As is often the case when science i

As is often the case when science is dummied down into soundbytes, it becomes wrong. Such is the case in the distortion of the Law of Thermodynamics which has been simplified into the popular wisdom: “Calories in = calories out.” This simplistic adage has become something “everyone knows” to be true. It’s behind widely held beliefs that managing our weight is simply a matter of balancing calories eaten and exercise. While that’s been used to sell a lot of calorie-reduced diets and calorie-burning exercise programs for weight loss; sadly, it’s also been used to support beliefs that fat people “most certainly must be lying” about their diets and activity levels, because otherwise their failure to lose weight would seem to “defy the Law of Thermodynamics.”

While it might seem inconceivable, this simplified maxim is little more than superstition and urban legend. To realize this fact requires us to first go back to physics class and fill in the missing parts of the first Law of Thermodynamics.

The first Law of Thermodynamics, or energy balance, basically states that in a closed system, energy can neither be created nor destroyed, only transformed or transferred.

The human body is not a machine. There are countless, wildly varying, variables (external and internal) involved and that affect the efficiencies of a system and for which we have no control over. Understanding this helps to explain why calories cannot be balanced like a checkbook, and why people never seem to gain or lose precisely as calculated.

Balance in an open system, like the human body, is when all energy going into the system equals all energy leaving the system plus the storage of energy within the system. But energy in any thermodynamic system includes kinetic energy, potential energy, internal energy, and flow energy, as well as heat and work processes.

In other words, in real life, balancing energy includes a lot more than just the calories we eat and the calories we burn according to those exercise charts. The energy parts of the equation include: calories consumed; calories converted to energy and used in involuntary movement; calories used for heat generation and in response to external environmental exposures and temperatures; calories used with inflammatory and infectious processes; calories used in growth, tissue restoration and numerous metabolic processes; calories used in voluntary movement; calories not absorbed in the digestive tract and matter expelled; calories stored as fat, and fat converted in the liver to glucose; and more. Add to that, to put it simply, each variable affects the others, varies with mass and age, involves complex hormonal and enzyme regulatory influences, and differs in efficiency.

