วันฮาโลวีน (Halloween) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ประเทศทางตะวัน การแปล - วันฮาโลวีน (Halloween) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ประเทศทางตะวัน ไทย วิธีการพูด

วันฮาโลวีน (Halloween) เป็นงานฉลองใ


วันฮาโลวีน (Halloween) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ประเทศทางตะวันตก เด็กๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง มีการประดับประดาแสงไฟ และที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เรียกว่า แจ๊ก-โอ"-แลนเทิร์น (jack-o"-lantern)

การฉลองวันฮาโลวีน นิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา และยังมีในออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ด้วย รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน

ความเป็นมาวันฮาโลวีน

วันฮาโลวีน เรามักจะคุ้นเคยเรียกกันเป็นภาษาปากว่า วันปล่อยผี ในวันดังกล่าวมักมีการจัดตกแต่งบ้านเรือน ร้านค้า โดยใช้ฟักทองที่คว้านเป็นรูปผี หรือใช้วัสดุอื่น ๆ ประดิษฐ์เป็นตัวผีหรือทำให้มีหน้าตาเป็นผีเพื่อสร้างบรรยากาศให้กลายเป็นงานรื่นเริง วันฮาโลวันมีที่มาอย่างไร และเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้นในเรื่องนี้ คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล แห่งราชบัณฑิตยสถาน ได้จัดทำคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของ

การปฏิบัติในคืนวันฮาโลวีน

อังกฤษ

ที่ประเทศนี้ถือว่าวันฮาโลวีนนี้เป็นวันดี เหมาะสำหรับจัดงานแต่งงาน การทำนายโชคชะตา หรือแม้แต่เรื่องความตายยังถือว่า วันนี้เป็นเพียงวันเดียวที่ภูติผีวิญญาณจะช่วยดลบันดาลให้สิ่งที่คนเป็นต้องการสามารถเป็นไปตามใจปรารถนา ประมาณเที่ยงคืนของวันฮาโลวีนสาวอังกฤษจะออกมาหว่าน และไถกลบเมล็ดป่าน พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน และท่องคาถาร้องขอให้มองเห็นภาพของว่าที่คู่ชีวิตของตนในอนาคต เมื่อสาวเจ้าเหลียวมองผ่านบ่าด้านซ้ายก้จะได้เห็นภาพนิมิตของผู้ที่จะมาเป็นสามีของตนในอนาคต

อีกประเพณีหนึ่งของชาวอังกฤษ คือ การหย่อนเหรียญ 6 เพนนีลงในอ่างน้ำ พร้อมแอปเปิ้ล ผู้ใดสามารถแยกแยะของสองสิ่งนี้ออกจากกันได้โดย ใช้ปากคาบเหรียญ และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดได้ในครั้งเดียว ผู้นั้นจะมีโชคดีตลอดปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน

อเมริกา

พวกเด็กๆ จะสนุกสนานมากในคืนวัน "ฮาโลวีน" เพราะพวกเขาจะได้แต่งตัวเลียนแบบคนตาย เช่น เป็นโจรสลัด, กัปตัน, โครงกระดูก, หญิงในสมัยโบราณ หรือสุดจะคิดค้นกันขึ้นมาอย่างในสมัยปัจจุบัน และก็เดินไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ เพื่อขอขนม, ลูกกวาด ฯลฯ โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกฟักทองล้วงเนื้อออกเพื่อใส่เทียนเข้าวางไว้ และจะมีแสงสว่างออกมาจากรูจมูก, ลูกตาและปากที่เจาะไว้บนลูกฟักทอง ตั้งไว้หน้าบ้าน เด็กๆ จะเคาะประตูและเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตู พวกเขาก็จะร้องทักว่า "Trick or Treat" ซึ่งเด็กๆ ทั่วไปก็เป็นเพียงคำพูดไร้เดียงสา เพื่อพูดตามธรรมเนียมการขอขนม พวกเขาไม่เข้าใจความหมายแท้จริงของมัน เพราะว่าคำว่า "Trick or Treat" คำนี้ เป็นคำคล้ายคำพูดของพวกบูชาลัทธิปีศาจ ทำนองว่า ทำสนธิสัญญาตกลงกับมันหรือไม่ก็จะมีการล่อลวงเพราะพวกเด็กๆ จะแต่งตัว เป็นผู้ล่วงลับหรือผี ก็มาขู่เจ้าของบ้าน เด็กๆ ไม่เข้าใจความหมาย แท้จริง ก็เลยพูดกันมาตามธรรมเนียม และพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร เพียงแต่สนุกสนานเท่านั้น

