Introduction“All organizations are

Introduction
“All organizations are concerned with what should be done to achieve sustained high levels of performance
through people.” (Armstrong, 2001, p.155)
Motivation theory is one of the most important theories in Human Resource Management (HRM). It explains
what organizations can do to encourage people to apply their efforts and abilities in ways that will further the
achievement of the organization’s goals as well as satisfying their own needs (Armstrong, 2001, p. 155). There
are a number of methods to motivate people such as rewards, punishments, actions to satisfy needs,
psychological processes, etc.
Along with the rapid development of the world, highly cooperated working styles appears such as the new work
practice as teamwork with various types of teams: work, parallel, project and management, etc. Nowadays, the
use of teams is expanding dramatically in response to competitive challenges. For instance, 82% of companies
Literature Review
The environment is unexpected and changing constantly because of the rapid development of technology. In
particular, businesses confront fierce competition. Accordingly, if a business wants to succeed in business circles
and to be a leading organisation, it must be highly aware of its effectiveness and productivities and make good
use of its resources in order to achieve business excellence (Samson and Challis, 2002).
It is well known that personnel are most important resources which can undoubtedly have strong effects on an
overall objective of an organisation. Furthermore, work performance is vital for business growth. As a result, it is
essential for a business to explore some new methodologies in HRM areas, in order to benefit the long-term
development of a business.
HRM as a fundamental functional area in an organisation is required to make sure of keeping high work
effectiveness and high level performance, aiming at sustainable development of a whole business. In today’s
organisations, since employee motivation is getting more and more difficult, there is a need to discover more
effective motivators rather than just conducting monetary incentives.
Teamwork as one of the new working practices in HRM fields is prevalent nowadays and significant benefits can
be gained from teamwork. According to Cohen and Bailey (1997, p. 241),

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำ
"องค์กรทั้งหมดเกี่ยวข้องกับสิ่งควรทำเพื่อให้บรรลุประสิทธิภาพ sustained ระดับสูง
ผ่านคนนั้น" (อาร์มสตรอง 2001 ทฤษฎี p.155)
Motivation คือทฤษฎีสำคัญที่สุดในมนุษย์ทรัพยากรจัดการ (HRM) อย่างใดอย่างหนึ่ง มันอธิบาย
องค์กรอย่างไรเพื่อส่งเสริมให้คนใช้ความพยายามและความสามารถที่จะเพิ่มเติมการ
ความสำเร็จของเป้าหมายขององค์กรตลอดจนความพึงพอใจของตนเองต้องการ (อาร์มสตรอง 2001, p. 155) มี
ของวิธีการจูงใจคนเช่นรางวัล ลงโทษ การดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการ,
กระบวนการทางจิตวิทยา ฯลฯ
พร้อมกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของโลก ลักษณะการทำงานที่สูงร่วมมือปรากฏเช่นงานใหม่
ฝึกเป็นทีมกับทีมต่าง ๆ: งาน ขนาน โครงการ และจัดการ ฯลฯ ปัจจุบัน การ
ใช้ทีมกำลังขยายตัวอย่างมากในการตอบสนองความท้าทายแข่งขันกัน ตัวอย่าง 82% ของบริษัท
ทบทวนวรรณกรรม
มีที่ไม่คาดคิด และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีการ ใน
เฉพาะ ธุรกิจเผชิญการแข่งขันรุนแรงขึ้น ดังนั้น ถ้าธุรกิจต้องการประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ
และเป็น องค์กรชั้นนำ มันก็ต้องระวังสูงประสิทธิภาพและ productivities และทำดี
ใช้ทรัพยากรเพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศทางธุรกิจ (แซมสันและ Challis, 2002) .
เป็นที่รู้จักว่า บุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดที่สามารถไม่ต้องสงสัยมีลักษณะแข็งแรงมี
วัตถุประสงค์โดยรวมขององค์การได้ นอกจากนี้ ปฏิบัติงานมีความสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจ ดังนั้น จึง
จำเป็นสำหรับธุรกิจการสำรวจบางวิธีการใหม่ใน HRM เพื่อประโยชน์ระยะยาว
พัฒนาธุรกิจยัง
HRM เป็นพื้นที่การทำงานพื้นฐานในองค์การจะต้องให้แน่ใจว่าการทำงานสูง
ประสิทธิผลและประสิทธิภาพระดับสูง มุ่งที่การพัฒนาที่ยั่งยืนของธุรกิจทั้งหมด ในวันนี้
องค์กร เนื่องจากแรงจูงใจพนักงานจะได้รับมากขึ้น และยาก มีความจำเป็นได้มากกว่า
motivators มีประสิทธิภาพมากกว่าการทำเพียงสิ่งจูงใจทางการเงิน
ทำงานเป็นทีมเป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติของการทำงานใหม่ใน HRM จะแพร่หลายในปัจจุบัน และประโยชน์ที่สำคัญสามารถ
ได้รับจากการทำงานเป็นทีม ตามโคเฮนและ Bailey (1997, p. 241),

