The macro-environment refers to all

The macro-environment refers to all forces that are part of the larger society and affect the micro-environment. It includes concepts such as demography, economy, natural forces, technology, politics, and culture.

Factors affecting organization in Macro environment are known as PESTEL, that is: Political, Economical, Social, Technological, Environmental and Legal.

Demography refers to studying human populations in terms of size, density, location, age, gender, race, and occupation. This is a very important factor to study for marketers and helps to divide the population into market segments and target markets. An example of demography is classifying groups of people according to the year they were born. These classifications can be referred to as baby boomers, who are born between 1946 and 1964, generation X, who are born between 1965 and 1976, and generation Y, who are born between 1977 and 1994. Each classification has different characteristics and causes they find important. This can be beneficial to a marketer as they can decide who their product would benefit most and tailor their marketing plan to attract that segment. Demography covers many aspects that are important to marketers including family dynamics, geographic shifts, work force changes, and levels of diversity in any given area.

Another aspect of the macro-environment is the economic environment. This refers to the purchasing power of potential customers and the ways in which people spend their money. Within this area are two different economies, subsistence and industrialized. Subsistence economies are based more in agriculture and consume their own industrial output. Industrial economies have markets that are diverse and carry many different types of goods. Each is important to the marketer because each has a highly different spending pattern as well as different distribution of wealth.

The natural environment is another important factor of the macro-environment. This includes the natural resources that a company uses as inputs that affects their marketing activities. The concern in this area is the increased pollution, shortages of raw materials and increased governmental intervention. As raw materials become increasingly scarcer, the ability to create a company’s product gets much harder. Also, pollution can go as far as negatively affecting a company’s reputation if they are known for damaging the environment. The last concern, government intervention can make it increasingly harder for a company to fulfill their goals as requirements get more stringent.

