Bourgeois was born on 25 December 1

Bourgeois was born on 25 December 1911 in Paris, France.[5] She was the third child of four born to parents Josephine Fauriaux and Louis Bourgeois.[6] Her parents owned a gallery that dealt primarily in antique tapestries. A few years after her birth, her family moved out of Paris and set up a workshop for tapestry restoration below their apartment in Choisy-le-Roi, for which Bourgeois filled in the designs where they had become worn.[5][7]

By 1924 her father, a tyrannical philanderer, was indulging in an extended affair with her English teacher and nanny.[8] According to Bourgeois, her mother, Josephine, “an intelligent, patient and enduring, if not calculating, person,” was aware of her husband's infidelity, but found it easier to turn a blind eye. Bourgeois, an alert little girl, hoarded her memories in her diaries.[9]

As a child, Bourgeois did not meet her father's expectations due to her lack of ability. Eventually, he came to adore her for her talent and spirit, but she continued to hate him for his explosive temper, domination of the household, and for teasing her in front of others.[8]

In 1930, Bourgeois entered the Sorbonne to study mathematics and geometry, subjects that she valued for their stability,[8][10] saying "I got peace of mind, only through the study of rules nobody could change."[10]

Her mother died in 1932, while Bourgeois was studying mathematics. Her mother's death inspired her to abandon mathematics and to begin studying art. Her father thought modern artists were wastrels and refused to support her. She continued to study art by joining classes where translators were needed for English-speaking students, in which those translators were not charged tuition. In one such class Fernand Léger saw her work and told her she was a sculptor, not a painter.[8]

Bourgeois graduated from the Sorbonne in 1935, and continued to study art at the Académie de la Grande Chaumière, where she studied from 1937 to 1938 and at various other art schools, such as the École du Louvre and the École des Beaux-Arts. During the time in which she was enrolled at the École des Beaux-Arts, she turned to her father's infidelities for inspiration. She discovered her creative impulse in her childhood traumas and tensions.[9]

Bourgeois had a desire for first-hand experience, and frequently visited studios in Paris, learning techniques from the artists and assisting with exhibitions.[11]

Bourgeois briefly opened a print store beside her father's tapestry workshop. Her father helped her on the grounds that she had entered into a commerce-driven profession.[8]

Bourgeois met her husband Robert Goldwater, an American art historian noted for his pioneering work in the field then referred to as primitive art, in 1938 at Bourgeois' print store. Goldwater had visited the store to purchase a selection of prints by Pablo Picasso, and "in between talks about surrealism and the latest trends, [they] got married." They emigrated to New York City the same year, where Goldwater resumed his career as professor of the arts at New York University Institute of Fine Arts,[8] while Bourgeois attended the Art Students League of New York, studying painting under Vaclav Vytlacil, and also producing sculptures and prints.[10]

