The baseline characteristics of the

The baseline characteristics of the 37,308 persons who
completed the insomnia questionnaire are shown in table 1
stratified by diagnostic classification. The prevalence rate for
insomnia was 4.4 percent, while a further 5.8 percent of participants
experienced insomnia without impairment. Insomnia
was more prevalent among women and persons with
lower educational levels, and sleep problems increased significantly
with older age. Greater cigarette use and alcohol
intake, and less exercise, were associated with increasing reports
of sleep problems at baseline. Both self-reported somatic
symptoms and diagnosis were strongly associated with
increasing sleep disturbances, as were anxiety and depression
(table 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลักษณะพื้นฐานของบุคคล 37,308 ที่นอนไม่หลับแบบสอบถามเสร็จสมบูรณ์แล้วจะแสดงในตาราง 1stratified โดยจัดประเภทการวินิจฉัย อัตราชุกร้อยละ 4.4, 5.8 เปอร์เซ็นต์เพิ่มเติมของผู้เรียนขณะนอนไม่หลับนอนไม่หลับมีประสบการณ์ไม่ มีผล นอนไม่หลับมีมากในหมู่ผู้หญิงและผู้มีระดับการศึกษาต่ำ และปัญหาการนอนหลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมีอายุเก่า ใช้บุหรี่และแอลกอฮอล์มากขึ้นและการออกกำลังกายน้อย มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มรายงานปัญหาการนอนหลับที่พื้นฐาน ทั้งตนเองรายงาน somaticอาการและการวินิจฉัยมีขอเกี่ยวข้องด้วยเพิ่มสิ่งรบกวนการนอนหลับ เป็นความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า(ตารางที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลักษณะพื้นฐานของ 37,308
คนที่เสร็จสิ้นการตอบแบบสอบถามการนอนไม่หลับจะแสดงในตารางที่1
แบ่งตามประเภทการจัดวินิจฉัย อัตราความชุกสำหรับการนอนไม่หลับเป็นร้อยละ 4.4 ในขณะที่อีกร้อยละ 5.8 ของผู้เข้าร่วมมีประสบการณ์การนอนไม่หลับโดยไม่มีการด้อยค่า นอนไม่หลับเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในหมู่ผู้หญิงและบุคคลที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่าและปัญหาการนอนหลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับอายุ ใช้บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นการบริโภคและการออกกำลังกายน้อยลงมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มรายงานของปัญหาการนอนหลับที่baseline ทั้งที่ตนเองรายงานร่างกายอาการและการวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องอย่างมากกับการเพิ่มรบกวนการนอนหลับเช่นเดียวกับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า(ตารางที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลักษณะพื้นฐานของ 37308 คนนอนไม่หลับแบบสอบถามเสร็จสิ้น

แบ่งแสดงดังตารางที่ 1 โดยการจำแนกวินิจฉัย อัตราความชุกสำหรับ
นอนไม่หลับคือ 4.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่คนอีก 5.8 เปอร์เซ็นต์
ประสบการณ์นอนไม่หลับโดยไม่ต้องเสื่อม นอนไม่หลับ
เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในหมู่ผู้หญิงและคน
ลดระดับการศึกษาและปัญหาการนอนหลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มีอายุมากขึ้น มากกว่าบุหรี่และแอลกอฮอล์
ใช้บริโภค และออกกำลังกายน้อยลง มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มรายงาน
ปัญหาการนอนหลับที่พื้นฐาน อาการทางกาย
ทั้ง self-reported และวินิจฉัยโรคได้เกี่ยวข้องอย่างมากกับ
เพิ่มรบกวนการนอนหลับอย่างมีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
( ตารางที่ 1