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แนะนำ
"ทุกองค์กรมีความกังวลกับสิ่งที่ควรจะทำเพื่อให้บรรลุในระดับสูงอย่างต่อเนื่องของผลการดำเนินงาน
ผ่านทางคน ". (อาร์มสตรอง 2001, p.155)
ทฤษฎีแรงจูงใจเป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สำคัญที่สุดในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) มันอธิบาย
สิ่งที่องค์กรสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมให้คนที่จะใช้ความพยายามและความสามารถของพวกเขาในรูปแบบที่จะส่งเสริม
ความสำเร็จของเป้าหมายขององค์กรได้เป็นอย่างดีเป็นที่น่าพอใจความต้องการของตนเอง (อาร์มสตรอง 2001 พี. 155) มี
จำนวนของวิธีการที่จะกระตุ้นให้คนเช่นรางวัลการลงโทษการกระทำเพื่อตอบสนองความต้องการเป็น
กระบวนการทางจิตวิทยาและอื่น ๆ
พร้อมกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของโลกที่สูงให้ความร่วมมือรูปแบบการทำงานที่ปรากฏขึ้นเช่นงานใหม่
ปฏิบัติตามที่การทำงานเป็นทีมที่มีหลากหลายชนิด ของทีมงานทำงานขนานโครงการและการบริหาร ฯลฯ ปัจจุบัน
การใช้งานของทีมงานมีการขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในการตอบสนองต่อความท้าทายในการแข่งขัน เช่น 82% ของ บริษัท
ทบทวนวรรณกรรม
สภาพแวดล้อมที่ไม่คาดคิดและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่เผชิญหน้ากับการแข่งขันที่รุนแรง ดังนั้นหากธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ
และการเป็นองค์กรชั้นนำของมันจะต้องเป็นอย่างมากตระหนักถึงความมีประสิทธิภาพและผลิตภาพของตนและทำให้ดี
การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศทางธุรกิจ (แซมซั่นและ Challis, 2002)
นอกจากนี้ เป็นที่รู้จักกันดีว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดซึ่งไม่ต้องสงสัยสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อ
วัตถุประสงค์โดยรวมขององค์กร นอกจากนี้การปฏิบัติงานมีความสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจ เป็นผลให้มันเป็น
สิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่จะสำรวจบางวิธีการใหม่ในพื้นที่ HRM เพื่อที่จะได้รับประโยชน์ในระยะยาว
การพัฒนาธุรกิจ
HRM เป็นพื้นที่การทำงานพื้นฐานในองค์กรจะต้องให้แน่ใจว่าการทำงานของการรักษาสูง
ประสิทธิผลและประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงที่มุ่งที่การพัฒนาที่ยั่งยืนของธุรกิจทั้งหมด ในวันนี้
องค์กรเนื่องจากแรงจูงใจของพนักงานจะได้รับมากขึ้นและยากมากขึ้นมีความจำเป็นในการค้นพบเพิ่มเติม
motivators มีประสิทธิภาพมากกว่าแค่การทำเงินแรงจูงใจ
การทำงานเป็นทีมเป็นหนึ่งในการปฏิบัติงานใหม่ในสาขาการบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นที่แพร่หลายในปัจจุบันและผลประโยชน์ที่มีนัยสำคัญสามารถ
ได้รับ จากการทำงานเป็นทีม ตามที่โคเฮนและเบลีย์ (1997 พี. 241)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
" ทุกองค์กรมีความกังวลกับสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้บรรลุยั่งยืนระดับสูงของการปฏิบัติ
ผ่านคน " ( อาร์มสตรอง , 2001 , p.155 ) ทฤษฎี
แรงจูงใจเป็นทฤษฎีหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ( HRM ) มันอธิบาย
สิ่งที่องค์กรทำเพื่อส่งเสริมให้คนต้องใช้ความพยายามและความสามารถในวิธีการที่จะส่งเสริม
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเป้าหมายขององค์กร ตลอดจนความพึงพอใจของความต้องการของตนเอง ( อาร์มสตรอง , 2001 , p . 155 ) มี
จํานวนวิธีการจูงคน เช่น รางวัล การลงโทษ การกระทำเพื่อตอบสนองความต้องการของกระบวนการทางจิตใจ

ฯลฯ พร้อมกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของโลก ขอให้ทำงานลักษณะที่ปรากฏ เช่น การปฏิบัติงาน
ใหม่เป็นทีมกับประเภทต่างๆของทีมการทำงานแบบขนาน และบริหารโครงการ ฯลฯ ปัจจุบัน ใช้ทีม
ขยายอย่างรวดเร็วในการตอบสนองต่อความท้าทายในการแข่งขัน ตัวอย่างเช่น 82% ของบริษัท

คือการทบทวนวรรณกรรมและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ใน
โดยเฉพาะธุรกิจเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง ตามหากธุรกิจต้องการที่จะประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจและการเป็นพันธมิตร
า ต้องขอทราบของประสิทธิภาพและผลิตภาพ และให้ใช้ดี
ของทรัพยากรเพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศทางธุรกิจ ( แซมสัน และ แชลลิส , 2002 ) .
มันเป็นที่รู้จักกันดีว่า บุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดที่สามารถไม่ต้องสงสัยมีผลกระทบที่แข็งแกร่งใน
วัตถุประสงค์โดยรวมขององค์กรนอกจากนี้ การทำงานมีความสําคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ เป็นผลให้มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจ
ที่จะสำรวจบางวิธีการในการบริหารพื้นที่ใหม่ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาในระยะยาว

ของธุรกิจ หรือเป็นพื้นที่ใช้สอยพื้นฐานในองค์กรต้องมีเพื่อให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพของการรักษา
สูงและระดับประสิทธิภาพสูงเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธุรกิจทั้งหมด ในองค์กรวันนี้
เนื่องจากแรงจูงใจของพนักงานก็ยิ่งลำบากมากขึ้น ต้องมีการค้นหามากขึ้นมีประสิทธิภาพในการดำเนินการมากกว่า

สิ่งจูงใจทางการเงิน การทำงานเป็นทีมเป็นหนึ่งในการปฏิบัติงานในการบริหารทรัพยากรมนุษย์สาขาใหม่เป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน และประโยชน์ที่สำคัญสามารถ
ได้รับจากการทำงานเป็นทีมตามที่โคเฮนและเบลีย์ ( 2540 , หน้า 241 )