NOAC can be also used for secondary

NOAC can be also used for secondary prevention of cardioembolic
stroke in patients with stroke recurrence despite
appropriate treatment with warfarin.61,62 Although a detailed
review of the prevention of stroke in patients with specific
etiologies is outside the scope of this article, a few common
conditions can be mentioned. For lack of results from clinical
trials on stroke prevention in patients with PFO, antiplatelet
treatment is considered appropriate for stroke patients with
isolated PFO and percutaneous closure of PFO is not recommended.63
In stroke patients with cervicocephalic arterial dissection,
anticoagulation is not recommended over antiplatelet
therapy.64 Patients with ischemic stroke of unclear etiology
and under 45 years of age must be tested for thrombophilia.
Anticoagulant therapy is normally indicated in the event of
a proven deficiency of antithrombin III, protein C, or protein
S, as well as resistance to activated protein C (factor V
Leiden). ASA may be considered as a preventive treatment in
patients with antiphospholipid antibody positivity after a first
ischemic stroke. Oral anticoagulants for an INR of 2–3 are
recommended for patients who meet the criteria for antiphospholipid
syndrome.65 Migraine with aura is associated with
a six to eight-fold increased risk of stroke in patients under
the age of 45 years, but future stroke occurrence remains
unclear. There is no definite guideline for use of antiplatelet/
antithrombotic therapy in stroke prevention for women with
a history of pregnancy-related stroke.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

NOAC สามารถใช้ป้องกันรอง cardioembolicโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีการเกิดโรคหลอดเลือดสมองแม้มีเหมาะสมรักษา ด้วย warfarin.61,62 แต่มีรายละเอียดของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีเฉพาะetiologies อยู่นอกขอบเขตของบทความนี้ ทั่วไปกี่เงื่อนไขที่สามารถกล่าวถึง ขาดผลจากคลินิกการทดลองเกี่ยวกับการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มี PFO, antiplateletรักษากำลังที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแยก PFO PFO percutaneous เชิดไม่ recommended.63ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง cervicocephalic ต้วชำแหละไม่มีการแนะนำ anticoagulation ผ่าน antiplatelettherapy.64 ผู้ป่วยสำรอกสโตรกของวิชาการที่ชัดเจนและอายุต่ำกว่า 45 ปีต้องมีทดสอบสำหรับ thrombophiliaโดยปกติมีระบุบำบัด anticoagulant ใน event ของขาดการพิสูจน์ ของ antithrombin III, C โปรตีน โปรตีนS ตลอดจนทนต่อเปิดโปรตีนซี (ปัจจัย Vไลเดน) ASA อาจถือได้ว่าเป็นการรักษาเชิงป้องกันในผู้ป่วย มีแอนติบอดี antiphospholipid positivity หลังจากเป็นครั้งแรกจังหวะสำรอก มี anticoagulants ปากสำหรับการ inr. 2 – 3แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ตรงกับเงื่อนไขสำหรับ antiphospholipidsyndrome.65 ไมเกรน ด้วย aura จะเกี่ยวข้องกับหก eight-fold เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยภายใต้การอายุ 45 ปี แต่ในอนาคตจะเกิดโรคหลอดเลือดสมองชัดเจน มีหลักเกณฑ์แน่นอนไม่ใช้ antiplatelet /รักษา antithrombotic ในป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสำหรับผู้หญิงด้วยประวัติของจังหวะที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

NOAC สามารถใช้สำหรับการป้องกันที่สองของ cardioembolic
โรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีการกำเริบจังหวะแม้จะมี
การรักษาที่เหมาะสมกับ warfarin.61,62 แม้ว่ารายละเอียด
การตรวจสอบของการป้องกันของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีเฉพาะ
สาเหตุอยู่นอกขอบเขตของบทความนี้เพียงไม่กี่ที่พบบ่อย
เงื่อนไขที่สามารถจะกล่าวถึง สำหรับการขาดผลทางคลินิก
การทดลองเกี่ยวกับการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มี PFO, ยาต้านเกล็ดเลือด
เป็นที่ยอมรับว่าการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มี
PFO โดดเดี่ยวและปิดลวดของ PFO ไม่ได้ recommended.63
ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีการผ่าเส้นเลือด cervicocephalic,
anticoagulation ไม่แนะนำมากกว่ายาต้านเกล็ดเลือด
therapy.64 ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดสมองตีบของสาเหตุไม่ชัดเจน
และอยู่ภายใต้ 45 ปีต้องได้รับการทดสอบการ thrombophilia.
การรักษาด้วยการแข็งตัวของเลือดจะแสดงตามปกติในกรณีที่มีการ
พิสูจน์แล้วของการขาด antithrombin III, โปรตีน C หรือโปรตีน
S, เช่นเดียวกับความต้านทานต่อการ เปิดใช้งานโปรตีน C (ปัจจัย V
Leiden) เอเอสเออาจจะถือว่าเป็นยาป้องกันใน
ผู้ป่วยที่มีแอนติบอดี positivity antiphospholipid หลังจากครั้งแรกที่
โรคหลอดเลือดสมองตีบ anticoagulants ช่องปากสำหรับ INR 2-3 จะ
แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์สำหรับ antiphospholipid
syndrome.65 ไมเกรนด้วยกลิ่นอายความเกี่ยวข้องกับ
หกถึงแปดเท่าเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่อายุต่ำกว่า
อายุ 45 ปี แต่จังหวะในอนาคต เกิดขึ้นยังคง
ไม่มีความชัดเจน ไม่มีแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการใช้ยาต้านเกล็ดเลือดเป็น /
การรักษาลิ่มเลือดในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสำหรับผู้หญิงที่มี
ประวัติความเป็นมาของโรคหลอดเลือดสมองที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

noac นอกจากนี้ยังสามารถใช้สำหรับการป้องกันทุติยภูมิของ cardioembolic
โรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นแม้จะมีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย 61,62
.
แต่ตรวจสอบรายละเอียดของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยเฉพาะ
etiologies อยู่ภายนอกขอบเขตของบทความนี้ เงื่อนไขทั่วไป
ไม่กี่สามารถกล่าวถึง ไม่มีผลทางคลินิก
การทดลองในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วย PFO เลือด
, การรักษาถือว่าเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีประสบการของ
แยกยุติธรรมไม่แนะนํา 63
ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มี cervicocephalic หลอดเลือดแดง การได้รับยาไม่แนะนําไปที

therapy.64 ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบของ
สาเหตุไม่ชัดเจนและใต้ อายุ 45 ปี ต้องทดสอบ thrombophilia .
ทุนิยม มักพบในกรณีที่
พิสูจน์ข้อบกพร่องของแอนติทรอมบิน 3 ซีโปรตีนหรือโปรตีน
s เช่นเดียวกับความต้านทานกระตุ้นโปรตีนซี ( factor V
Leiden ) อาสาอาจจะถือว่าเป็นการป้องกันการรักษาในผู้ป่วยที่มีแอนติบอดีทั้งแอนตี้ฟอลโฟไลปิด

หลังจากเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบนฤบาลช่องปากสำหรับ INR 2 – 3
แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ตรงกับเกณฑ์สำหรับแอนตี้ฟอลโฟไลปิด
syndrome.65 ไมเกรนกับราศีที่เกี่ยวข้องกับ
เป็นหกถึงแปดเท่า เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยภายใต้
อายุ 45 ปี แต่การเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ในอนาคตยังคงไม่ชัดเจน ไม่มีแน่นอนแนวทางใช้ PCI /
อื่นๆ การรักษาในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องกับ
ประวัติของโรคหลอดเลือดสมอง