Bourgeois had been unable to conceive by 1939, so she and Goldwater briefly returned to France to adopt a French child, Michel. However, in 1940, she gave birth to another son, Jean-Louis, and in 1941, she gave birth to Alain.[8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกิดชนชั้นกลางใน 25 1911 ธันวาคมในปารีส ฝรั่งเศส [5] เธอเป็นบุตรคนที่สามสี่เกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลาง Louis และ Josephine Fauriaux [6] มารดาของ gallery ที่แจกในเดิมทีปราสาทโบราณเป็นหลัก ไม่กี่ปีหลังจากเธอเกิด ครอบครัวของเธอย้ายจากปารีส และตั้งค่าการประชุมเชิงปฏิบัติการฟื้นฟูพรมแขวนผนังด้านล่างของอพาร์ทเมนท์ในชอยซี่เลอรอย ที่ชนชั้นกลางเติมการออกแบบที่พวกเขาได้กลายเป็นสวมใส่ [5] [7]โดย 1924 บิดา เจ้าชู้ tyrannical ถูกละลายเรื่องเพิ่มเติมกับครูภาษาอังกฤษของเธอและพี่เลี้ยงเด็ก [8] ตามชนชั้นกลาง แม่ของเธอ Josephine "ถ้าเป็นอัจฉริยะ ผู้ป่วย และ ยั่งยืน ไม่คำนวณ บุคคล ได้ตระหนักถึงความไม่ซื่อสัตย์ของสามีของเธอ แต่พบง่ายตาตาบอด ชนชั้นกลาง สาวเตือน hoarded ความทรงจำของเธอในเธอไดอารีส์ [9]เป็นเด็ก ชนชั้นกลางไม่ตรงกับความคาดหวังของพ่อของเธอเนื่องจากเธอขาดความสามารถในการ ในที่สุด เขามาชื่นชอบเธอในจิตวิญญาณและพรสวรรค์ของเธอ แต่เธอยังคงเกลียดเขาเขาระเบิด อารมณ์ ปกครองบ้าน และล้อเล่นเธอต่อหน้าผู้อื่น [8]ใน 1930 ชนชั้นกลางป้อนแก่ผู้เข้าศึกษาวิชาคณิตศาสตร์และเรขาคณิต เรื่องที่เธอมูลค่าสำหรับความเสถียรภาพ, [8] [10] กล่าวว่า "ผมสบายใจ เท่านั้นผ่านการศึกษากฎที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลง" [10]แม่ของเธอเสียชีวิตในปี 1932 ในขณะที่ชนชั้นกลางที่เรียนคณิตศาสตร์ ความตายของแม่ของเธอได้แรงบันดาลใจเธอสละคณิตศาสตร์ และเริ่มเรียนศิลปะ พ่อคิดว่า ศิลปินมี wastrels และปฏิเสธที่จะสนับสนุนเธอ เธอยังคงศึกษาศิลปะ โดยเข้าร่วมชั้นเรียนที่แปลจำเป็นสำหรับการพูดภาษาอังกฤษนักเรียน ที่ผู้แปลได้ไม่คิดค่าเล่าเรียน ในหนึ่งชั้น Fernand Léger เธอทำงาน และบอกให้เธอเธอไม่จิตรกร ประติมา [8]ชนชั้นกลางจบศึกษาจากมหาการในปี 1935 และต่อการศึกษาศิลปะที่ Chaumière แกรนด์เดอลา Académie ที่เธอศึกษาจากปีค.ศ. 1937 1938 และ โรงเรียนต่าง ๆ อื่น ๆ ศิลปะ École สดูโลบเรและ École des Beaux-Arts เวลาที่เธอถูกลงทะเบียนที่ École des Beaux-Arts เธอหันไป infidelities พ่อของเธอสำหรับแรงบันดาลใจ เธอค้นพบกระแสความคิดสร้างสรรค์ของเธอในวัยเด็กปัญหาและความตึงเครียดของเธอ [9]ชนชั้นกลางมีความประสบการณ์ และเยี่ยมชมสตูดิโอในปารีส มักเรียนรู้เทคนิคจากศิลปิน และให้ความช่วยเหลือกับนิทรรศการ [11]ชนชั้นกลางสั้น ๆ เปิดร้านพิมพ์ข้างเชิงพรมแขวนผนังของพ่อของเธอ พ่อของเธอช่วยเหลือเธอใน grounds ว่าเธอได้เข้าสู่อาชีพพาณิชย์ขับเคลื่อน [8]ชนชั้นกลางตามสามีโรเบิร์ต Goldwater นักประวัติศาสตร์ศิลปะอเมริกันมีไว้สำหรับการทำงานของเขาในฟิลด์แล้ว เรียกว่าเป็นศิลปะดั้งเดิม ในค.