Mercury pollution is a global probl

Mercury pollution is a global problem with local consequences: Emissions from coal-fired power plants and other sources travel around the world through the atmosphere, eventually settling in oceans and waterways, where the pollutant gradually accumulates in fish. Consumption of mercury-contaminated seafood leads to increased risk for cardiovascular disease and cognitive impairments.

In the past several years, a global treaty and a domestic policy have been put in place to curb mercury emissions. But how will such policies directly benefit the U.S.?

In a new study published this week in the Proceedings of the National Academy of Sciences, MIT researchers report that global action on reducing mercury emissions will lead to twice the economic benefits for the U.S., compared with domestic action, by 2050. However, those in the U.S. who consume locally caught freshwater fish, rather than seafood from the global market, will benefit more from domestic rather than international mercury regulations.

The researchers calculated the projected U.S. economic benefits from the Minamata Convention on Mercury, a global treaty adopted in 2013 to reduce mercury emissions worldwide, compared with the Mercury and Air Toxics Standards (MATS), a national regulation set by the U.S. Environmental Protection Agency to reduce mercury pollution from the country's coal-fired power plants.

Overall, while both policies are projected to lead to roughly the same amount of reductions in mercury deposited on U.S. soil compared to a no-policy case, Americans' consumption of mercury by 2050 are estimated to be 91 percent lower under the global treaty, compared to 32 percent under U.S. policy alone. The researchers say these numbers reflect the U.S. commercial fish market, 90 percent of which is sourced from Pacific and Atlantic Ocean basins -- regions that are heavily influenced by emissions from non-U.S. sources, including China.

From their projections of reduced mercury consumption, the researchers estimated health impacts to the U.S. population under both policies, then translated these impacts into economic benefits. They characterized these in two ways: projected lifetime benefits from an individual's reduced exposure to mercury, including willingness to pay for lowering the risk of a fatal heart attack, cost savings from avoided medical care, and increased earnings; and economy-wide benefits, or the associated productivity gains of a national labor force with improved IQ and fewer heart attacks, as a result of reduced exposure to mercury.

Based on these calculations, the team estimated that by 2050, emissions reductions under the Minamata Convention on Mercury would lead to $339 billion in lifetime benefits and $104 billion in economy-wide benefits in the U.S., compared to $147 billion and $43 billion, respectively, from MATS. The global treaty, then, should lead to more than twice the benefits projected from the domestic policy.

"Historically it's been hard to quantify benefits for global treaties," says Noelle Selin, the Esther and Harold E. Edgerton Career Development Associate Professor in MIT's Department of Earth, Atmospheric, and Planetary Sciences. "Would we be able to see a U.S. benefit, given you're spreading reductions and benefits around the world? And we were."

Tracing the policy-to-impacts pathway

Determining how regulatory policies will ultimately lead to health and economic benefits is a complex and convoluted problem. To trace the pathway from policy to impacts, Selin and co-author Amanda Giang, a graduate student in MIT's Institute for Data, Systems, and Society, began with estimates of mercury reductions set by both the Minamata Convention and MATS.

The team then used an atmospheric transport model to trace where emissions would settle over time, based on the reductions proposed by each policy scenario. From regional depositions of mercury, they then estimated the resulting mercury concentrations in fish and mapped these concentrations to seafood sources throughout the world.

Next, the team correlated seafood sources to fish consumption in the U.S., and calculated changes in human exposure to mercury through time. They used epidemiological models to estimate how changes in mercury exposure affect incidence of health impacts, such as heart attacks and IQ deficits. From there, Selin and Giang used economic valuation methods to translate heath impacts into economic benefits -- namely, lifetime and economy-wide benefits to the U.S.

Understanding the drivers

While the researchers were able to come up with benefits in the billions for both the global and domestic policies, they acknowledge that these numbers come with a significant amount of uncertainty, which they also explored.

"We're trying to understand different drivers in the variability of these numbers," Giang says. "There's a lot of uncertainty in this system, and we want to understand what shifts these numbers up and down."