ออกแนวสยองขวัญมีเลือดติดพอน่ากลัว

พวกเจ้าของบ้านเมื่อเอาขนม, ลูกกวาดออกมาให้แล้ว บางแห่งก็จะมีการร้องเพลงให้แก่บ้านนั้น ซึ่งบางแห่งดั้งเดิมก็จะสวดภาวนาให้แก่เจ้าของบ้าน หรืออุทิศแด่วิญญาณผู้ล่วงลับ เราไม่จำเป็นต้องทำให้เด็กเสียความรู้สึกกับคำว่า "Trick or Treat" แต่ควรสอนเด็กๆ ว่า ปีศาจซ่อนเร้นอยู่ในรูปภายนอกที่ดูสวยงามคอยหลอกลวงเรา คล้ายมันใส่หน้ากาก หลอกลวงผู้คนเพื่อปิดบังโฉมหน้าแท้จริงของมัน พระคัมภีร์กล่าวว่า "เราทั้งหลายรู้ว่า คนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป แต่พระบุตรของพระเจ้าได้ทรงคุ้มครองรักษาเขา และมารร้ายไม่แตะต้องเขา เราทั้งหลาย รู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้า และโลกทั้งสิ้นอยู่ใต้อานุภาพของมารร้าย" (1ยน. 5:18-19)

ธรรมเนียมการขอขนมก็มาจากประเทศอังกฤษอีกธรรมเนียมหนึ่ง คือ ธรรมเนียมวัน "กี ฟอว์เก" อันเป็นวันฉลองต่อต้านพวกคาทอลิกในประเทศอังกฤษ "กี ฟอว์เก" เป็นคนไม่รอบคอบแต่มีหน้าที่ดูแลคลังดินปืน ที่วางแผนจะระเบิดรัฐสภาของอังกฤษ และกษัตริย์เจมส์ ที่ 1 ทรงรู้เข้าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1605, นาย "กี ฟอว์เก" ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ช่วงนี้เองที่บรรดาพวกนึกสนุกก็จะสวมหน้ากากและไปเยี่ยมเยียน บ้านชาวคาทอลิกที่กำลังถูกเบียดเบียนตอนกลางคืนและขอขนมเค้กและเบียร์มาทานกัน วัน "กี ฟอว์เก" มาถึงประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับการตั้งนิคมใหม่ของชาวอังกฤษพวกแรกบนทวีปอเมริกา กษัตริย์เจมส์ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากวิถีชีวิต แต่ธรรมเนียม ปฏิบัติยังคงสนุกสนานเกินกว่าจะลืมเลือนได้ ที่สุดเพราะวัน "กี ฟอว์เก" ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน ใกล้กับวันฉลองนักบุญทั้งหลาย ก็เลื่อนเอาธรรมเนียมขอขนมตามบ้านตอนกลางคืนมาไว้กับวัน "ฮาโลวีน" พร้อมกับการแต่งตัวแปลกๆ ด้วยเลย