ศ. 1938 ที่ร้านพิมพ์ของชนชั้นกลาง Goldwater ได้เข้าเยี่ยมชมร้านค้าการซื้อการเลือกพิมพ์โดยปาโบลปีกัสโซ และ "ระหว่างพูดถึงลัทธิเหนือจริงและแนวโน้มล่าสุด, [พวกเขา] ได้แต่งงานกัน" พวกเขาได้อพยพไปยังนิวยอร์คปีเดียวกัน ที่ Goldwater ดำเนินต่ออาชีพของเขาเป็นศาสตราจารย์ของศิลปะที่นิวยอร์กมหาวิทยาลัยสถาบันศิลปะ, [8] ในขณะที่ชนชั้นกลางเข้าร่วมในศิลปะนักเรียนลีของนิวยอร์ก เรียนวาดภาพภายใต้ Vaclav Vytlacil และยัง มีการผลิตประติมากรรมและภาพพิมพ์ [10]ชนชั้นกลางได้ไม่สามารถตั้งครรภ์ โดย 1939 เพื่อเธอและ Goldwater สั้น ๆ กลับนำเด็กฝรั่งเศส Michel ที่ประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ใน 1940 เธอให้กำเนิดลูกชายอื่น ฌอง-Louis และ 1941 เธอให้กำเนิดไป [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชนชั้นกลางเกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1911 ในปารีส, ฝรั่งเศส. [5] เธอเป็นลูกคนที่สามในสี่เกิดกับพ่อแม่โจเซฟิน Fauriaux และหลุยส์กลาง. [6] พ่อแม่ของเธอเป็นเจ้าของแกลเลอรี่ที่เกี่ยวข้องเป็นหลักในการทอโบราณ ไม่กี่ปีหลังจากเกิดของเธอครอบครัวของเธอย้ายออกจากปารีสและตั้งค่าการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการฟื้นฟูพรมด้านล่างอพาร์ทเม้นของพวกเขาใน Choisy-le-Roi ที่ชนชั้นกลางที่เต็มไปด้วยในการออกแบบที่พวกเขาได้กลายเป็นที่สวมใส่. [5] [7] โดย 1924 พ่อของเธอเจ้าชู้เผด็จการได้รับการผ่อนคลายในเรื่องการขยายกับครูสอนภาษาอังกฤษของเธอและพี่เลี้ยง. [8] ตาม Bourgeois, แม่ของเธอโจเซฟิน "ผู้ป่วยที่ชาญฉลาดและยั่งยืนหากไม่ได้คำนวณคน" ได้รับการ ตระหนักถึงการนอกใจของสามีของเธอ แต่ก็พบว่ามันง่ายที่จะเมิน ชนชั้นกลางเป็นสาวน้อยเตือนความทรงจำของเธอเก็บสะสมในสมุดบันทึกของเธอ. [9] เป็นเด็กชนชั้นกลางไม่ได้ตามความคาดหวังของพ่อของเธอเกิดจากการขาดความสามารถของเธอ ในที่สุดเขาก็มาถึงรักของเธอสำหรับความสามารถและจิตวิญญาณของเธอ แต่เธอก็ยังคงเกลียดเขาอารมณ์ระเบิดของเขาปกครองของใช้ในครัวเรือนและหยอกล้อเธอต่อหน้าคนอื่น. [8] ในปี 1930 ชนชั้นกลางเข้ามาในซอร์บอนน์ในการศึกษา คณิตศาสตร์และเรขาคณิตวิชาที่ว่าเธอมีมูลค่าสำหรับความมั่นคงของพวกเขา [8] [10] กล่าวว่า "ผมได้รับความสงบของจิตใจเท่านั้นที่ผ่านการศึกษาของกฎไม่มีใครสามารถเปลี่ยน." [10] เธอแม่เสียชีวิตในปี 1932 ในขณะที่ชนชั้นกลางกำลังศึกษา คณิตศาสตร์ การตายของแม่ของเธอเป็นแรงบันดาลใจของเธอที่จะละทิ้งคณิตศาสตร์และจะเริ่มต้นการเรียนศิลปะ พ่อของเธอคิดว่าเป็นศิลปินที่ทันสมัย ​​wastrels