Calories eaten and calories used in voluntary movement are only two small parts of energy balance and are meaningless by themselves, unless all of the other variables are controlled for, as our metabolism… which they can never be as they aren’t under our control.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นบ่อยคือเมื่อวิทยาศาสตร์เป็น dummied ลงใน soundbytes จะไม่ถูกต้อง ดังกล่าวเป็นกรณีความผิดเพี้ยนของการกฎหมายของอุณหพลศาสตร์ซึ่งมีการประยุกต์เป็นภูมิปัญญานิยม: "แคลอรี่ใน =แคลอรี่ออก" ดิฉันนี้พี่ได้กลายเป็นสิ่งที่ "ทุกคนรู้ว่า" จะเป็นจริง มันอยู่หลังความเชื่ออย่างกว้างขวางจัดขึ้นว่า การจัดการน้ำหนักของเราเป็นเพียงแค่เรื่องของดุลแคลอรี่ที่รับประทานและออกกำลังกาย ในขณะที่ถูกใช้เพื่อลดแคลอรี่อาหารและแคลอรี่เผากายสำหรับลดน้ำหนัก ขาย เศร้า ถูกใช้เพื่อสนับสนุนความเชื่อที่ว่า คนอ้วน "แน่นอนที่สุดต้องสามารถโกหก" เกี่ยวกับระดับกิจกรรม และอาหารของพวกเขาเนื่องจากมิฉะนั้น จะดูเหมือนพวกเขาล้มเหลวในการลดน้ำหนัก "ท้าทายกฎหมายของอุณหพลศาสตร์"ในขณะที่มันอาจดูเหมือนน่าเล่า แม็กง่ายนี้เป็นมากกว่าความเชื่อโชคลางและตำนาน ตระหนักถึงความจริงนี้ให้เรากลับไปเรียนฟิสิกส์ก่อน และกรอกข้อมูลในส่วนที่ขาดหายไปของกฎหมายแรกของอุณหพลศาสตร์กฎหมายแรกของอุณหพลศาสตร์ การพลังงานสมดุล โดยทั่วไประบุว่า ในระบบปิด พลังงานไม่สามารถสร้าง หรือทำลาย เฉพาะเปลี่ยน หรือโอนย้ายร่างกายมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร มีนับไม่ถ้วน อาละวาดแตกต่างกัน ตัวแปร (ภายนอก และภายใน) ที่เกี่ยวข้อง และที่มีผลต่อประสิทธิภาพ ของระบบ และ การที่เราไม่มีอำนาจควบคุมเหนือ ความเข้าใจนี้ช่วยอธิบายทำไมแคลอรี่ไม่สมดุลเช่นมีสมุดเช็ค และทำไมคนไม่เคยดูเหมือนจะ ได้รับ หรือสูญเสียการคำนวณที่แม่นยำยอดดุลในระบบเปิด เช่นร่างกายมนุษย์ เป็นพลังงานทั้งหมดที่จะเข้าในระบบเท่ากับพลังงานที่ออกจากระบบและเก็บพลังงานภายในระบบทั้งหมด แต่พลังงานในขอบเขตต่าง ๆ มีพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานภายใน และกระแสพลังงาน ตลอดจนกระบวนการความร้อนและการทำงานในคำอื่น ๆ ในชีวิตจริง สมดุลพลังงานไว้มากมายมากกว่าเพียงแคลอรี่ที่เรากินและแคลอรี่ที่เราเขียนตามที่แผนภูมิการออกกำลังกาย ส่วนพลังงานของสมการรวม: จำนวนแคลอรีที่บริโภค แคลอรี่ที่ถูกแปลงเป็นพลังงาน และใช้ในขบวนการทำ แคลอรี่ที่ใช้ สำหรับการสร้างความร้อน และการถ่ายภาพสิ่งแวดล้อมภายนอกและอุณหภูมิ แคลอรี่ที่ใช้กับกระบวนการอักเสบ และติดเชื้อ แคลอรี่ที่ใช้ในการเจริญเติบโต ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และ กระบวนการเผาผลาญมากมาย แคลอรี่ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวความสมัครใจ แคลอรี่ไม่ดูดซึมในทางเดินอาหาร และเรื่อง expelled แปลงแคลอรี่เก็บเป็นไขมัน ไขมันในตับกลูโคส และเพิ่มเติม เพิ่มที่ การใส่เพียง แต่ละตัวแปรมีผลกระทบต่อผู้อื่น แตกต่างกันโดยรวมและอายุ เกี่ยวข้องซับซ้อนฮอร์โมนและเอนไซม์ที่มีอิทธิพลต่อกฎระเบียบ และแตกต่างในประสิทธิภาพแคลอรี่ที่รับประทานและแคลอรี่ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวความสมัครใจมีเพียงสองชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของพลัง และจะออกเอง ทั้งหมดของตัวแปรควบคุม เป็นของเราเผาผลาญ...ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะเป็นพวกเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มักจะเป็นกรณีเมื่อวิทยาศาสตร์ dummied ลงไป soundbytes มันจะกลายเป็นที่ไม่ถูกต้อง ดังกล่าวเป็นกรณีการบิดเบือนของกฎหมายของอุณหพลศาสตร์ซึ่งได้รับการประยุกต์เข้ากับภูมิปัญญาชาวบ้านว่า "แคลอรี่ในแคลอรี่ = ออก." สุภาษิตนี้ง่ายได้กลายเป็นสิ่งที่ "ทุกคนรู้" ที่จะเป็นจริง มันเป็นความเชื่อที่อยู่เบื้องหลังการจัดขึ้นอย่างกว้างขวางว่าการจัดการน้ำหนักของเราเป็นเพียงเรื่องของความสมดุลของแคลอรี่กินและการออกกำลังกาย