The ability of fungicides to contro

The ability of fungicides to control Colletotrichum crown rot of strawberry caused by C. gloeosporioides was examined over three seasons. A single application of each fungicide was made 2 days before inoculation (2 DBI) or 1 day after inoculation (1 DAI) with conidial suspensions of C. gloeosporioides. The proportion of plants collapsed on one date at the end of each season was evaluated. In a combined analysis, there was a significant fungicide treatment-season interaction
(P = 0.004). Percent mortality was 64% over 3 years in control plots that were inoculated with C. gloeosporioides but not treated with fungicide. Captan applied 2 DBI consistently reduced plant mortality (mean mortality = 17%). However, it was not as effective when applied 1 DAI (mean mortality = 46%). Azoxystrobin, pyraclostrobin, and thiophanate-methyl all reduced plant mortality relative to the control if applied 2 DBI (mean mortality = 46% for azoxystrobin, 37% for pyraclostrobin, and 41% for thiophanate-methyl) or 1 DAI (mean mortality = 29% for azoxystrobin,27% for pyraclostrobin, and 32% for thiophanate-methyl). Results indicated that these fungicides were more effective when applied 1 DAI; however, lower plant mortality was not always observed with postinoculation applications. Cyprodinil + fludioxonil reduced mortality relative to the control, but there was no consistent evidence that it was more effective when applied at 2 DBI (mean mortality = 39%) than when applied 1 DAI (mean mortality = 40%). Similarly, mortality in plots treated with thiram 2 DBI (mean mortality = 30%) or 1 DAI (mean mortality = 32%) was not different. Potassium phosphite did not affect mortality, regardless of the
timing of application (2 DBI mean mortality = 61%, 1 DAI mean mortality = 67%). The results indicated that an effective strategy for controlling Colletotrichum crown rot caused by C. gloeosporioides should be based on weekly applications of captan throughout the growing season. Azoxystrobin, pyraclostrobin, or thiophanate-methyl applications should be applied when weather conditions are highly favorable for disease development and the activity of contact fungicides such as captan or thiram might be compromised.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสามารถของซึ่งเกิดจากเชื้อ Colletotrichum คราวน์เน่าของสตรอเบอร์รี่ที่เกิดจาก C. gloeosporioides ควบคุมถูกตรวจสอบกว่าสามฤดู แอพลิเคชันเดียวของแต่ละสารเคมีถูกทำ 2 วันก่อน inoculation (2 DBI) หรือ 1 วันหลังจาก inoculation (ได 1) ด้วยบริการ conidial ของ C. gloeosporioides มีประเมินสัดส่วนของพืชที่ยุบในวันหนึ่งในตอนท้ายของแต่ละฤดูกาล ในการวิเคราะห์รวม มีการโต้ตอบฤดูกาลรักษาเชื้อราที่สำคัญ(P = 0.004) เปอร์เซ็นต์การตายถูกควบคุมผืนที่ได้ inoculated กับ C. gloeosporioides แต่ถือว่าไม่ มีสารเคมี