และปฏิเสธที่จะสนับสนุนเธอ เธอยังคงศึกษาศิลปะโดยการเข้าร่วมชั้นเรียนที่แปลเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเรียนที่พูดภาษาอังกฤษซึ่งแปลเหล่านั้นถูกเรียกเก็บค่าเล่าเรียนไม่ ในระดับหนึ่งเช่น Fernand Légerเห็นการทำงานของเธอและบอกเธอว่าเธอเป็นประติมากรที่ไม่จิตรกร. [8] Bourgeois จบการศึกษาจาก Sorbonne ในปี 1935 และยังคงศึกษาศิลปะที่Académie de la Grande Chaumiere ที่เธอเรียนจาก 1937 เพื่อ 1938 และในโรงเรียนสอนศิลปะอื่น ๆ เช่นÉcole du Louvre และÉcole des Beaux-Arts ในช่วงเวลาที่เธอได้เข้าเรียนที่École des Beaux-Arts เธอหันไปนอกใจพ่อของเธอสำหรับแรงบันดาลใจ เธอค้นพบแรงกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเธอในตำแหน่งนี้ในวัยเด็กและความตึงเครียดของเธอ. [9] ชนชั้นกลางมีความปรารถนาสำหรับประสบการณ์มือแรกและเข้าเยี่ยมชมบ่อยสตูดิโอในกรุงปารีสการเรียนรู้เทคนิคจากศิลปินและให้ความช่วยเหลือกับการจัดนิทรรศการ. [11] ในเวลาสั้น ๆ กลางเปิดการพิมพ์ การประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดเก็บข้างพรมของพ่อของเธอ พ่อของเธอช่วยให้เธอโดยอ้างว่าเธอได้ลงนามในอาชีพการค้าที่ขับเคลื่อนด้วย. [8] กลางได้พบกับสามีของเธอโรเบิร์ตน้ำทองประวัติศาสตร์ศิลปะอเมริกันที่ระบุไว้สำหรับงานสำรวจของเขาในสนามแล้วจะเรียกว่าเป็นศิลปะดั้งเดิมในปี 1938 ที่ ชนชั้นกลาง 'ร้านพิมพ์ น้ำทองได้เข้าเยี่ยมชมร้านค้าที่จะซื้อเลือกของการพิมพ์โดย Pablo Picasso และ "ในระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับสถิตยศาสตร์และแนวโน้มล่าสุด [พวกเขา] ได้แต่งงาน." พวกเขาอพยพไปยังนครนิวยอร์กในปีเดียวกันที่น้ำทองเริ่มอาชีพของเขาเป็นอาจารย์ของศิลปะที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กสถาบันวิจิตรศิลป์ [8] ในขณะที่ชนชั้นกลางเข้าร่วมการศึกษาศิลปะลีกนิวยอร์กศึกษาภาพวาดภายใต้ Vaclav Vytlacil และ นอกจากนี้ยังมีการผลิตประติมากรรมและภาพพิมพ์. [10] ชนชั้นกลางได้รับไม่สามารถที่จะตั้งครรภ์โดยปี 1939 เพื่อให้เธอและน้ำทองสั้น ๆ กลับไปฝรั่งเศสเพื่อนำมาใช้เป็นเด็กฝรั่งเศสมิเชล อย่างไรก็ตามในปี 1940 เธอให้กำเนิดลูกชายอีก Jean-Louis และในปี 1941 เธอให้กำเนิด Alain. [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชนชั้นกลาง เกิดวันที่ 25 ธันวาคม 2454 ในปารีส , ฝรั่งเศส [ 5 ] เธอเป็นลูกคนที่สาม สี่ เกิดกับพ่อแม่ โจเซฟิน fauriaux หลุยส์และชนชั้นกลาง [ 6 ] พ่อแม่เป็นเจ้าของแกลเลอรี่ที่แจกเป็นหลักในสิ่งทอโบราณ . ไม่กี่ปีหลังคลอดของเธอ ครอบครัวของเธอย้ายจากปารีส และตั้งค่าการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูพรมด้านล่างอพาร์ทเม้นท์ ใน เลอ รัว ชัวซี ,ซึ่งชนชั้นกลางเติมเต็มในแบบที่พวกเขาได้กลายเป็นที่สวมใส่ . [ 5 ] [ 7 ]

