Choose tomatoes that have rich colo

Choose tomatoes that have rich colors. Deep reds are a great choice, but so are vibrant oranges/tangerines, brilliant yellows, and rich purples. Tomatoes of all colors provide outstanding nutrient benefits. Tomatoes should be well shaped and smooth skinned with no wrinkles, cracks, bruises, or soft spots. They should not have a puffy appearance since that characteristic is often associated with inferior flavor and may also result in excess waste during preparation. Ripe tomatoes will yield to slight pressure and will have a noticeably sweet fragrance.

When buying canned tomatoes, it is often better to buy those that are produced in the United States as many foreign countries do not have as strict standards for lead content in containers. This is especially important with a fruit such as tomatoes, whose high acid content can cause corrosion to, and subsequent migration into the foods of, the metals with which it is in contact.

While on the topic of canning, you may also be interested in some of the most recent information about canned tomato products and BPA (bisphenol A). BPA is an added component in the vinyl lining of numerous canned foods, and it's also known to be problematic from a health standpoint because of its impact on estrogen metabolism. (For more extensive information about BPA, click here.) A recent study of canned foods in Canada has shown an average of about 1 ppb of BPA in canned tomato paste products (with a maximum amount of about 2 ppb), and an average of 9 ppb in pure tomato products liked diced, sliced, or whole peeled tomatoes (with a maximum amount of about 23 ppm). While the U.S. Food and Drug Administration has not set a limit on the amount of BPA allowed in canned tomatoes, the European Commission Directive for BPA has set a limit of 600 ppb. While any amount of BPA in canned tomatoes seems undesirable, we are glad to see that the BPA levels were fairly low in this recent study, especially in canned tomato paste products. You'll need to look for a claim of "BPA-Free" on the label of your canned tomato products (or call the manufacturer) if you want to be sure that your canned tomatoes contain no BPA, since even some certified organic canned tomato products may contain—and are allowed to contain—BPA (through migration from the can).

Since tomatoes are sensitive to cold, and it will impede their ripening process, store them at room temperature and out of direct exposure to sunlight. They will keep for up to a week, depending upon how ripe they are when purchased. To hasten the ripening process, place them in a paper bag with a banana or apple since the ethylene gas that these fruits emit will help speed up the tomato's maturation. If the tomatoes begin to become overripe, but you are not yet ready to eat them, place them in the refrigerator (if possible, in the butter compartment which is a warmer area), where they will keep for one or two more days. Removing them from the refrigerator about 30 minutes before using will help them to regain their maximum flavor and juiciness. Whole tomatoes, chopped tomatoes and tomato sauce freeze well for future use in cooked dishes. Sun-dried tomatoes should be stored in an airtight container, with or without olive oil, in a cool dry place.