The technological environment is perhaps one of the fastest changing factors in the macro-environment. This includes all developments from antibiotics and surgery to nuclear missiles and chemical weapons to automobiles and credit cards. As these markets develop it can create new markets and new uses for products. It also requires a company to stay ahead of others and update their own technology as it becomes outdated. They must stay informed of trends so they can be part of the next big thing, rather than becoming outdated and suffering the consequences financially.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แมโคร-สิ่งแวดล้อมหมายถึงกองกำลังทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมขนาดใหญ่ และมีผลต่อไมโคร-สิ่งแวดล้อม มีแนวคิด เช่นเฟนฮอว์ เศรษฐกิจ กองกำลังธรรมชาติ เทคโนโลยี การเมือง วัฒนธรรมปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรในแมโครเป็นที่รู้จักเป็น PESTEL คือ: การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และกฎหมายเฟนฮอว์อ้างอิงในการศึกษาประชากรมนุษย์ขนาด ความหนาแน่น ตำแหน่ง อายุ เพศ เชื้อชาติ และอาชีพ นี้เป็นปัจจัยที่สำคัญมากการศึกษาตลาด และช่วยในการแบ่งประชากรออกเป็นตลาดเป้าหมายและตลาด ตัวอย่างของเฟนฮอว์เป็นประเภทกลุ่มคนตามปีที่เกิด จัดประเภทเหล่านี้สามารถอ้างอิงถึง boomers ทารก ที่เกิดระหว่าง 1946 และ 1964 รุ่น X ผู้เกิดระหว่างปี 1965 และ 1976 และรุ่น Y ผู้เกิดระหว่าง 1977 และปี 1994 แต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกัน และทำให้พวกเขาหาความสำคัญ นี้สามารถเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาดพวกเขาสามารถตัดสินใจได้ที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะได้รับประโยชน์มากที่สุด และปรับแผนการตลาดดึงดูดเมนต์ เฟนฮอว์ครอบคลุมหลายด้านที่มีความสำคัญสำหรับนักการตลาดรวมถึงครอบครัว dynamics กะทางภูมิศาสตร์ แรงงานเปลี่ยนแปลง และระดับของความหลากหลายในพื้นที่ที่กำหนดของแมโคร-สิ่งแวดล้อมคือ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ นี้หมายถึงอำนาจซื้อของลูกค้าที่มีศักยภาพและวิธีการที่ผู้คนใช้จ่ายเงินของพวกเขา พื้นที่นี้มีสองต่างประเทศ ชีพ และอุตสาหกรรม ชีพเศรษฐกิจอยู่มากในการเกษตร และบริโภคผลผลิตอุตสาหกรรมของตนเอง เศรษฐกิจตลาดที่หลากหลาย และมีสินค้าชนิดต่างๆ ได้ แต่ละเป็นตลาดที่สำคัญเนื่องจากมีการใช้รูปแตกต่างกันมากรวมทั้งกระจายแตกต่างกันให้เลือกมากมายสภาพแวดล้อมธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของแมโคร-สิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่บริษัทใช้เป็นปัจจัยการผลิตที่มีผลต่อกิจกรรมทางการตลาด กังวลในพื้นที่นี้มีมลภาวะเพิ่มขึ้น การขาดแคลนวัตถุดิบและการแทรกแซงของภาครัฐเพิ่มขึ้น เป็นวัตถุดิบเป็น scarcer มากขึ้น สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับหนักมาก ยัง มลพิษสามารถไปเป็นไกลที่ส่งผลต่อชื่อเสียงของบริษัทถ้าพวกเขาเป็นที่รู้จักสำหรับความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ความกังวลล่าสุด แทรกแซงของรัฐบาลสามารถได้มันยากมากสำหรับบริษัทเพื่อตอบสนองเป้าหมายของพวกเขาเป็นความต้องได้เข้มงวดมากขึ้นสิ่งแวดล้อมเทคโนโลยีเป็นบางทีหนึ่งของปัจจัยเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุดในแมโครสภาพแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทั้งหมดจากยาปฏิชีวนะและการผ่าตัดขีปนาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเคมีรถยนต์และบัตรเครดิต พัฒนาตลาดเหล่านี้ จะสามารถสร้างตลาดใหม่และการใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ยังต้องให้บริษัทอยู่ก่อนผู้อื่น และปรับปรุงเทคโนโลยีของตนเองจะกลายเป็นล้าสมัย พวกเขาต้องรับข่าวสารของแนวโน้มเพื่อให้พวกเขาสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งใหญ่ถัดไป แทนที่จะกลายเป็นล้าสมัยและทุกข์ผลกระทบทางการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สภาพแวดล้อมมหภาคหมายถึงกองกำลังทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมขนาดใหญ่และส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมไมโคร ซึ่งจะรวมถึงแนวคิดเช่นประชากรเศรษฐกิจพลังธรรมชาติ, เทคโนโลยี, การเมืองและวัฒนธรรม. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อองค์กรในสภาพแวดล้อมมาโครที่รู้จักกันเป็น PESTEL ที่:. การเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม, เทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อมและกฎหมายประชากรศาสตร์หมายถึงการศึกษาของมนุษย์ประชากรในแง่ของขนาดความหนาแน่น, สถานที่, อายุเพศเชื้อชาติและการประกอบอาชีพ นี้เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการศึกษาสำหรับนักการตลาดและช่วยในการแบ่งประชากรออกเป็นส่วนการตลาดและการตลาดเป้าหมาย ตัวอย่างของประชากรมีการจำแนกกลุ่มคนตามปีพวกเขาเกิด การจำแนกประเภทเหล่านี้สามารถเรียกว่าเบบี้บูมเมอที่กำลังเกิดระหว่างปี 1946 และปี 1964 รุ่น X ที่กำลังเกิดระหว่าง 1965 และ 1976 และรุ่น Y ที่กำลังเกิดระหว่างปี 1977 และปี 1994 จำแนกแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกันและทำให้เกิดพวกเขาพบ สำคัญ. ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาดที่พวกเขาสามารถตัดสินใจที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะได้รับประโยชน์มากที่สุดและปรับแผนการตลาดเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขาส่วนที่ ประชากรศาสตร์ครอบคลุมหลาย ๆ ด้านที่มีความสำคัญต่อนักการตลาดรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว, การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานและระดับของความหลากหลายในพื้นที่ที่กำหนดใด ๆ . ทุกแง่มุมของสภาพแวดล้อมมหภาคก็คือสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ นี้หมายถึงกำลังซื้อของลูกค้าที่มีศักยภาพและวิธีการที่ผู้คนใช้จ่ายเงินของพวกเขา ภายในพื้นที่นี้มีสองประเทศที่แตกต่างกันการดำรงชีวิตและอุตสาหกรรม เศรษฐกิจจะขึ้นอยู่การดำรงชีวิตมากขึ้นในด้านการเกษตรและการบริโภคผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของตัวเอง เศรษฐกิจอุตสาหกรรมมีตลาดที่มีความหลากหลายและดำเนินการหลายประเภทของสินค้า แต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญที่นักการตลาดเพราะแต่ละคนมีรูปแบบการใช้จ่ายที่แตกต่างกันอย่างมากเช่นเดียวกับการจัดจำหน่ายที่แตกต่างกันของความมั่งคั่ง. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญของสภาพแวดล้อมมหภาค ซึ่งรวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่ บริษัท ใช้เป็นปัจจัยการผลิตที่มีผลต่อกิจกรรมการตลาดของพวกเขา ความกังวลในพื้นที่นี้เป็นมลพิษที่เพิ่มขึ้นการขาดแคลนวัตถุดิบและการแทรกแซงของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น เป็นวัตถุดิบเวชภัณฑ์กลายเป็นมากขึ้นความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ได้รับยากมาก นอกจากนี้มลพิษสามารถไปไกลเท่าที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของ บริษัท หากพวกเขาเป็นที่รู้จักสำหรับความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ความกังวลที่ผ่านการแทรกแซงของรัฐบาลสามารถทำให้มันยากมากขึ้นสำหรับ บริษัท ที่จะบรรลุเป้าหมายของพวกเขาเป็นความต้องการที่จะได้รับที่เข้มงวดมากขึ้น. สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยการเปลี่ยนแปลงที่เร็วที่สุดในสภาพแวดล้อมมหภาค ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทั้งหมดจากยาปฏิชีวนะและการผ่าตัดเพื่อขีปนาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเคมีกับรถยนต์และบัตรเครดิต ในฐานะที่เป็นตลาดเหล่านี้พัฒนาสามารถสร้างตลาดใหม่และการใช้งานใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังต้องให้ บริษัท ที่จะอยู่ข้างหน้าของคนอื่น ๆ และการปรับปรุงเทคโนโลยีของตัวเองมันจะกลายเป็นล้าสมัย พวกเขาจะต้องรับทราบข้อมูลของแนวโน้มเพื่อให้พวกเขาสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่ต่อไปแทนที่จะกลายเป็นล้าสมัยและความทุกข์ทรมานผลกระทบทางการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งแวดล้อมมหภาคหมายถึงกองกำลังทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่ ไมโคร ซึ่งจะรวมถึงแนวคิดเช่น ประชากรศาสตร์ เศรษฐกิจ ธรรมชาติกำลัง เทคโนโลยี การเมือง และวัฒนธรรม

