เป็นงานประเพณีซึ่งจัดขึ้นในเทศกาลสา

เป็นงานประเพณีซึ่งจัดขึ้นในเทศกาลสารทไทย ปีหนึ่งจะมีการจัดงานชิงเปรตขึ้น 2 ครั้ง คือในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 และวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 อีกครั้งหนึ่ง ตามคติโบราณที่เชื่อกันมาว่า ผู้ตายไปแล้วนั้นมีจำนวนไม่น้อย ไปตกนรกหมกไหม้ เพราะเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ได้ทำบาปไว้มาก ผู้ที่ตกนรกนี้ชาวพัทลุงเรียกว่า "เปรต" ครั้นพอถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ยมบาลจะปล่อยตัวเปรตเหล่านี้ออกจากนรกมาบนโลกมนุษย์ เพื่อรับเซ่นสังเวยจากญาติพี่น้องของตนเอง และจะอยู่ได้จนถึงวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 เท่านั้น จะต้องกลับลงนรกในวันนี้ ด้วยคตินี้เอง ชาวเมืองพัทลุงจึงจะพากันไปทำ บุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติพี่น้องของตน โดยจัดสำรับเครื่องคาวหวานใส่สำรับไปถวายพระ พร้อมกับนำขนมและอาหารคาว หวานอีกส่วนหนึ่งตั้งไว้ตรงปากทางเข้าวัดเรียกว่า "ตั้งเปรต" พอทำบุญเสร็จก็มีการชิงเปรต คือมีการแย่งอาหารคาวหวานและขนมที่ตั้งไว้ โดยถือว่าการแย่งหรือชิงเครื่องเซ่นสังเวยเปรตบรรพบุรุษนั้นกินแล้วจะโชคดี พิธีชิงเปรตนี้จึงทำกันครั้งแรก ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ถือเป็นวันต้อนรับเปรตที่ขึ้นมาจากนรก และทำอีกครั้งในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ถือเป็นการส่งเปรตกลับสู่นรก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปีหนึ่งจะมีการจัดงานชิงเปรตขึ้น 2 ครั้งคือในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 และวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 อีกครั้งหนึ่งตามคติโบราณที่เชื่อกันมาว่าผู้ตายไปแล้วนั้นมีจำนวนไม่น้อยไปตกนรกหมกไหม้ ผู้ที่ตกนรกนี้ชาวพัทลุงเรียกว่า "เปรต" ครั้นพอถึงวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 และจะอยู่ได้จนถึงวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 เท่านั้นจะต้องกลับลงนรกในวันนี้ด้วยคตินี้เองชาวเมืองพัทลุงจึงจะพากันไปทำ พร้อมกับนำขนมและอาหารคาว "ตั้งเปรต" พอทำบุญเสร็จก็มีการชิงเปรต พิธีชิงเปรตนี้จึงทำกันครั้งแรกในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 และทำอีกครั้งในวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ถือเป็นการส่งเปรตกลับสู่นรก