For example, scientists a

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มลพิษปรอทเป็นปัญหาระดับโลกกับผลกระทบภายใน: เที่ยวปล่อยจากโรงไฟฟ้าถ่านและแหล่งอื่น ๆ ทั่วโลกผ่านชั้นบรรยากาศ ในที่สุดจ่ายในมหาสมุทรและน้ำ การที่มลพิษที่สะสมในปลาค่อย ๆ การบริโภคอาหารทะเลที่ปนเปื้อนสารปรอทที่นำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงสำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจและความบกพร่องทางปัญญาในช่วงหลายปีที่ สนธิสัญญาสากลและนโยบายภายในประเทศได้รับการวางในการลดการปล่อยสารปรอท แต่วิธีจะนโยบายดังกล่าวโดยตรงประโยชน์สหรัฐอเมริกาในการศึกษาเผยแพร่สัปดาห์นี้ในกระบวนการพิจารณาของสถาบันการศึกษาแห่งชาติวิทยาศาสตร์ รายงานนักวิจัย MIT ที่ดำเนินการทั่วโลกลดการปล่อยสารปรอทเข้าสู่สองประโยชน์ทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับการดำเนินการภายในประเทศ 2593 อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกาที่ใช้เครื่องจับปลา มากกว่าทะเลจากตลาดโลก จะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากภายในประเทศมากกว่ากฎระเบียบระหว่างประเทศปรอทนักวิจัยคำนวณประโยชน์เศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดการณ์จากปรอท เจรจาระดับโลกมาใน 2013 เพื่อลดการปล่อยสารปรอททั่วโลก ว่าด้วยมินะมะตะเมื่อเทียบกับปรอทและอากาศพิษมาตรฐาน (MATS), กฎระเบียบแห่งชาติที่กำหนด โดยหน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาเพื่อลดมลพิษปรอทจากโรงไฟฟ้าถ่านของประเทศโดยรวม ในขณะที่นโยบายทั้งสองคาดว่าจะนำไปสู่การประมาณจำนวนลดลงในปรอทที่ฝากไว้บนแผ่นดินสหรัฐฯ เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีไม่มีนโยบาย การบริโภคของชาวอเมริกันปรอท 2593 มีประเมินเป็น ร้อยละ 91 ต่ำภายใต้สนธิสัญญาสากล เมื่อเทียบกับร้อยละ 32 ภายใต้นโยบายของสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว นักวิจัยกล่าวว่า ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงตลาดค้าปลาสหรัฐ ร้อยละ 90 มีที่มาจากแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกอ่าง - ภูมิภาคที่ได้รับอิทธิพล โดยปล่อยจากสหรัฐอเมริกาแหล่ง รวมทั้งจีนจากการประมาณการปริมาณปรอทลดลง นักวิจัยประเมินผลกระทบต่อสุขภาพประชากรสหรัฐอเมริกาภายใต้นโยบายทั้งสอง แล้วแปลผลกระทบเหล่านี้เป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ พวกเขามีลักษณะเหล่านี้ในสองวิธี: คาดการณ์ตลอดอายุการใช้ประโยชน์จากบุคคลของลดการสัมผัสกับปรอท รวมทั้งความเต็มใจจ่ายเพื่อลดความเสี่ยงของการโจมตีหัวใจร้ายแรง ความประหยัดจากแพทย์หลีกเลี่ยง กำไรเพิ่มขึ้น และประโยชน์ทั้งเศรษฐกิจ หรือกำไรประสิทธิภาพการทำงานที่เกี่ยวข้องของแรงแห่งชาติกับ IQ ที่ดีขึ้นและโจมตีหัวใจน้อยลง ผลแสงปรอทลดลงจากการคำนวณเหล่านี้ ทีมประเมินที่ 2593 ลดการปล่อยภายใต้การประชุมมินะมะตะเกี่ยวกับปรอทจะนำไปสู่ $339 พันล้านในอายุการใช้งานประโยชน์และ $104 ในผลประโยชน์เศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกา เปรียบเทียบกับ 147 พันล้าน $ และ $43 ตามลำดับ จากเสื่อ สนธิสัญญาสากล แล้ว ควรทำให้ผลประโยชน์มากกว่าสองเท่าคาดการณ์จากนโยบายภายในประเทศ"ในอดีตได้มีการกำหนดปริมาณประโยชน์สนธิสัญญาสากล กล่าวว่า Noelle Selin เอสเธอร์ และแฮโรลด์ E. Edgerton อาชีพพัฒนาอาจารย์ในแผนกของโลกของ MIT บรรยากาศ และ วิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ "เราจะได้เห็นประโยชน์สหรัฐอเมริกา ให้คุณกำลังกระจายลดและผลประโยชน์ทั่วโลก และเรา"ติดตามทางเดินนโยบายกระทบสุดจะนำไปกำหนดนโยบายการกำกับดูแลสุขภาพและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และ convoluted ติดตามทางเดินจากนโยบายผลกระทบ Selin และผู้เขียนร่วม Amanda เกียง