แม้ว่า การจัดงาน วัน "ฮาโลวีน" ในปัจจุบันจะไม่บ่งถึงต้นตอของที่มาทางความคิด เรื่อง "นักบุญ", และ "ผู้ล่วงลับ" อีกทั้งกลายเป็นงาน "ปาร์ตี้" ทางโลกเต็มตัวไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าหากความสนุกสนานจะมีควบคู่ไปกับชีวิตเราแล้วล่ะก้อ, วัน "ฮาโลวีน" ในฐานะเป็นงานสังสรรค์และเพิ่มสีสันให้กับชีวิตก็ไม่น่ารังเกียจอะไร โดยยังมีความหมายว่า "นรก" มีจริง และ "เราควรจะหลีกเลี่ยงให้ได้", วัน "ฮาโลวีน" น่าจะเตรียมเราให้ระลึกถึงผู้ที่จากเราไปก่อนล่วงหน้าในความเชื่อ, พวกเขาได้อยู่บนสวรรค์ และพวกที่ยังต้องชดใช้โทษบาปในไฟชำระ หากใครบางคนหลีกเลี่ยงงาน "ฮาโลวีน" ไม่ได้จริงๆ หรือมีคนมาทักว่างานนี้จะทำให้เด็กๆ กลับไปบูชาปีศาจ ผมก็แนะนำให้บอกต้นตอการเกิดวัน "ฮาโลวีน" ที่แท้จริงแก่พวกเขา และให้พวกเขาได้รู้จัก รากความเชื่อแท้จริงของคาทอลิกอันเกี่ยวกับความตาย, นักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณในไฟชำระอันเป็นความเชื่อสำคัญอันหนึ่งของเรา