ในขณะที่ถูกใช้ในการขายจำนวนมากของอาหารแคลอรี่ลดลงและแคลอรี่เผาไหม้โปรแกรมการออกกำลังกายสำหรับการลดน้ำหนัก; เศร้าก็ถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนความเชื่อว่าคนอ้วน "แน่นอนที่สุดจะต้องโกหก" เกี่ยวกับอาหารและระดับกิจกรรมของพวกเขาเพราะมิฉะนั้นความล้มเหลวของพวกเขาในการลดน้ำหนักก็ดูเหมือนจะ "ท้าทายกฎหมายของอุณหพลศาสตร์." ในขณะที่มันอาจจะดูเหมือนไม่น่าเชื่อ, ความจริงที่เรียบง่ายนี้จะน้อยกว่าความเชื่อทางไสยศาสตร์และตำนานเมือง ตระหนักถึงความเป็นจริงนี้เราต้องแรกไปกลับไปเรียนฟิสิกส์และเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของกฎหมายแรกของอุณหพลศาสตร์. กฎหมายแรกของอุณหพลศาสตร์หรือสมดุลพลังงานโดยทั่วไประบุว่าในระบบปิดพลังงานไม่สามารถสร้างหรือ ทำลายเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวหรือโอน. ร่างกายมนุษย์ไม่ได้เครื่อง มีนับไม่ถ้วนอย่างรุนแรงที่แตกต่างกันตัวแปร (ภายในและภายนอก) ที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพที่ของระบบและการที่เราไม่สามารถควบคุมอยู่ การทำความเข้าใจนี้จะช่วยอธิบายว่าทำไมแคลอรี่ไม่สามารถมีความสมดุลเช่นสมุดเช็คและเหตุผลที่คนไม่เคยดูเหมือนจะได้รับหรือเสียได้อย่างแม่นยำตามที่คำนวณ. ยอดเงินคงเหลือในระบบเปิดเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์คือเมื่อพลังงานทั้งหมดที่จะเข้าสู่ระบบเท่ากับพลังงานทั้งหมดออก ระบบรวมทั้งการจัดเก็บพลังงานภายในระบบ แต่การใช้พลังงานในระบบความร้อนใด ๆ รวมถึงพลังงานจลน์พลังงานที่มีศักยภาพพลังงานภายในและการไหลของพลังงานเช่นเดียวกับกระบวนการความร้อนและการทำงาน. ในคำอื่น ๆ ในชีวิตจริงสมดุลพลังงานมีจำนวนมากขึ้นกว่าเพียงแค่แคลอรี่ที่เรากินและ แคลอรี่ที่เราเผาตามแผนภูมิการออกกำลังกายเหล่านั้น ส่วนพลังงานของสมการรวมถึง: แคลอรี่ที่บริโภค; แคลอรี่แปลงเป็นพลังงานและใช้ในการเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ; แคลอรี่ที่ใช้ในการผลิตความร้อนและเพื่อตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกและอุณหภูมิ; แคลอรี่ที่ใช้กับกระบวนการการอักเสบและติดเชื้อ แคลอรี่ที่ใช้ในการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและการฟื้นฟูกระบวนการเผาผลาญอาหารมากมาย แคลอรี่ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวโดยสมัครใจ; แคลอรี่ไม่ดูดซึมในทางเดินอาหารและไล่ออกเรื่อง; แคลอรี่เก็บเป็นไขมันและไขมันแปลงในตับกลูโคส; และอื่น ๆ. เพิ่มไปที่จะนำมันก็ตัวแปรแต่ละส่งผลกระทบต่อคนอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับมวลและอายุที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนที่ซับซ้อนและเอนไซม์ที่มีอิทธิพลต่อกฎระเบียบและความแตกต่างในประสิทธิภาพ. แคลอรี่กินและแคลอรี่ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวโดยสมัครใจเพียงสองชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของความสมดุลพลังงาน และมีความหมายด้วยตัวเองเว้นแต่ทั้งหมดของตัวแปรอื่น ๆ ที่มีการควบคุมเช่นการเผาผลาญอาหารของเรา ... ที่พวกเขาไม่สามารถที่พวกเขาจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นมักจะเป็นกรณีที่เมื่อวิทยาศาสตร์ dummied ลง soundbytes มันจะกลายเป็นผิด ดังกล่าวเป็นกรณีในการบิดเบือนของกฎหมายของอุณหพลศาสตร์ซึ่งได้ถูกประยุกต์เป็นปัญญานิยม : " แคลอรี่ใน = แคลอรี่ออก " ภาษิตง่าย นี้ได้กลายเป็นสิ่งที่ " ใครๆก็รู้ " เป็นจริงมันอยู่หลังอย่างกว้างขวางในความเชื่อว่า การจัดการน้ำหนักของเราเป็นเพียงเรื่องของสมดุลแคลอรี่ที่กินและออกกำลังกาย ส่วนที่ใช้ในการขายมากของแคลอรี่ลดอาหารและโปรแกรมการออกกำลังกายการเผาไหม้แคลอรี่สำหรับการสูญเสียน้ำหนัก ; เศร้า มันก็ยังถูกใช้เพื่อสนับสนุนความเชื่อว่าคนอ้วน " แน่นอนที่สุดต้องโกหก " เรื่องของอาหารและระดับกิจกรรมเพราะมิฉะนั้นความล้มเหลวของพวกเขาสูญเสียน้ำหนักจะดูเหมือน " ฝ่าฝืนกฎหมายของอุณหพลศาสตร์ . "