กว่า 3 ปี 64% Captan DBI 2 ใช้ลดลงอย่างต่อเนื่องพืชตาย (หมายถึง การตาย = 17%) อย่างไรก็ตาม ไม่มีประสิทธิภาพมากเมื่อใช้ได 1 (หมายถึง การตาย = 46%) Azoxystrobin, pyraclostrobin และทั้งหมดลดลงพืชตายสัมพันธ์กับการควบคุม methyl thiophanate ใช้ 2 DBI (หมายถึง การตาย = 46% สำหรับ azoxystrobin, 37% สำหรับ pyraclostrobin และ 41% สำหรับ thiophanate methyl) หรือได 1 (หมายถึง การตาย = 29% สำหรับ azoxystrobin, 27% สำหรับ pyraclostrobin และ 32% สำหรับ thiophanate methyl) ผลระบุว่า เหล่านี้ซึ่งเกิดจากเชื้อมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ได 1 อย่างไรก็ตาม การตายของพืชต่ำถูกไม่เสมอสังเกตกับ postinoculation Cyprodinil + fludioxonil ลดการตายสัมพันธ์กับการควบคุม แต่มีหลักฐานไม่สอดคล้องกันว่า ไม่มีประสิทธิภาพเมื่อใช้ที่ 2 DBI (หมายถึง การตาย = 39%) มากกว่าเมื่อใช้ได 1 (หมายถึง การตาย = 40%) ในทำนองเดียวกัน ตายในผืนรับ thiram 2 DBI (หมายถึง การตาย = 30%) หรือได 1 (หมายถึง การตาย = 32%) ไม่แตกต่างกัน โพแทสเซียม phosphite ได้ไม่มีผลต่อการตาย ไม่ว่าจะระยะเวลาของโปรแกรมประยุกต์ (หมายถึงการตาย 2 DBI = 61% ได 1 หมายถึง การตาย = 67%) ผลระบุว่า กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับ rot คราวน์ Colletotrichum ควบคุมเกิดจาก C. gloeosporioides ควรจะใช้กับงานสัปดาห์ captan ตลอดฤดูกาลเติบโต Azoxystrobin, pyraclostrobin หรือ thiophanate methyl โปรแกรมควรใช้เมื่อสภาพอากาศจะดีมากสำหรับการพัฒนาของโรค และการติดต่อซึ่งเกิดจากเชื้อเช่น captan หรือ thiram อาจไม่สมบูรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสามารถของสารฆ่าเชื้อราที่จะควบคุม Colletotrichum เน่ามงกุฎของสตรอเบอร์รี่ที่เกิดจากเชื้อรา C. ถูกตรวจสอบในช่วงสามฤดูกาล โปรแกรมเดียวของแต่ละสารกำจัดเชื้อราที่ถูกสร้างขึ้น 2 วันก่อนที่จะฉีดวัคซีน (2 DBI) หรือ 1 วันหลังการฉีดวัคซีน (1 DAI) ที่มีสารแขวนลอยเชื้อรา C. gloeosporioides ของ สัดส่วนของพืชทรุดตัวลงในวันหนึ่งตอนท้ายของแต่ละฤดูกาลที่ได้รับการประเมิน ในการวิเคราะห์ร่วมกันมียาฆ่าเชื้อราอย่างมีนัยสำคัญการทำงานร่วมกันรักษาฤดู
(p = 0.004) อัตราการเสียชีวิตร้อยละ 64 เป็น% ในช่วง 3 ปีในแปลงควบคุมที่ได้รับเชื้อด้วย C. gloeosporioides แต่ไม่รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อรา captan ใช้ 2 DBI พืชลดลงอย่างต่อเนื่องอัตราการตาย (หมายถึงการตาย = 17%) อย่างไรก็ตามมันก็ไม่เป็นผลเมื่อนำ 1 DAI (หมายถึงการตาย = 46%) azoxystrobin, pyraclostrobin และ thiophanate-methyl ทั้งหมดลดอัตราการตายของพืชที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมถ้าใช้ 2 DBI (หมายถึงการตาย = 46% สำหรับ azoxystrobin 37% สำหรับ pyraclostrobin และ 41% สำหรับ thiophanate-methyl) หรือ 1 DAI (การตายเฉลี่ย = 29 % สำหรับ azoxystrobin 27% สำหรับ pyraclostrobin, และ 32% สำหรับ thiophanate-methyl) ผลการศึกษาพบว่าสารฆ่าเชื้อราเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ได 1; แต่การตายของพืชที่ลดลงไม่ได้สังเกตเห็นมักจะมีการใช้งาน postinoculation Cyprodinil + fludioxonil ลดอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม แต่ไม่มีหลักฐานที่สอดคล้องกันว่ามันเป็นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อนำมาใช้ใน 2 DBI (หมายถึงการตาย = 39%) มากกว่าเมื่อนำ 1 DAI (หมายถึงการตาย = 40%) ในทำนองเดียวกันการตายในแปลงรับการรักษาด้วย thiram 2 DBI (หมายถึงการตาย = 30%) หรือ 1 DAI (หมายถึงการตาย = 32%) ไม่แตกต่างกัน โพแทสเซียม phosphite ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการเสียชีวิตโดยไม่คำนึงถึง
