variables. The statistical methods

variables. The statistical methods used in this study are descriptive statistics (Mean for males and females), reliability (Cronbach’s alpha), correlation (males and females) and multiple regression analysis.
3. Discussion and Analysis
3.1. Descriptive statistics (Mean for males and females)
The descriptive statistics table shows the mean for males and females according to the variables. Table 1 of
descriptive statistics shows the mean for males (84) and females (393). The variables consists of age, working
experience, CGPA, surface motives, surface strategies, deep motives, deep strategies, achievement motives,
achievement strategies, surface approach, deep approach and achieving approach. 83.3% of males age are 18-21
years old while remaining are 22 years old and above. Besides that, 98.8% of males are having working
experience while remaining is not. The lowest mean is surface strategies which is 2.38 while the highest mean is
achievement motives which is 2.92. These suggest that average of 2.38 students is affected by surface strategies
while average of 2.92 students are affected by achievement motives. Meanwhile, about 24.4% of females are age
between 18 to 21 years old while remaining are 22 years old and above. For working experience, most of females
on average don’t have working experience which account for 67.9%. The lowest mean is 2.58 which is CGPA
while the highest mean is 4.30 which is achievement motive. These suggest that average of 2.58 of female
students is affected by CGPA while average of 4.30 female students is affected by achievement motives. Based
on these results, both males and females share the highest mean which is achievement motives. This indicates
that majority of the students, on average mostly affected by achievement motives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวแปร วิธีการทางสถิติที่ใช้ในการศึกษานี้เป็นสถิติพรรณนา (ค่าเฉลี่ยสำหรับชายและหญิง), ความน่าเชื่อถือ (อัลฟาของ Cronbach), ความสัมพันธ์ (ชายและหญิง) และวิเคราะห์การถดถอยหลาย 3. อธิบายและวิเคราะห์ 3.1 การอธิบายสถิติ (หมายถึงชายและหญิง) ตารางสถิติพรรณนาแสดงหมายความว่าชายและหญิงตามตัวแปร ตารางที่ 1 ของ สถิติพรรณนาแสดงหมายความว่าชาย (84) และหญิง (393) ตัวแปรประกอบด้วยอายุ การทำงาน ประสบการณ์ CGPA ผิวไม่สนคำครหา กลยุทธ์ผิว ไม่สนคำครหาลึก ลึกกลยุทธ์ ความสำเร็จที่ไม่สนคำ ครหา กลยุทธ์ความสำเร็จ วิธีผิว ลึกวิธี และวิธีการบรรลุ 83.3% ของชายอายุจะ 18-21 ปีใน ขณะเหลืออายุ 22 ปี และอยู่เหนือ นอกจากนั้น 98.8% ของเพศชายมีการทำงาน ประสบการณ์ในขณะที่เหลือไม่ ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ กลยุทธ์ที่ผิวที่ 2.38 ขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุด ความสำเร็จที่สนคำครหาที่ 2.92 เหล่านี้แนะนำว่า ค่าเฉลี่ย 2.38 นักเรียนเป็นผลจากกลยุทธ์ที่ผิว ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 2.92 นักเรียนจะมีผลกระทบ โดยไม่สนคำครหาสำเร็จ ในขณะเดียวกัน ประมาณ 24.4% ของหญิงอายุ ระหว่าง 18-21 ปีใน ขณะเหลืออายุ 22 ปี และอยู่เหนือ สำหรับประสบการณ์การทำงาน ส่วนใหญ่ของฉัน ไม่เฉลี่ย 67.9% ซึ่งมีประสบการณ์การทำงาน ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ 2.58 ที่ CGPA ในขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ 4.30 ซึ่งเป็นแรงจูงใจความสำเร็จ เหล่านี้แนะนำว่า เฉลี่ย 2.58 ของเพศหญิง นักเรียนได้รับผลกระทบจาก CGPA ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 4.30 นักเรียนหญิงที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่สนคำครหาสำเร็จ ตาม ผลเหล่านี้ ทั้งชายและหญิงร่วมกันหมายถึงสูงสุดซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่สนคำครหา บ่งชี้ ที่ส่วนใหญ่ของนักเรียน โดยเฉลี่ยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ โดยไม่สนคำครหาสำเร็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวแปร วิธีการทางสถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือสถิติเชิงพรรณนา (ค่าเฉลี่ยสำหรับเพศชายและหญิง) ความน่าเชื่อถือ (อัลฟาของครอนบาค) ความสัมพันธ์ (ชายและหญิง) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ.