ใครจะแต่งแนวนี้ก็ระวังตะปูร่วงนะจ๊ะ

หากเราคริสตังจะจัดงานวันฮาโลวีนการรับวัฒนธรรมจากประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะแผ่มาทางภาพยนตร์, ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต หนังสือและบทเพลง จนกระทั่งลูกหลานรับกระแสงานวัน "ฮาโลวีน" เราผู้เป็นคริสตังและผู้ใหญ่อาจจะถือว่าเป็นการสนุกรื่นเริงในบ้าน, เพื่อนบ้าน, เพื่อนๆ ของลูกๆ ใกล้หูใกล้ตาเราภายในครอบครัว ก็อาจทำได้ ซึ่งไม่ควรปล่อยลูกหลานไปจัดกันเอง หรือไปจัดกันต
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
วันฮาโลวีน (ฮาโลวีน) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคมประเทศทางตะวันตกเด็ก ๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลองมีการประดับประดาแสงไฟและที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟเรียกว่าแจ๊ก-โอ "-แลนเทิร์น (แจ็ค-o " -โคมไฟ) การฉลองวันฮาโลวีนนิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกาไอร์แลนด์สหราชอาณาจักรแคนาดาและยังมีในออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ด้วยรวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนานความเป็นมาวันฮาโลวีน วันฮาโลวีนเรามักจะคุ้นเคยเรียกกันเป็นภาษาปากว่าวันปล่อยผีในวันดังกล่าวมักมีการจัดตกแต่งบ้านเรือนร้านค้าโดยใช้ฟักทองที่คว้านเป็นรูปผีหรือใช้วัสดุอื่นๆ ประดิษฐ์เป็นตัวผีหรือทำให้มีหน้าตาเป็นผีเพื่อสร้างบรรยากาศให้กลายเป็นงานรื่นเริงวันฮาโลวันมีที่มาอย่างไรและเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้นในเรื่องนี้คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากลแห่งราชบัณฑิตยสถานได้จัดทำคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของ การปฏิบัติในคืนวันฮาโลวีนอังกฤษ ที่ประเทศนี้ถือว่าวันฮาโลวีนนี้เป็นวันดีเหมาะสำหรับจัดงานแต่งงานการทำนายโชคชะตาหรือแม้แต่เรื่องความตายยังถือว่าวันนี้เป็นเพียงวันเดียวที่ภูติผีวิญญาณจะช่วยดลบันดาลให้สิ่งที่คนเป็นต้องการสามารถเป็นไปตามใจปรารถนาประมาณเที่ยงคืนของวันฮาโลวีนสาวอังกฤษจะออกมาหว่านและไถกลบเมล็ดป่านพร้อมตั้งจิตอธิษฐานและท่องคาถาร้องขอให้มองเห็นภาพของว่าที่คู่ชีวิตของตนในอนาคตเมื่อสาวเจ้าเหลียวมองผ่านบ่าด้านซ้ายก้จะได้เห็นภาพนิมิตของผู้ที่จะมาเป็นสามีของตนในอนาคต อีกประเพณีหนึ่งของชาวอังกฤษคือการหย่อนเหรียญ 6 เพนนีลงในอ่างน้ำพร้อมแอปเปิ้ลผู้ใดสามารถแยกแยะของสองสิ่งนี้ออกจากกันได้โดยใช้ปากคาบเหรียญและใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดได้ในครั้งเดียวผู้นั้นจะมีโชคดีตลอดปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือนอเมริกา พวกเด็ก ๆ จะสนุกสนานมากในคืนวัน "ฮาโลวีน" เพราะพวกเขาจะได้แต่งตัวเลียนแบบคนตายเช่นเป็นโจรสลัด กัปตัน โครงกระดูก หญิงในสมัยโบราณหรือสุดจะคิดค้นกันขึ้นมาอย่างในสมัยปัจจุบันและก็เดินไปเคาะประตูตามบ้านต่าง ๆ เพื่อขอขนม ลูกกวาดฯลฯ โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกฟักทองล้วงเนื้อออกเพื่อใส่เทียนเข้าวางไว้และจะมีแสงสว่างออกมาจากรูจมูก ลูกตาและปากที่เจาะไว้บนลูกฟักทองตั้งไว้หน้าบ้านเด็ก ๆ จะเคาะประตูและเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูพวกเขาก็จะร้องทักว่า "เคล็ดลับ หรือรักษา" ซึ่งเด็ก ๆ ทั่วไปก็เป็นเพียงคำพูดไร้เดียงสาเพื่อพูดตามธรรมเนียมการขอขนมพวกเขาไม่เข้าใจความหมายแท้จริงของมันเพราะว่าคำว่า "เคล็ดลับ หรือรักษา" คำนี้เป็นคำคล้ายคำพูดของพวกบูชาลัทธิปีศาจทำนองว่าทำสนธิสัญญาตกลงกับมันหรือไม่ก็จะมีการล่อลวงเพราะพวกเด็ก ๆ จะแต่งตัวเป็นผู้ล่วงลับหรือผีก็มาขู่เจ้าของบ้านเด็ก