Ketchup can be a surprisingly good source of tomato nutrients, including lycopene. But if you are going to purchase tomatoes in the form of ketchup, we recommend that you choose organic ketchup. We make this recommendation not only because you're likely to avoid unwanted pesticide residues and other contaminants if you purchase organic, but also because we've seen a recent study showing higher lycopene content in organic versus non-organic ketchup.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เลือกมะเขือเทศที่มีสีสัน สีแดงลึกเป็นทางเลือกดี แต่ดังนั้นสดใส ส้ม/tangerines เหลืองสดใส และสีม่วงอุดมไปด้วย มะเขือเทศทุกสีมีประโยชน์สารอาหารที่โดดเด่น มะเขือเทศควรจะมีรูปร่างดี และเรียบเนียนผิวไม่ มีริ้วรอย รอยแตก แตกเสียหาย หรือจุดอ่อน นอกจากนี้พวกเขาไม่ควรมีลักษณะตุ่ย เพราะลักษณะที่มักจะ มีรสชาติด้อยกว่า และอาจทำให้ของเสียส่วนเกินในระหว่างการเตรียม มะเขือเทศสุกจะทำให้ความดันเล็กน้อย และจะมีกลิ่นหอมหวานอย่างเห็นได้ชัดเมื่อซื้อมะเขือเทศกระป๋อง ก็มักจะดีกว่าซื้อที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมากต่างประเทศไม่ได้เป็นมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับตะกั่วในภาชนะบรรจุ สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งกับผลไม้เช่นมะเขือเทศ กรดสูงอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนไป และต่อมาย้ายลงในอาหาร โลหะที่อยู่ในการติดต่อในหัวข้อของกระป๋อง คุณยังอาจจะสนใจในข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มะเขือเทศกระป๋องและ BPA (bisphenol A) BPA เป็นส่วนประกอบที่เพิ่มในบุไวนิลของอาหารกระป๋องมากมาย และยังเป็นรู้จักกันจะมีปัญหาจากมุมมองทางสุขภาพเนื่องจาก มีผลกระทบต่อการเผาผลาญฮอร์โมน (สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BPA คลิกที่นี่) การศึกษาของอาหารกระป๋องในประเทศแคนาดาได้แสดงโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ppb ของ BPA ในมะเขือเทศกระป๋องวางผลิตภัณฑ์จำนวนสูงสุดประมาณ 2 ppb), และเฉลี่ย 9 ppb ในผลิตภัณฑ์มะเขือเทศบริสุทธิ์ใจเตรียม การ เตรียมการ หรือทั้งปอกเปลือกมะเขือเทศ (มีจำนวนสูงสุดประมาณ 23 ppm) ในขณะที่สหรัฐอเมริกาอาหารและยาไม่ตั้งข้อจำกัดในจำนวนของ BPA ได้ในมะเขือเทศกระป๋อง คำสั่งคณะกรรมการยุโรปสำหรับ BPA ตั้งขีดจำกัดของ 600 ppb ในขณะที่ยอด BPA ในมะเขือเทศกระป๋องดูเหมือนว่าไม่พึงประสงค์ เรายินดีที่จะดูที่ระดับ BPA ได้ค่อนข้างน้อยในการศึกษานี้ โดยเฉพาะในมะเขือเทศกระป๋องวางผลิตภัณฑ์ คุณจะต้องค้นหาร้องเรียน "BPA ฟรี" บนฉลากกระป๋องมะเขือเทศผลิตภัณฑ์ (หรือเรียกผู้ผลิต) ถ้าคุณต้องการแน่ใจว่า ของมะเขือเทศบรรจุกระป๋องประกอบด้วย BPA ไม่ เพราะแม้บางส่วนได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์ อาจประกอบด้วยผลิตภัณฑ์มะเขือเทศกระป๋อง — และอนุญาตให้ประกอบด้วย — BPA (ผ่านการโยกย้ายจากสามารถ)เพราะมะเขือเทศมีความไวต่อความเย็น และมันจะเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการสุก เก็บไว้ ที่อุณหภูมิห้อง และ จากการสัมผัสโดยตรงกับแสงแดด จะให้สำหรับการต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าสุกจะเมื่อซื้อ สามารถเร่งการสุก วางในถุงกระดาษกล้วยหรือแอปเปิ้ลตั้งแต่ก๊าซเอทิลีนที่ส่งผลไม้เหล่านี้จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของมะเขือเทศ ถ้ามะเขือเทศเริ่มกลายเป็นเครื่องดื่ม แต่คุณยังไม่พร้อมที่จะกินได้ วางไว้ในตู้เย็น (ถ้าเป็นไปได้ ในเนยช่องซึ่งเป็นบริเวณอากาศอบอุ่น), ที่พวกเขาจะเก็บสำหรับหนึ่ง หรือสองวัน เอาออกจากตู้เย็นประมาณ 30 นาทีก่อนใช้จะช่วยให้การฟื้นของรสชาติสูงสุดและ juiciness มะเขือเทศสับ และซอสมะเขือเทศ มะเขือเทศทั้งแข็งดีสำหรับใช้ในอนาคตในอาหารปรุงสุก มะเขือเทศแดดเดียวควรเก็บไว้ในภาชนะสุญญากาศที่ มี หรือไม่ มี น้ำมันมะกอก ในแห้งซอสมะเขือเทศเป็นแหล่งไวน์มะเขือเทศสาร รวมทั้งไลโคปีนก็ได้ แต่ถ้าคุณจะซื้อมะเขือเทศในรูปของซอสมะเขือเทศ เราแนะนำให้ คุณเลือกซอสมะเขือเทศอินทรีย์ เราให้คำแนะนำนี้ไม่ใช่ เพราะคุณอาจจะหลีกเลี่ยงสารเคมีตกค้างและสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ถ้าคุณซื้ออินทรีย์ แต่เนื่องจากเราได้เห็นการศึกษาที่แสดงเนื้อหาไลโคปีนสูงอินทรีย์และไม่อินทรีย์ซอสมะเขือเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เลือกมะเขือเทศที่มีสีสัน