ปัจจัยที่มีผลต่อองค์การสิ่งแวดล้อมมหภาคจะเรียกว่าเพสเทล นั่นคือ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และกฎหมาย .

ประชากร หมายถึง การศึกษา ประชากรมนุษย์ในแง่ของขนาด , ความหนาแน่น , สถานที่ , อายุ , เพศ , เชื้อชาติและอาชีพ นี้เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการศึกษาเพื่อนักการตลาดและช่วยแบ่งประชากรในกลุ่มตลาดเป้าหมายตลาด ตัวอย่างประชากร คือ การจำแนกกลุ่มบุคคลตามปีเกิด .หมวดหมู่เหล่านี้จะเรียกว่าเป็น boomers ทารกที่เกิดระหว่าง พ.ศ. 2489 และ 1964 , รุ่นเอ็กซ์ คนที่เกิดระหว่างปี 1965 และ 1976 และ Generation Y ซึ่งเกิดระหว่าง 1977 และปี 1994 แต่ละประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกันและทำให้พวกเขาค้นหาที่สำคัญนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาดที่พวกเขาสามารถตัดสินใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะได้รับประโยชน์มากที่สุด และปรับแผนการตลาดของตนเพื่อดึงดูดให้กลุ่ม ประชากรศาสตร์ ครอบคลุมหลายด้าน ที่สำคัญ ที่นักการตลาดรวมทั้งพลวัตครอบครัวกะทางภูมิศาสตร์ , การเปลี่ยนแปลงพลังงาน และระดับของความหลากหลายในพื้นที่ใด ๆ .

อีกแง่มุมหนึ่งของสิ่งแวดล้อมมหภาค คือ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจนี้หมายถึงการกำลังซื้อของลูกค้า และวิธีการที่ผู้คนใช้จ่ายเงินของพวกเขา ในบริเวณนี้เป็นสองประเทศที่แตกต่างกัน ทำให้เกิด และอุตสาหกรรม เศรษฐกิจแบบยังชีพอยู่ในการเกษตรและบริโภคผลผลิตอุตสาหกรรมของตนเอง เศรษฐกิจอุตสาหกรรมตลาดที่หลากหลาย และต้องพกหลายประเภทที่แตกต่างของสินค้าแต่ละเป็นสิ่งสำคัญที่นักการตลาด เพราะแต่ละคนมีรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างมาก รวมทั้งการใช้แตกต่างกันของความมั่งคั่ง .

ธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสําคัญของสิ่งแวดล้อมมหภาค . ซึ่งรวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่บริษัทใช้เป็นปัจจัยการผลิตที่มีผลต่อกิจกรรมการตลาดของพวกเขา ปัญหาในพื้นที่นี้ คือ เพิ่มมลพิษการขาดแคลนวัตถุดิบ และการแทรกแซงของรัฐเพิ่มขึ้น เป็นวัตถุดิบกลายเป็น scarcer มากขึ้น ความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์ของ บริษัท จะหนักมาก นอกจากนี้ มลพิษสามารถไปเท่าที่ลบที่มีผลต่อชื่อเสียงของ บริษัท หากพวกเขาเป็นที่รู้จักกันเพื่อทำลายสิ่งแวดล้อม ปัญหาสุดท้ายการแทรกแซงของรัฐบาลทำได้ยากยิ่งขึ้นสำหรับ บริษัท ที่จะตอบสนองเป้าหมายของพวกเขาตามความต้องการได้เข้มงวดมากขึ้น

สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีเป็นบางทีหนึ่งในที่เร็วที่สุดในการเปลี่ยนแปลงปัจจัยสิ่งแวดล้อมมหภาค . ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทั้งหมดจากยาปฏิชีวนะและการผ่าตัดอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเคมี รถยนต์ และบัตรเครดิตตลาดเหล่านี้พัฒนาสามารถสร้างตลาดใหม่และการใช้ประโยชน์ใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ มันยังต้องการให้ บริษัท ที่จะอยู่ข้างหน้าของผู้อื่นและปรับปรุงเทคโนโลยีของพวกเขาเองเป็นจะกลายเป็นล้าสมัย พวกเขาต้องอยู่ทราบแนวโน้มของเพื่อให้พวกเขาสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่ต่อไป แทนที่จะกลายเป็นล้าสมัยและทุกข์ผลทางการเงิน