65 % of the teacher candidates invo

65 % of the teacher candidates involved in the research used simplifying the problem strategy while solving
geometry problems. The question “Do you try to solve a complex geometry problem by breaking it into simpler
parts?” was asked in the interview to identify whether the teacher candidates use simplifying the problem
strategy or not and some of the answers they give are like that;
S. 2- Yes. I break it into small parts if the question is too complex and I try to reach the whole. For example,
while finding the area of octagon, I draw a square out of it and I find the whole area based on the small
squares.
S.5- Yes. I generally solve the complex questions by breaking them into parts. I do like that with polygons or
complex triangle questions.
S.6- Yes. For example, I can solve a question with hexagon by breaking it into triangles.
S.8- Yes. Going from part to whole is more logical. For example, in order to find the area of the trapezoid, it is
easier to find the area of the two triangles, drawing a diagonal, than using a formula.
The percentages of the findings on the strategies used by the teacher candidates according to the gender are
given in Table 2.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

65% ของผู้สมัครครูที่เกี่ยวข้องในการวิจัยใช้กลยุทธ์ปัญหาการลดความซับซ้อนในขณะที่แก้ปัญหาเรขาคณิต คำถาม "คุณพยายามที่จะแก้ปัญหารูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อน โดยทำลายมันเข้าง่ายส่วน "ถูกถามในการสัมภาษณ์เพื่อระบุว่า ผู้สมัครครูใช้ลดความซับซ้อนของปัญหากลยุทธ์ หรือไม่ และบางส่วนของคำตอบที่พวกเขาให้เป็นเช่นนั้นS. 2-ใช่ ผมแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กถ้าคำถามซับซ้อนเกินไป และพยายามเข้าถึงทั้งหมด ตัวอย่างเช่นหาพื้นที่ของรูปแปดเหลี่ยม วาดสี่เหลี่ยมจากนั้น และจะหาพื้นที่ทั้งหมดตามขนาดเล็กสี่เหลี่ยมS.5 ได้ ฉันโดยทั่วไปแก้คำถามซับซ้อน โดยแบ่งออกเป็นส่วน ฉันชอบที่ มีรูปหลายเหลี่ยม หรือคำถามสามเหลี่ยมซับซ้อนS.6 ได้ ตัวอย่างเช่น ฉันสามารถแก้คำถามกับหกเหลี่ยม โดยแบ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมS.8 ได้ จากส่วนหนึ่งไปทั้งหมดเป็นตรรกะมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เพื่อหาพื้นที่ของสี่เหลี่ยมคางหมู เป็นง่ายต่อการหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมสอง วาดขวาง มากกว่าการใช้สูตรมีเปอร์เซ็นต์ของการค้นพบในกลยุทธ์ที่ใช้ โดยผู้สมัครสอบครูตามเพศกำหนดในตารางที่ 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

65% ของผู้สมัครครูมีส่วนร่วมในการวิจัยการใช้กลยุทธ์ลดความซับซ้อนของปัญหาที่เกิดขึ้นขณะที่การแก้
ปัญหาเรขาคณิต คำถามที่ว่า "คุณพยายามที่จะแก้ปัญหาในรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อนโดยการทำลายมันลงไปง่าย
ส่วน?" ถูกถามในการสัมภาษณ์เพื่อระบุว่าผู้สมัครครูสอนการใช้งานที่ง่ายปัญหา
กลยุทธ์หรือไม่และบางส่วนของคำตอบที่พวกเขาให้เป็นเช่นนั้น;
S . 2- ใช่ ฉันทำลายมันลงไปในชิ้นส่วนเล็ก ๆ ถ้าเป็นคำถามที่ซับซ้อนเกินไปและฉันพยายามที่จะเข้าถึงทั้ง ยกตัวอย่างเช่น
ขณะที่การหาพื้นที่ของรูปแปดเหลี่ยมที่ฉันวาดตารางออกมาจากมันและฉันพบพื้นที่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับขนาดเล็ก
สี่เหลี่ยม.
S.5- ใช่ ฉันมักแก้คำถามที่ซับซ้อนโดยการแบ่งออกเป็นชิ้นส่วน ฉันทำเช่นเดียวกับรูปหลายเหลี่ยมหรือ
คำถามที่ซับซ้อนสามเหลี่ยม.
S.6- ใช่ ตัวอย่างเช่นผมสามารถแก้คำถามกับหกเหลี่ยมโดยทำลายมันเป็นรูปสามเหลี่ยม.
S.8- ใช่ ไปจากส่วนที่ทั้งหมดเป็นตรรกะมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในเพื่อที่จะหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมูที่มันเป็น
เรื่องง่ายที่จะหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมสองรูปที่วาดเส้นทแยงมุมกว่าการใช้สูตร.
ร้อยละของการค้นพบเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ใช้โดยผู้สมัครครูให้เป็นไปตาม เพศ
ที่กำหนดในตารางที่ 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

65 % ของครูผู้ที่เกี่ยวข้องในการวิจัยกลยุทธ์ปัญหาในขณะที่การใช้ง่ายปัญหาเรขาคณิต คำถาม " คุณพยายามที่จะแก้ปัญหาเรขาคณิตที่ซับซ้อน โดยแบ่งออกเป็นง่ายกว่าส่วน ? " ถูกถามในการสัมภาษณ์ระบุว่าครูผู้สมัครใช้ระบบปัญหากลยุทธ์ หรือไม่ และคำตอบที่พวกเขาให้เป็นอย่างนั้นเอส 2 ครับ ผมแบ่งมันออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ถ้าถามว่าเป็นความซับซ้อนเกินไปและฉันพยายามที่จะเข้าถึงทั้ง ตัวอย่างเช่นในขณะที่หาพื้นที่แปดเหลี่ยม ผมวาดสี่เหลี่ยมขึ้นมา และหาพื้นที่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับขนาดเล็กสี่เหลี่ยมs.5 - ครับ ปกติผมแก้คำถามที่ซับซ้อนโดยการแบ่งพวกเขาออกเป็นส่วน ฉันทำแบบนั้นกับรูปหลายเหลี่ยมหรือคำถามสามเหลี่ยมที่ซับซ้อนs.6 - ครับ ตัวอย่างเช่นฉันสามารถแก้ไขคำถามด้วยหกเหลี่ยม โดยแบ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมs.8 - ครับ ไปจากส่วนทั้งหมดเป็นตรรกะมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เพื่อหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มันคือง่ายที่จะหาพื้นที่ของสามเหลี่ยมแบบเส้นทแยงมุม มากกว่าการใช้สูตรร้อยละของผลกลยุทธ์ที่ใช้โดยครูผู้สมัครตามเพศเป็นระบุในตารางที่ 2