สีแดงเข้มเป็นทางเลือกที่ดี แต่เพื่อให้มีการส้มสดใส / ส้ม, สีเหลืองสดใสและสีม่วงที่อุดมไปด้วย มะเขือเทศทุกสีให้ประโยชน์ของสารอาหารที่โดดเด่น มะเขือเทศควรจะมีรูปร่างดีและเรียบเนียนผิวไม่มีริ้วรอยรอยแตกรอยฟกช้ำจุดหรืออ่อน พวกเขาไม่ควรมีลักษณะอ้วนตั้งแต่ลักษณะที่มักจะเกี่ยวข้องกับรสชาติที่ด้อยกว่าและยังอาจส่งผลให้เกิดของเสียส่วนเกินในระหว่างการเตรียม มะเขือเทศสุกจะยอมจำนนต่อแรงกดดันเล็กน้อยและจะมีกลิ่นหอมหวานอย่างเห็นได้ชัด. เมื่อซื้อมะเขือเทศกระป๋องก็มักจะดีกว่าที่จะซื้อที่มีการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมากต่างประเทศไม่ได้มีมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับปริมาณตะกั่วในภาชนะบรรจุ นี้เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลไม้เช่นมะเขือเทศซึ่งสูงปริมาณกรดอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนและการย้ายถิ่นตามมาลงในอาหารที่ได้จากโลหะด้วยซึ่งจะอยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ. ในขณะที่ในเรื่องของการบรรจุกระป๋องที่คุณยังอาจสนใจใน บางส่วนของข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มะเขือเทศกระป๋องและสาร BPA (Bisphenol A) BPA เป็นองค์ประกอบที่เพิ่มเข้ามาในเยื่อบุไวนิลของอาหารกระป๋องจำนวนมากและก็ยังเป็นที่รู้จักกันจะเป็นปัญหาจากมุมมองสุขภาพเพราะผลกระทบที่มีต่อการเผาผลาญของสโตรเจน (สำหรับข้อมูลอย่างกว้างขวางมากขึ้นเกี่ยวกับสาร BPA คลิกที่นี่.) ผลการศึกษาล่าสุดของอาหารกระป๋องในประเทศแคนาดาได้แสดงให้เห็นโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ppb ของสาร BPA ในผลิตภัณฑ์วางมะเขือเทศกระป๋อง (ที่มีจำนวนเงินสูงสุดของประมาณ 2 ppb) และค่าเฉลี่ยของ 9 ppb ในผลิตภัณฑ์มะเขือเทศบริสุทธิ์ชอบหั่นหั่นหรือปอกเปลือกมะเขือเทศทั้งหมด (ที่มีจำนวนเงินสูงสุดของประมาณ 23 ppm) ในขณะที่สหรัฐอาหารและยาไม่ได้ตั้งข้อ จำกัด เกี่ยวกับปริมาณของสาร BPA ที่ได้รับอนุญาตในมะเขือเทศกระป๋องคณะกรรมาธิการยุโรป Directive สำหรับ BPA ได้กำหนดวงเงิน 600 ppb ในขณะที่จำนวนเงินใด ๆ ของสาร BPA ในมะเขือเทศกระป๋องที่ไม่พึงประสงค์ดูเหมือนว่าเรามีความยินดีที่จะเห็นว่าระดับสาร BPA ค่อนข้างต่ำในการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์วางมะเขือเทศกระป๋อง คุณจะต้องมองหาการเรียกร้องของ "ปลอดสาร BPA" บนฉลากของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศกระป๋องของคุณ (หรือเรียกผู้ผลิต) ถ้าคุณต้องการเพื่อให้แน่ใจว่ามะเขือเทศกระป๋องของคุณไม่มีสาร BPA ตั้งแต่แม้กระทั่งบางคนได้รับการรับรองมะเขือเทศกระป๋องอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์อาจมีและได้รับอนุญาตให้มีสาร BPA-(ผ่านการย้ายถิ่นจากกระป๋อง). ตั้งแต่มะเขือเทศมีความไวต่อความหนาวเย็นและมันจะเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการสุกของพวกเขาเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องและออกจากการสัมผัสโดยตรงกับแสงแดด พวกเขาจะเก็บได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะสุกเมื่อซื้อ เพื่อเร่งกระบวนการสุกที่วางไว้ในถุงกระดาษที่มีกล้วยหรือแอปเปิ้ลตั้งแต่ก๊าซเอทิลีนที่ผลไม้เหล่านี้ปล่อยออกมาจะช่วยเพิ่มความเร็วในการเจริญเติบโตของมะเขือเทศ หากมะเขือเทศเริ่มที่จะกลายเป็น overripe แต่คุณยังไม่พร้อมที่จะกินพวกเขาวางไว้ในตู้เย็น (ถ้าเป็นไปได้ในช่องเนยซึ่งเป็นพื้นที่ที่อบอุ่น) ที่พวกเขาจะเก็บไว้สำหรับหนึ่งหรือสองวัน ลบออกจากตู้เย็นประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะใช้จะช่วยให้พวกเขาที่จะฟื้นรสชาติสูงสุดของพวกเขาและความชุ่มฉ่ำ มะเขือเทศทั้งมะเขือเทศสับและซอสมะเขือเทศตรึงดีสำหรับการใช้งานในอนาคตในการปรุงอาหารที่ปรุงสุก มะเขือเทศตากแห้งควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีหรือไม่มีน้ำมันมะกอกในที่แห้งและเย็น. ซอสมะเขือเทศสามารถเป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารที่น่าแปลกใจมะเขือเทศรวมทั้งไลโคปีน แต่ถ้าคุณกำลังจะซื้อมะเขือเทศในรูปแบบของซอสมะเขือเทศเราขอแนะนำให้คุณเลือกซอสมะเขือเทศอินทรีย์ เราจะให้คำแนะนำนี้ไม่เพียงเพราะคุณมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงสารเคมีตกค้างและสารปนเปื้อนที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ถ้าคุณซื้ออินทรีย์ แต่ยังเพราะเราได้เห็นการศึกษาล่าสุดแสดงเนื้อหาไลโคปีนที่สูงขึ้นในอินทรีย์กับซอสมะเขือเทศที่ไม่ใช่อินทรีย์