป็นสิ่งที่คุณจะต้องในการพิจารณา คุณจะต้องเพิ่มขวด v4 สนับสนุนโครงการของคุณ (เช่น ผ่านรวบรวม ' com.android.support:support-v4:...' ในการอ้างอิงในbuild.gradle สำหรับบางค่าของ...) คุณจะต้องใช้android.support.v4.app.Fragment แทน android.app.Fragment

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่มีระบบการย้ายกลับของชิ้นส่วนที่มีอยู่ในรอยด์แพคเกจการสนับสนุน นี้ทำงานกลับไปที่ API ระดับที่ 4 ดังนั้นหาก minSdkVersion
ของคุณต่ำกว่า11
และคุณต้องการที่จะใช้ชิ้นส่วนย้ายกลับเป็นสิ่งที่คุณจะต้องการที่จะต้องพิจารณา คุณจะต้องเพิ่ม JAR สนับสนุน v4 เพื่อโครงการของคุณ
(เช่นผ่านการคอมไพล์'com.android.support:support-v4 ... ในการอ้างอิงใน
build.gradle สำหรับค่าของบางอย่าง ... ) นอกจากนี้คุณยังจะต้องใช้
android.support.v4.app.Fragment แทน android.app.Fragment

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม มี backport ของชิ้นส่วนระบบที่มีอยู่ในแพคเกจสนับสนุน Android

งานนี้กลับไปที่ระดับ API 4 ดังนั้นถ้า minsdkversion ของคุณลด
กว่า 11 และคุณต้องการใช้ชิ้นส่วน , backport เป็นสิ่งที่คุณจะต้องการ
เพื่อพิจารณา คุณจะต้องเพิ่มขวด support-v4 โครงการของคุณ ( เช่นผ่าน
รวบรวม ' com . Android สนับสนุน : support-v4 : . . . . . . . ' ในการอ้างอิงใน
สร้างgradle บางค่า . . . . . . . ) นอกจากนี้คุณยังจะต้องใช้
android.support.v4.app.fragment แทน android.app.fragment .