โดย 1924 คุณพ่อของเธอเป็นคนเจ้าชู้กดหัวยอมตามใจในการขยายความสัมพันธ์กับครูและพี่เลี้ยงเด็ก [ 8 ] ตาม ชนชั้นกลาง แม่ของเธอ โจเซฟิน " เป็นคนฉลาด อดทน และอดทน ถ้า ไม่คำนวณ , คน , " ทราบว่าสามีของเธอมีชู้ แต่พบว่ามันง่ายที่จะทำเป็นมองไม่เห็นชนชั้นกลาง สาวน้อยที่มีการแจ้งเตือนกักตุนความทรงจำในสมุดบันทึกของเธอ . [ 9 ]

เป็นเด็กชนชั้นกลางไม่เป็นไปตามความคาดหวังของพ่อของเธอเพราะเธอขาดความสามารถในการ ในที่สุด เขาก็ชื่นชอบเธอ ความสามารถของเธอ และวิญญาณ แต่เธอยังคงเกลียดเขา อารมณ์ของเขาระเบิด , การครอบงำของครัวเรือน และเพื่อแกล้งเธอ ต่อหน้าผู้อื่น . [ 8 ]

ใน 1930 ,ชนชั้นกลางป้อน Sorbonne ในการศึกษาคณิตศาสตร์และเรขาคณิตเป็นวิชาที่เธอมีเพื่อความมั่นคงของพวกเขา [ 8 ] [ 10 ] กล่าวว่า " ฉันมีความสงบสุขของจิตใจเท่านั้น โดยศึกษากฎ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยน . " [ 10 ]

แม่ของเธอเสียชีวิตในปี 2475 ในขณะที่ชนชั้นกลางกำลังเรียนคณิตศาสตร์ การตายของแม่ของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้เธอทิ้งคณิตศาสตร์และเริ่มต้นเรียนศิลปะพ่อคิดว่าศิลปินสมัยใหม่ถูก wastrels และปฏิเสธที่จะสนับสนุนเธอ เธอยังคงเรียนศิลปะโดยการเข้าร่วมชั้นเรียนที่แปลเป็นภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับนักเรียน ซึ่งผู้แปลที่ไม่เรียกเก็บค่าเล่าเรียน ในหนึ่งเช่นคลาสเฟอร์เมดเดลีน เยอรมัน ได้เห็นงานของเธอและบอกเธอว่า ประติมากร ไม่ใช่จิตรกร [ 8 ]

ชนชั้นกลางจบจาก Sorbonne ในปี 1935 ,และยังคงศึกษาศิลปะที่อากาเดมี de la Grande chaumi è re ที่เธอศึกษาจาก 2480 ถึง 1938 และศิลปะอื่น ๆที่โรงเรียนต่าง ๆ เช่น เอกอล du Louvre และเอกอล des Beaux Arts ในเวลาที่เธอได้เข้าเรียนที่เอกอลเดส์ศิลปกรรม เธอหันไปหาพ่อของเธอนอกใจคุณ สำหรับแรงบันดาลใจ เธอค้นพบแรงกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเธอในวัยเด็กของเธอและความตึงเครียด traumas .[ 9 ]

Bourgeois ต้องการประสบการณ์มือแรก และบ่อยครั้งที่เข้าชมสตูดิโอในปารีส เรียนรู้เทคนิคจากศิลปิน และให้ความช่วยเหลือกับนิทรรศการ [ 11 ]

ชนชั้นกลางสั้นเปิดพิมพ์ร้านข้างๆเธอพ่อของยู การประชุมเชิงปฏิบัติการ พ่อของเธอช่วยเธอด้วยเหตุผลที่ว่าเธอได้เข้าสู่พาณิชย์ขับเคลื่อนอาชีพ [ 8 ]

ชนชั้นกลางได้พบกับสามีของเธอโรเบิร์ตโกลด์วอเตอร์ ,เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลปะอเมริกันตั้งข้อสังเกตสำหรับการสำรวจงานของเขาในฟิลด์แล้ว เรียกว่า ศิลปะแบบดั้งเดิมใน 1 , 938 ในชนชั้นกลาง ' พิมพ์ร้าน โกลด์วอเตอร์ได้เข้าร้านเพื่อซื้อการเลือกพิมพ์โดย Pablo Picasso , และ " ระหว่างการเจรจาเรื่องป้ายสีและแนวโน้มล่าสุด [ พวกเขา ] แต่งงาน พวกเขาย้ายไปมหานครนิวยอร์กในปีเดียวกันเริ่มอาชีพของเขาในฐานะที่โกลด์วอเตอร์ศาสตราจารย์ของศิลปะที่สถาบันวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก , [ 8 ] ในขณะที่ชนชั้นกลางเข้าร่วมนักศึกษาศิลปะลีกนิวยอร์ก เรียนวาดภาพภายใต้ vytlacil วาคลาฟ และยังสร้างประติมากรรมและภาพพิมพ์ [ 10 ]

ชนชั้นกลางได้รับไม่สามารถตั้งครรภ์โดยปี 1939 เธอและ โกลด์ว ตอร์สั้น ๆกลับไปประเทศฝรั่งเศสอุปการะเด็ก , ฝรั่งเศสมิเชล อย่างไรก็ตามในปี 1940 เธอได้ให้กำเนิดลูกชายอีกคน ฌอง หลุยส์ และ ในปี 1941 เธอให้กำเนิด Alain . [ 8 ]