ระยะเวลาของการประยุกต์ใช้ (2 DBI หมายถึงการตาย = 61%, 1 DAI หมายถึงการตาย = 67%) ผลการศึกษาพบว่ากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุม Colletotrichum มงกุฎเน่าที่เกิดจากเชื้อรา C. ควรจะขึ้นอยู่กับการใช้งานรายสัปดาห์ของ captan ตลอดฤดูปลูก azoxystrobin, pyraclostrobin หรือ thiophanate-methyl การใช้งานควรจะใช้เมื่อสภาพอากาศเป็นอย่างมากที่ดีสำหรับการพัฒนาของโรคและการทำงานของสารฆ่าเชื้อราติดต่อเช่น captan หรือ thiram อาจถูกทำลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสามารถของสารเคมีเพื่อควบคุมการเน่าของสตรอเบอรี่ Colletotrichum มงกุฎที่เกิดจาก C . gloeosporioides แบ่งเป็น 3 ฤดู เป็นโปรแกรมเดียวของแต่ละสารเคมีได้ 2 วัน ก่อนการฉีดวัคซีน ( 2 แบบ ) หรือ 1 วัน หลังการฉีดวัคซีน ( 1 ได ) จากช่วงล่างของ C . gloeosporioides . สัดส่วนของพืชลงในหนึ่งวันในตอนท้ายของแต่ละฤดูกาลถูกประเมินในการวิเคราะห์รวม การรักษาใช้ฤดูกาลปฏิสัมพันธ์
( p = 0.004 ) อัตราการตายร้อยละ 64 กว่า 3 ปีในแปลงที่ปลูกเชื้อ C . gloeosporioides ควบคุมแต่ไม่ได้รักษากับกอบด้วย แปรผันแบบผกผันประยุกต์ 2 dBi อย่างต่อเนื่องลดอัตราการตายของพืช ( หมายถึงการตาย = 17% ) แต่มันไม่ได้ประสิทธิภาพเมื่อใช้ 1 ได้ ( หมายถึงการตาย = 46% )azoxystrobin pyraclostrobin เมทิลไทโอฟาเนตทั้งหมด , และลดอัตราการตายของพืชที่สัมพันธ์กับการควบคุมถ้า 2 dBi ประยุกต์ ( หมายถึงการตาย = 46% สำหรับ azoxystrobin 37 % pyraclostrobin และ 41 เปอร์เซ็นต์เมทิลไทโอฟาเนต ) หรือ 1 ได้ ( หมายถึงการตาย = 29 % สำหรับ azoxystrobin 27% สำหรับ pyraclostrobin และ 32 เปอร์เซ็นต์เมทิลไทโอฟาเนต ) .ผลการศึกษาพบว่า สารเคมีเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ 1 ได้ อย่างไรก็ตาม ลดอัตราการตายได้เสมอพบพืชที่มีการเริ่ม . cyprodinil fludioxonil ลดอัตราการตายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม แต่ไม่มีหลักฐานว่ามันได้ผลสอดคล้องกันมากขึ้นเมื่อใช้ใน 2 dBi ( หมายถึงการตาย = 39 % ) มากกว่าเมื่อใช้ 1 ได้ ( หมายถึงการตาย = 40% )ในทำนองเดียวกัน อัตราการตายในแปลงที่ได้รับไทแรม 2 dBi ( หมายถึงการตาย = 30% ) หรือ 1 ได้ ( หมายถึงการตาย = 32 เปอร์เซ็นต์ ) ไม่แตกต่างกัน โพแทสเซียมเมตทิลฟ ไฟต์ไม่มีผลต่ออัตราการตาย โดยไม่คำนึงถึง
เวลาสมัคร ( 2 dBi หมายถึงการตาย = 61 % 1 ได้ หมายถึงการตาย = 67% ) ผลการวิจัยพบว่า กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมชนิดมงกุฎเน่าที่เกิดจาก Cเชื้อราควรขึ้นอยู่กับการใช้งานของคนขับเรือ รายสัปดาห์ตลอดฤดูปลูก . azoxystrobin pyraclostrobin , หรือการใช้งานเมทิลไทโอฟาเนตควรใช้เมื่อสภาพอากาศจะสูงเหมาะสำหรับการพัฒนาโรคและกิจกรรมของการติดต่อ เช่น แคปแทนสารเคมีหรือไธแรมอาจจะละเมิด