ๆ ไม่เข้าใจความหมายแท้จริงก็เลยพูดกันมาตามธรรมเนียมและพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรเพียงแต่สนุกสนานเท่านั้นออกแนวสยองขวัญมีเลือดติดพอน่ากลัว พวกเจ้าของบ้านเมื่อเอาขนม ลูกกวาดออกมาให้แล้วบางแห่งก็จะมีการร้องเพลงให้แก่บ้านนั้นซึ่งบางแห่งดั้งเดิมก็จะสวดภาวนาให้แก่เจ้าของบ้านหรืออุทิศแด่วิญญาณผู้ล่วงลับเราไม่จำเป็นต้องทำให้เด็กเสียความรู้สึกกับคำว่า "เคล็ดลับ หรือรักษา" แต่ควรสอนเด็ก ๆ ว่ลากปีศาจซ่อนเร้นอยู่ในรูปภายนอกที่ดูสวยงามคอยหลอกลวงเราคล้ายมันใส่หน้ากากหลอกลวงผู้คนเพื่อปิดบังโฉมหน้าแท้จริงของมันพระคัมภีร์กล่าวว่า "เราทั้งหลายรู้ว่าคนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาปแต่พระบุตรของพระเจ้าได้ทรงคุ้มครองรักษาเขาและมารร้ายไม่แตะต้องเขาเราทั้งหลายรู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้าและโลกทั้งสิ้นอยู่ใต้อานุภาพของมารร้าย" (1ยน. 5:18-19) ธรรมเนียมการขอขนมก็มาจากประเทศอังกฤษอีกธรรมเนียมหนึ่งคือธรรมเนียมวัน "กีฟอว์เก" อันเป็นวันฉลองต่อต้านพวกคาทอลิกในประเทศอังกฤษ "กีฟอว์เก" เป็นคนไม่รอบคอบแต่มีหน้าที่ดูแลคลังดินปืนที่วางแผนจะระเบิดรัฐสภาของอังกฤษและกษัตริย์เจมส์ 1 ทรงรู้เข้าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1605 นาย "กีฟอว์เก" มาถึงประเทศถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอช่วงนี้เองที่บรรดาพวกนึกสนุกก็จะสวมหน้ากากและไปเยี่ยมเยียนบ้านชาวคาทอลิกที่กำลังถูกเบียดเบียนตอนกลางคืนและขอขนมเค้กและเบียร์มาทานกันวัน "กีฟอว์เก"สหรัฐอเมริกาพร้อมกับการตั้งนิคมใหม่ของชาวอังกฤษพวกแรกบนทวีปอเมริกากษัตริย์เจมส์ก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากวิถีชีวิตแต่ธรรมเนียมปฏิบัติยังคงสนุกสนานเกินกว่าจะลืมเลือนได้ที่สุดเพราะวัน "กีฟอว์เก" ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายนใกล้กับวันฉลองนักบุญทั้งหลายก็เลื่อนเอาธรรมเนียมขอขนมตามบ้านตอนกลางคืนมาไว้กับวัน "ฮาโลวีน" พร้อมกับการแต่งตัวแปลก ๆ ด้วยเลย แม้ว่าการจัดงานวัน "ฮาโลวีน" ในปัจจุบันจะไม่บ่งถึงต้นตอของที่มาทางความคิดเรื่อง "นักบุญ" และ "ผู้ล่วงลับ" อีกทั้งกลายเป็นงาน "ปาร์ตี้" ทางโลกเต็มตัวไปแล้วแต่ผมเชื่อว่าหากความสนุกสนานจะมีควบคู่ไปกับชีวิตเราแล้วล่ะก้อ มีจริงวัน "ฮาโลวีน" ในฐานะเป็นงานสังสรรค์และเพิ่มสีสันให้กับชีวิตก็ไม่น่ารังเกียจอะไรโดยยังมีความหมายว่า "นรก" และ "เราควรจะหลีกเลี่ยงให้ได้" น่าจะเตรียมเราให้ระลึกถึงผู้ที่จากเราไปก่อนล่วงหน้าในความเชื่อ "ฮาโลวีน" วัน พวกเขาได้อยู่บนสวรรค์และพวกที่ยังต้องชดใช้โทษบาปในไฟชำระหากใครบางคนหลีกเลี่ยงงาน "ฮาโลวีน" ไม่ได้จริง ๆ หรือมีคนมาทักว่างานนี้จะทำให้เด็ก ๆ กลับไปบูชาปีศาจผมก็แนะนำให้บอกต้นตอการเกิดวัน "ฮาโลวีน" ที่แท้จริงแก่พวกเขาและให้พวกเขาได้รู้จักรากความเชื่อแท้จริงของคาทอลิกอันเกี่ยวกับความตาย นักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณในไฟชำระอันเป็นความเชื่อสำคัญอันหนึ่งของเราใครจะแต่งแนวนี้ก็ระวังตะปูร่วงนะจ๊ะ หากเราคริสตังจะจัดงานวันฮาโลวีนการรับวัฒนธรรมจากประเทศทางตะวันตกโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะแผ่มาทางภาพยนตร์ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตหนังสือและบทเพลงจนกระทั่งลูกหลานรับกระแสงานวัน "ฮาโลวีน" เราผู้เป็นคริสตังและผู้ใหญ่อาจจะถือว่าเป็นการสนุกรื่นเริงในบ้าน เพื่อนบ้าน เพื่อน ๆ ของลูก ๆ ใกล้หูใกล้ตาเราภายในครอบครัวก็อาจทำได้ซึ่งไม่ควรปล่อยลูกหลานไปจัดกันเองหรือไปจัดกันต
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