ในขณะที่มันอาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ นี้ง่าย แม็กซิม เล็กน้อยกว่า ไสยศาสตร์ และเมืองตำนาน ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ กำหนดให้ ก่อนกลับไปเรียนฟิสิกส์ และเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของกฎข้อที่หนึ่งของอุณหพลศาสตร์ .

กฎข้อที่หนึ่งของอุณหพลศาสตร์ หรือพลังงานสมดุลโดยทั่วไปรัฐในระบบปิด พลังงานไม่สามารถที่จะถูกสร้างหรือทำลาย เพียงเปลี่ยนหรือโอน

ร่างกายมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร จริงๆมีอีกอย่างที่แตกต่างกัน ตัวแปร ( ภายในและภายนอก ) ที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบที่ไม่มีการควบคุมความเข้าใจนี้จะช่วยอธิบายว่าทำไมแคลอรี่ไม่สมดุล เช่น สมุดเช็ค และทำไมคนถึงไม่เคยดูเหมือนจะได้รับหรือสูญเสียตามที่คำนวณ

ความสมดุลในการเปิดระบบ เหมือนร่างกายมนุษย์ เมื่อพลังงานเข้าไปในระบบ เท่ากับ พลังงานทั้งหมดออกจากระบบบวกกับกระเป๋าของพลังงานภายในระบบ แต่พลังงานในระบบอุณหพลศาสตร์มีพลังงานจลน์ พลังงานศักยภาพพลังงาน พลังงานภายใน และกระแสพลังงาน ตลอดจนความร้อนและกระบวนการทํางาน

ในคำอื่น ๆในชีวิตจริง ดุลพลังงานรวมมากกว่าแคลอรี่ที่เรากิน และแคลอรีที่เราเขียนตามผู้ใช้แผนภูมิ พลังงานส่วนของสมการ ได้แก่ การบริโภคแคลอรี่ ; แคลอรี่เปลี่ยนเป็นพลังงานและใช้ในการเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ ;แคลอรี่ที่ใช้สำหรับการผลิตความร้อนและในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกและการใช้อุณหภูมิ ; แคลอรีกับกระบวนการอักเสบและการติดเชื้อ ; แคลอรีที่ใช้ในการเจริญเติบโต และซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลายกระบวนการเผาผลาญแคลอรีที่ใช้ในการเคลื่อนไหวโดยสมัครใจ ; ; แคลอรี่ไม่ดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร และเรื่องไล่ออก ; แคลอรีเก็บไว้เป็นไขมัน