3 อธิบายและการวิเคราะห์
3.1 สถิติเชิงพรรณนา (ค่าเฉลี่ยสำหรับเพศชายและหญิง)
ตารางสถิติเชิงพรรณนาแสดงค่าเฉลี่ยสำหรับเพศชายและหญิงตามตัวแปร ตารางที่ 1
ของสถิติเชิงพรรณนาแสดงค่าเฉลี่ยสำหรับผู้ชาย(84) และเพศหญิง (393) ตัวแปรประกอบด้วยอายุการทำงานประสบการณ์ CGPA แรงจูงใจพื้นผิวพื้นผิวกลยุทธ์แรงจูงใจลึกกลยุทธ์ลึกแรงจูงใจความสำเร็จกลยุทธ์ความสำเร็จวิธีพื้นผิววิธีลึกและวิธีการที่ประสบความสำเร็จ 83.3% อายุเพศเป็น 18-21 ปีในขณะที่เหลือ 22 ปีขึ้นไป นอกจากนั้น 98.8% ของเพศชายจะมีการทำงานประสบการณ์ในขณะที่เหลือไม่ได้ ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือกลยุทธ์พื้นผิวซึ่งเป็น 2.38 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือแรงจูงใจความสำเร็จซึ่งเป็น2.92 เหล่านี้ชี้ให้เฉลี่ย 2.38 นักเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยกลยุทธ์พื้นผิวในขณะที่ค่าเฉลี่ยของ 2.92 นักเรียนได้รับผลกระทบจากแรงจูงใจความสำเร็จ ในขณะที่ประมาณ 24.4% ของเพศหญิงอายุระหว่าง18-21 ปีในขณะที่เหลือ 22 ปีขึ้นไป สำหรับประสบการณ์การทำงานส่วนใหญ่ของผู้หญิงโดยเฉลี่ยไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำงานซึ่งมีสัดส่วน 67.9% ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ 2.58 ซึ่ง CGPA คือในขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ4.30 ซึ่งเป็นแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของเพศหญิง 2.58 ของนักเรียนได้รับผลกระทบโดยCGPA ขณะที่ค่าเฉลี่ยของนักเรียนหญิง 4.30 เป็นผลมาจากแรงจูงใจความสำเร็จ จากผลเหล่านี้ทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดซึ่งเป็นแรงจูงใจความสำเร็จ นี้แสดงให้เห็นส่วนใหญ่ของนักเรียนว่าโดยเฉลี่ยได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นแรงจูงใจความสำเร็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวแปร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา ( หมายถึงชายและหญิง ) ความน่าเชื่อถือ ( ครอนบาคแอลฟา ) 3 ( ชายและหญิง ) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
3 การวิเคราะห์และการสนทนา
3.1 . สถิติเชิงพรรณนา ( หมายถึงชายและหญิง )
สถิติตารางแสดงความหมายสำหรับชายและหญิงจากตัวแปรตารางที่ 1 สถิติของ
แสดงหมายถึงเพศชาย ( 84 ) และหญิง ( 393 ) ตัวแปรประกอบด้วย อายุ ประสบการณ์ทำงาน
cgpa , พื้นผิวพื้นผิว , แรงจูงใจ , แรงจูงใจกลยุทธ์ลึกลึกกลยุทธ์ , ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แรงจูงใจ
กลยุทธ์ วิธีการเรียนแบบลึกและบรรลุผิว , วิธีการ ค่า % ของผู้ชายอายุ 18-21 ปี ในขณะที่ส่วนที่เหลือ
22 ปีนอกจากนี้ 98.8 % ของผู้ชายที่มีประสบการณ์ทำงาน
ในขณะที่เหลือไม่ ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือกลยุทธ์พื้นผิวซึ่งเป็น 2.38 ขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ซึ่งเป็น 2.92
. เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า เฉลี่ย 2.38 นักเรียนได้รับผลกระทบจากพื้นผิวกลยุทธ์
ในขณะที่เฉลี่ย 2.92 นักเรียนจะมีผลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ . ส่วนเรื่องถ % ของผู้หญิงอายุ
ระหว่าง 18 ถึง 21 ปีในขณะที่เหลือเป็น 22 ปี ประสบการณ์การทำงาน ส่วนใหญ่ของผู้หญิง
บนไม่เฉลี่ยมีประสบการณ์การทำงานซึ่งบัญชีสำหรับ 67.9 % ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ 2.58 ซึ่งเป็น cgpa
ในขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ช่วงที่เป็นแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า เฉลี่ย 2.58 ของนักศึกษาหญิง
ได้รับผลกระทบโดย cgpa ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของ 4นักเรียนหญิง 30 จะได้รับผลกระทบ โดยแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ . โดย
ผลทั้งชายและหญิงร่วมกันเฉลี่ยสูงสุดซึ่งเป็นแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ . นี้บ่งชี้ว่า
ที่นักศึกษาส่วนใหญ่ เฉลี่ยส่วนใหญ่ที่มีผลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ .