ResultsTable 1 shows baseline infor

Results
Table 1 shows baseline information for the study population
in 2010. Of the 11,004 eligible addresses in the
study areas to which surveys were sent, responses were
obtained from 4624 (42%) households comprising 8208
males and females aged 18 years or older who lived on
an identified farm/non-farm location. Because very few
individuals indicated ethnic background as First Nations,
Metis or other (or the question was not answered), we
subsequently confined our analyses to the 7708 people
with a self-described Caucasian heritage. Table 1 also
shows distribution of study participants and crude diabetes
prevalence by geographic location and farm/nonfarm
residence. Although overall unadjusted diabetes
prevalence was similar between Saskatchewan0
s agricultural
zones, it ranged from 8.0% (lowest) in the northwest
quadrant to 10.4% (highest) in the northeast quadrant and,
in each quadrant, was significantly higher among non-farm
compared to farm residents. Overall, 10.7% of non-farm
residents and 6.9% of farm residents reported a physiciandiagnosis
of diabetes (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์ตารางที่ 1 แสดงข้อมูลพื้นฐานสำหรับประชากรศึกษาในปี 2553 ที่อยู่ 11,004 มีสิทธิ์ในการศึกษาพื้นที่ที่สำรวจได้ส่ง การตอบสนองได้รับจากครัวเรือน (42%) 4624 ประกอบ 8208ชายและหญิงอายุ 18 ปี หรือมากกว่าที่อยู่บนที่ตั้งฟาร์ม/เกษตรระบุ เนื่องจากมีเพียงไม่กี่บุคคลระบุเชื้อชาติเป็นประเทศแรกMetis หรืออื่น ๆ (หรือไม่มีตอบคำถาม), เราต่อมาขังเราวิเคราะห์คน 7708กับมรดกคอเคซัสที่อธิบายตนเอง ตาราง 1 ยังแสดงแจกจ่ายผู้เข้าร่วมศึกษาและโรคเบาหวานน้ำมันชุกที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และ ฟาร์ม/nonfarmเรสซิเดนซ์ แม้ว่าโดยรวมโรคเบาหวานที่ไม่ได้ปรับชุกที่ระหว่าง Saskatchewan0s เกษตรกรรมโซน มันอยู่ในช่วงจาก 8.0% (ต่ำสุด) ในตะวันตกเฉียงเหนือควอดร้อนท์ 10.4% (สูงสุด) ในควอดร้อนท์ตะวันออกเฉียงเหนือ และในแต่ละควอดร้อนท์ สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเกษตรเมื่อเทียบกับชาวฟาร์ม โดยรวม 10.7% ของเกษตรคนและ 6.9% ของฟาร์มคนรายงานตัว physiciandiagnosisของโรคเบาหวาน (p < 0.001) ตารางที่ 2 แสดงโดยรวมส่วนน้ำมันดิบ รวมทั้ง มาตรฐานอายุโรคเบาหวานโดยเรสซิเดนซ์ตั้งอยู่ในผู้ที่อายุ 20 และมากกว่า หลังจากปรับสำหรับอายุ ชุกโรคเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญยังคงการเปรียบเทียบสูงขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยไม่ใช่ฟาร์มฟาร์มสถานที่(7.3% และ 5.1% ตามลำดับ p < มาก 0.0001)ชุกของโรคเบาหวานน้ำมันได้อย่างมีนัยสำคัญ(P = 0.002) ในหมู่ผู้ชาย (10.1%) เมื่อเทียบกับผู้หญิง(8.1%) อย่างไรก็ตาม เมื่อความแตกต่างในอายุระหว่างชายและหญิงถูกนำมาพิจารณา ไม่มีไม่สำคัญความแตกต่างในความชุกโรคเบาหวานที่ 6.5% และ6.1% ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลตารางที่ 1 แสดงข้อมูลพื้นฐานสำหรับประชากรการศึกษาในปี2010 จาก 11,004 มีสิทธิ์อยู่ในพื้นที่ศึกษาที่สำรวจถูกส่งคำตอบถูกได้รับจาก4624 (42%) ผู้ประกอบการที่ประกอบ 8208 เพศชายและหญิงที่มีอายุ 18 ปีหรือมากกว่าที่อาศัยอยู่ ในฟาร์มระบุ/ สถานที่นอกภาคเกษตร เพราะน้อยมากที่บุคคลที่ระบุเชื้อชาติเป็นชาติแรก, Metis หรืออื่น ๆ (หรือคำถามที่ตอบไม่ได้) เราต่อมาถูกคุมขังในการวิเคราะห์ของเราใน7708 คนที่มีตัวอธิบายมรดกคนผิวขาว ตารางที่ 1 นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการกระจายตัวของผู้เข้าร่วมการศึกษาและโรคเบาหวานน้ำมันดิบชุกโดยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และฟาร์ม/ nonfarm ที่อยู่อาศัย แม้ว่าโรคเบาหวานโดยรวมเท็มเพลตชุกมีความคล้ายคลึงระหว่าง Saskatchewan0 s การเกษตรโซนก็อยู่ในช่วง8.0% (ต่ำสุด) ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้าน10.4% (สูงสุด) ในด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและในแต่ละด้านอย่างมีนัยสำคัญสูงในหมู่ฟาร์มไม่เมื่อเทียบกับที่อาศัยอยู่ในฟาร์ม โดยรวม, 10.7% ของงานนอกภาคเกษตรอยู่อาศัยและ6.9% ของประชาชนฟาร์มรายงาน physiciandiagnosis ของโรคเบาหวาน (p <0.001) ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นโดยรวมของน้ำมันดิบเช่นเดียวกับความชุกอายุได้มาตรฐานของโรคเบาหวานโดยสถานที่ตั้งของถิ่นที่อยู่ในวัย20 และผู้สูงอายุเหล่านั้น หลังจากปรับอายุความชุกโรคเบาหวานยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในฟาร์มที่ไม่ได้เมื่อเทียบกับสถานที่ฟาร์ม(7.3% และ 5.1% ตามลำดับ; p <0.0001). ความชุกโรคเบาหวานน้ำมันดิบอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้น(P = 0.002) ในหมู่มนุษย์ (10.1% ) เมื่อเทียบกับผู้หญิง(8.1%) แต่เมื่อความแตกต่างในอายุระหว่างเพศชายและเพศหญิงถูกนำเข้าบัญชีที่ไม่มีนัยสำคัญความแตกต่างในความชุกโรคเบาหวานที่6.5% และ6.1% ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 1 แสดงข้อมูลพื้นฐานผล

สำหรับประชากรใน 2010 ของ 11004 สิทธิที่อยู่ในพื้นที่ศึกษา ซึ่งการส่ง

ที่ได้จากการตอบสนองเป็น 4624 ( 42% ) ครัวเรือนประกอบด้วยร่วม
เพศชายและหญิง อายุ 18 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในฟาร์มฟาร์ม
/ ไม่ระบุตำแหน่ง เพราะคนน้อยมาก พบประวัติชาติพันธุ์เป็น

ประเทศแรกมี หรือ อื่นๆ หรือ คำถามไม่ตอบ ) เรา
ต่อมาคับการวิเคราะห์ของเราไป 7708 คน
ด้วยตนเองว่าผิวขาวมรดก ตารางที่ 1 แสดงการกระจายของผู้เข้าร่วมการศึกษาด้วย

และความชุกเบาหวานดิบด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ และที่อยู่อาศัย Nonfarm
ฟาร์ม แม้ว่าโดยรวมยังคงเป็นลักษณะคล้ายคลึงกันระหว่างความชุกเบาหวาน

s
saskatchewan0 โซนเกษตร ,ตั้งแต่ 8.0 % ( ต่ำสุด ) ในด้านตะวันตกเฉียงเหนือ
ถึง 10.4% ( สูงสุด ) ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ
ในแต่ละวอดสูงกว่าในฟาร์มฟาร์ม
เมื่อเทียบกับชาวบ้าน โดยรวม , 10.7% ของฟาร์ม
ผู้อยู่อาศัยและ 6.9 % ของชาวฟาร์มรายงาน physiciandiagnosis
ของโรคเบาหวาน ( p < 0.001 ) ตารางที่ 2 แสดงโดย
ดิบรวมทั้งความชุกของเบาหวานโดย
อายุมาตรฐาน