บัณฑิตวิทยาลัยในสถาบัน MIT ของข้อมูล ระบบ และ สังคม เริ่มต้น ด้วยค่าประมาณของปรอทลดโดยมินะมะตะประชุมและเสื่อทีมนั้นใช้รูปแบบขนส่งบรรยากาศการสืบค้นกลับที่ปล่อยจะจ่ายช่วงเวลา ตามเสนอ โดยแต่ละสถานการณ์นโยบายการลด จากภูมิภาค depositions เอาปรอท พวกเขาแล้วประเมินความเข้มข้นได้สารปรอทในปลา และแมปความเข้มข้นเหล่านี้ไปยังแหล่งอาหารทะเลทั่วโลกถัดไป ทีมความสัมพันธ์แหล่งอาหารทะเลใช้ปลาในสหรัฐอเมริกา และการเปลี่ยนแปลงมนุษย์สัมผัสกับปรอทผ่านเวลาคำนวณ พวกเขาสามารถใช้รุ่นระบาดวิทยาเพื่อประเมินอุบัติการณ์ของผลกระทบต่อสุขภาพ โรคหัวใจและขาดดุล IQ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในแสงปรอท จาก Selin เกียงใช้และวิธีการประเมินค่าทางเศรษฐกิจในการแปลผลกระทบป่าเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจคือ อายุการใช้งาน และประโยชน์ของเศรษฐกิจทั้งสหรัฐอเมริกาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโปรแกรมควบคุมขณะที่นักวิจัยจะมีประโยชน์ในพันสำหรับนโยบายทั้งระดับโลก และในประเทศ พวกเขายอมรับว่า ตัวเลขเหล่านี้มาพร้อมกับความไม่แน่นอน ซึ่งพวกเขายังอุดมด้วย"เรากำลังพยายามทำความเข้าใจโปรแกรมควบคุมที่แตกต่างกันในความแปรปรวนของตัวเลขเหล่านี้ เกียงกล่าว "มีจำนวนมากของความไม่แน่นอนในระบบนี้ และเราต้องเข้าใจอะไรกะตัวเลขขึ้นลง"นักวิทยาศาสตร์เช่น การ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มลพิษสารปรอทเป็นปัญหาระดับโลกที่มีผลกระทบในท้องถิ่น: การปล่อยมลพิษจากถ่านหินโรงไฟฟ้าและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ไปเที่ยวรอบโลกผ่านชั้นบรรยากาศในที่สุดก็นั่งอยู่ในมหาสมุทรและทางน้ำที่สารมลพิษค่อยๆสะสมในปลา การบริโภคอาหารทะเลที่ปนเปื้อนสารปรอทนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและความบกพร่องทางปัญญา. ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการเจรจาระดับโลกและนโยบายในประเทศได้รับการวางในสถานที่ที่จะลดการปล่อยสารปรอท แต่วิธีการที่นโยบายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อสหรัฐอเมริกาหรือไม่ในการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในสัปดาห์นี้ในการดำเนินการของ National Academy of Sciences, นักวิจัยเอ็มไอทีรายงานว่าการดำเนินการทั่วโลกในการลดการปล่อยสารปรอทจะนำไปสู่สองเท่าของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อเทียบกับ การดำเนินการในประเทศภายในปี 2050 แต่ผู้ที่อยู่ในสหรัฐที่กินจับปลาน้ำจืดในประเทศมากกว่าอาหารทะเลจากตลาดโลกที่จะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากในประเทศมากกว่ากฎระเบียบระหว่างประเทศปรอท. นักวิจัยคำนวณคาดการณ์สหรัฐผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการประชุม Minamata บนดาวพุธ, สนธิสัญญาทั่วโลกนำมาใช้ในปี 2013 เพื่อลดการปล่อยสารปรอททั่วโลกเมื่อเทียบกับปรอทและอากาศมาตรฐานสารพิษ (เสื่อ) กฎระเบียบแห่งชาติที่กำหนดโดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐเพื่อลดมลพิษสารปรอทจากประเทศถ่านหินโรงไฟฟ้าโดยรวมในขณะที่นโยบายทั้งสองคาดว่าจะนำไปสู่การประมาณจำนวนเงินเดียวกันของการลดลงของสารปรอทวางลงบนแผ่นดินสหรัฐฯเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีนโยบายการบริโภคของชาวอเมริกันของสารปรอทภายในปี 2050 คาดว่าจะ 91 เปอร์เซ็นต์ที่ลดลงภายใต้สนธิสัญญาทั่วโลกเมื่อเทียบ ร้อยละ 32 ภายใต้นโยบายสหรัฐเพียงอย่างเดียว นักวิจัยกล่าวว่าตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงตลาดสหรัฐปลาเชิงพาณิชย์ร้อยละ 90 ของที่มีที่มาจากมหาสมุทรแอตแลนติกแปซิฟิกและมหาสมุทรอ่าง -. ภูมิภาคที่มีอิทธิพลอย่างมากจากการปล่อยก๊าซจากที่ไม่ใช่ของสหรัฐแหล่งรวมทั้งจีนจากการคาดการณ์ของพวกเขาจากการบริโภคสารปรอทลดลงนักวิจัยคาดผลกระทบต่อสุขภาพของประชากรสหรัฐภายใต้นโยบายทั้งสองแล้วแปลผลกระทบเหล่านี้เป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ พวกเขาโดดเด่นเหล่านี้ในสองวิธีผลประโยชน์ที่คาดว่าอายุการใช้งานจากการสัมผัสของแต่ละบุคคลลดลงปรอทรวมทั้งเต็มใจที่จะจ่ายสำหรับการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเสียชีวิตประหยัดค่าใช้จ่ายจากการดูแลทางการแพทย์ที่หลีกเลี่ยงได้และกำไรเพิ่มขึ้น และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่กว้างหรือกำไรจากการผลิตของแรงงานแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับไอคิวที่ดีขึ้นและหัวใจวายน้อยเป็นผลจากการสัมผัสที่ลดลงปรอท. อยู่บนพื้นฐานของการคำนวณเหล่านี้ทีมที่คาดว่าภายในปี 2050 การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ Minamata การประชุมบนดาวพุธจะนำไปสู่ ​​$ 339,000,000,000 ในผลประโยชน์ที่อายุการใช้งานและ $ 104,000,000,000 ในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐเมื่อเทียบกับ $ 147,000,000,000 และ 43000000000 $ ตามลำดับจากเสื่อ สนธิสัญญาทั่วโลกนั้นจะนำไปสู่มากกว่าผลประโยชน์เป็นครั้งที่สองที่คาดการณ์จากนโยบายในประเทศ. "ในอดีตมันเป็นเรื่องยากที่จะหาจำนวนผลประโยชน์ให้กับสนธิสัญญาทั่วโลก" โนเอลเซลิน, เอสเธอร์และแฮโรลด์อี Edgerton พัฒนาอาชีพรองศาสตราจารย์ในเอ็มไอทีกล่าวว่า กรมโลกบรรยากาศและวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ "เราจะสามารถเห็นผลประโยชน์ของสหรัฐให้คุณลดการแพร่กระจายและผลประโยชน์ทั่วโลก? และเราก็." ติดตามนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลว่าในท้ายที่สุดจะนำไปสู่สุขภาพและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและซับซ้อน ในการติดตามทางเดินจากนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อ, Selin และผู้เขียนร่วมของอแมนดา Giang นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในเอ็มไอทีสถาบันข้อมูลระบบและสังคมเริ่มต้นด้วยการประมาณการของการลดลงของสารปรอทที่กำหนดโดยทั้ง Minamata ประชุมและเสื่อ. ทีมที่ใช้แล้ว รูปแบบการขนส่งบรรยากาศการติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะชำระในช่วงเวลาที่อยู่บนพื้นฐานของการลดลงที่เสนอโดยแต่ละสถานการณ์นโยบาย จาก depositions ภูมิภาคของปรอทแล้วก็ประมาณความเข้มข้นของสารปรอทที่เกิดในปลาและแมปความเข้มข้นเหล่านี้ไปยังแหล่งอาหารทะเลทั่วโลก. ถัดไปทีมงานที่มีลักษณะร่วมแหล่งอาหารทะเลการบริโภคปลาในสหรัฐอเมริกาและการเปลี่ยนแปลงการคำนวณในการสัมผัสของมนุษย์ปรอทผ่านช่วงเวลาที่ . พวกเขาใช้แบบจำลองทางระบาดวิทยาที่จะประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงในการเปิดรับสารปรอทมีผลต่อการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพเช่นโรคหัวใจและการขาดดุลไอคิว จากนั้น Selin Giang และใช้วิธีการประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะแปลผลกระทบต่อสุขภาพเข้าไปในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ - คืออายุการใช้งานและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่กว้างไปยังสหรัฐอเมริกาทำความเข้าใจกับคนขับรถในขณะที่นักวิจัยก็สามารถที่จะเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ในพันล้านทั่วโลกสำหรับทั้งสองและนโยบายในประเทศที่พวกเขายอมรับว่าตัวเลขเหล่านี้มาพร้อมกับจำนวนเงินที่สำคัญของความไม่แน่นอนที่พวกเขายังมีการสำรวจ. "เรากำลังพยายามที่จะเข้าใจคนขับรถที่แตกต่างกันในความแปรปรวนของตัวเลขเหล่านี้" Giang กล่าวว่า "มีจำนวนมากของความไม่แน่นอนในระบบนี้เป็นและเราต้องการที่จะเข้าใจสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตัวเลขเหล่านี้ขึ้นและลง." ตัวอย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์