In Table1, the first column shows p

In Table1, the first column shows possible categories of dependency relations from the head, and rules on corresponding dependents are listed in the second column. These rules mainly use features about single node (including the word’s part-of-speech) and relations between dependency pairs. These rules are also applied to some special phrase structures such as passive structure (e.g. rule3 and rule 4) and coordinate construction (e.g. rule 7 and rule 9).
483
During the procedure of recognizing event-arguments, we firstly extract the head verb as the predicate, traverse its child nodes and make corresponding rules effective according to the dependency category. From the instance sentence in Figure 1, we extract an event structure “[Subj teacher] [Pre criticize] [Obj student]” successively using rule 1, rule 3, and rule 10.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน Table1 คอลัมน์แรกแสดงประเภทเป็นไปได้ของความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันจากหัว และกฎที่สอดคล้องกันผู้อยู่ในอุปการะอยู่ในคอลัมน์ที่สอง กฎเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้คุณลักษณะเกี่ยวกับโหนเดียว (รวมทั้งคำที่เป็นส่วนหนึ่งของคำพูด) และความสัมพันธ์ระหว่างคู่อ้างอิง กฎเหล่านี้ยังใช้กับโครงสร้างเช่นโครงสร้างแฝง (เช่น rule3 และกฎ 4) พิเศษวลีบาง และประสานงานก่อสร้าง (เช่นกฎ 7 และกฎ 9) 483 ในระหว่างขั้นตอนของการจดจำเหตุการณ์อาร์กิวเมนต์ เราประการแรกขยายกริยาใหญ่เป็นเพรดิเคตการ ข้ามของโหน แล้วให้มีประสิทธิภาพตามประเภทการอ้างอิงกฎที่สอดคล้องกัน จากประโยคตัวอย่างในรูปที่ 1 เราแยกเป็นโครงสร้างเหตุการณ์ " [Subj ครู] [ก่อนติชม] [นักเรียน Obj] " ติด ๆ กันใช้กฎ 1 กฎ 3 และกฎ 10

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน Table1, คอลัมน์แรกแสดงให้เห็นประเภทเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ที่พึ่งพาจากหัวและกฎระเบียบเกี่ยวกับผู้อยู่ในอุปการะที่เกี่ยวข้องมีการระบุไว้ในคอลัมน์ที่สอง กฎเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้คุณสมบัติเกี่ยวกับโหนดเดียว (รวมทั้งของคำว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพูด) และความสัมพันธ์ระหว่างคู่พึ่งพา กฎเหล่านี้ถูกนำมาใช้นอกจากนี้ยังมีบางส่วนโครงสร้างวลีพิเศษเช่นโครงสร้างเรื่อย ๆ (เช่น Rule3 และกฎ 4) และประสานงานก่อสร้าง (เช่นกฎ 7 และกฎ 9).
483
​​ในระหว่างขั้นตอนของการรับรู้ถึงข้อโต้แย้งเหตุการณ์ที่เราแรกดึงกริยาหัวเป็น กริยา, สำรวจโหนดของเด็กและทำให้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องที่มีประสิทธิภาพตามประเภทการพึ่งพา จากประโยคตัวอย่างเช่นในรูปที่ 1 เราแยกโครงสร้างเหตุการณ์ "[เรื่องครู] [Pre Criticize] [นักเรียน Obj]" อย่างต่อเนื่องโดยใช้กฎที่ 1, 3 กฎและกฎ 10

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน table1 คอลัมน์แรกแสดงประเภทที่เป็นไปได้ของการพึ่งพาความสัมพันธ์จากหัว และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอุปการะที่สอดคล้องกันอยู่ในคอลัมน์ที่สอง กฎเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้คุณลักษณะเกี่ยวกับโหนดเดียว ( รวมถึงคำพูดส่วนหนึ่งของคำและความสัมพันธ์ระหว่างการพึ่งพาคู่ กฎเหล่านี้จะยังใช้วลีบางพิเศษโครงสร้างเช่นโครงสร้างเรื่อยๆ ( เช่นrule3 และกฎ 4 ) และประสานงานก่อสร้าง ( กฎเช่น 7 และข้อ 9 )

คุณในระหว่างขั้นตอนของการโต้แย้งคือเหตุการณ์ที่เราสกัดหัวกริยาเป็นกริยา และให้เด็กท่องโหนด , กฎที่สอดคล้องกันอย่างมีประสิทธิภาพตามหมวดหมู่การอ้างอิง จากตัวอย่างประโยคในรูปที่ 1เราแยกงานโครงสร้าง " [ ครู ] หัวเรื่อง [ pre ] [ obj ] วิจารณ์นักเรียน " อย่างต่อเนื่องโดยใช้กฎข้อ 1 ข้อ 3 และข้อ 10 .