วันฮาโลวีน (Halloween) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ประเทศทางตะวันตก เด็กๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง มีการประดับประดาแสงไฟ และที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เรียกว่า แจ๊ก-โอ"-แลนเทิร์น (jack-o"-lantern)

การฉลองวันฮาโลวีน นิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา และยังมีในออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ด้วย รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน

ความเป็นมาวันฮาโลวีน

วันฮาโลวีน เรามักจะคุ้นเคยเรียกกันเป็นภาษาปากว่า วันปล่อยผี ในวันดังกล่าวมักมีการจัดตกแต่งบ้านเรือน ร้านค้า โดยใช้ฟักทองที่คว้านเป็นรูปผี หรือใช้วัสดุอื่น ๆ ประดิษฐ์เป็นตัวผีหรือทำให้มีหน้าตาเป็นผีเพื่อสร้างบรรยากาศให้กลายเป็นงานรื่นเริง วันฮาโลวันมีที่มาอย่างไร และเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้นในเรื่องนี้ คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล แห่งราชบัณฑิตยสถาน ได้จัดทำคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของ

การปฏิบัติในคืนวันฮาโลวีน

อังกฤษ

ที่ประเทศนี้ถือว่าวันฮาโลวีนนี้เป็นวันดี เหมาะสำหรับจัดงานแต่งงาน การทำนายโชคชะตา หรือแม้แต่เรื่องความตายยังถือว่า วันนี้เป็นเพียงวันเดียวที่ภูติผีวิญญาณจะช่วยดลบันดาลให้สิ่งที่คนเป็นต้องการสามารถเป็นไปตามใจปรารถนา ประมาณเที่ยงคืนของวันฮาโลวีนสาวอังกฤษจะออกมาหว่าน และไถกลบเมล็ดป่าน พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน และท่องคาถาร้องขอให้มองเห็นภาพของว่าที่คู่ชีวิตของตนในอนาคต เมื่อสาวเจ้าเหลียวมองผ่านบ่าด้านซ้ายก้จะได้เห็นภาพนิมิตของผู้ที่จะมาเป็นสามีของตนในอนาคต

อีกประเพณีหนึ่งของชาวอังกฤษ คือ การหย่อนเหรียญ 6 เพนนีลงในอ่างน้ำ พร้อมแอปเปิ้ล ผู้ใดสามารถแยกแยะของสองสิ่งนี้ออกจากกันได้โดย ใช้ปากคาบเหรียญ และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดได้ในครั้งเดียว ผู้นั้นจะมีโชคดีตลอดปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน

อเมริกา

พวกเด็กๆ จะสนุกสนานมากในคืนวัน "ฮาโลวีน" เพราะพวกเขาจะได้แต่งตัวเลียนแบบคนตาย เช่น เป็นโจรสลัด, กัปตัน, โครงกระดูก, หญิงในสมัยโบราณ หรือสุดจะคิดค้นกันขึ้นมาอย่างในสมัยปัจจุบัน และก็เดินไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ เพื่อขอขนม, ลูกกวาด ฯลฯ โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกฟักทองล้วงเนื้อออกเพื่อใส่เทียนเข้าวางไว้ และจะมีแสงสว่างออกมาจากรูจมูก, ลูกตาและปากที่เจาะไว้บนลูกฟักทอง ตั้งไว้หน้าบ้าน เด็กๆ จะเคาะประตูและเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตู พวกเขาก็จะร้องทักว่า "Trick or Treat" ซึ่งเด็กๆ ทั่วไปก็เป็นเพียงคำพูดไร้เดียงสา เพื่อพูดตามธรรมเนียมการขอขนม พวกเขาไม่เข้าใจความหมายแท้จริงของมัน เพราะว่าคำว่า "Trick or Treat" คำนี้ เป็นคำคล้ายคำพูดของพวกบูชาลัทธิปีศาจ ทำนองว่า ทำสนธิสัญญาตกลงกับมันหรือไม่ก็จะมีการล่อลวงเพราะพวกเด็กๆ จะแต่งตัว เป็นผู้ล่วงลับหรือผี ก็มาขู่เจ้าของบ้าน เด็กๆ ไม่เข้าใจความหมาย แท้จริง ก็เลยพูดกันมาตามธรรมเนียม และพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร เพียงแต่สนุกสนานเท่านั้น

ออกแนวสยองขวัญมีเลือดติดพอน่ากลัว

พวกเจ้าของบ้านเมื่อเอาขนม, ลูกกวาดออกมาให้แล้ว บางแห่งก็จะมีการร้องเพลงให้แก่บ้านนั้น ซึ่งบางแห่งดั้งเดิมก็จะสวดภาวนาให้แก่เจ้าของบ้าน หรืออุทิศแด่วิญญาณผู้ล่วงลับ เราไม่จำเป็นต้องทำให้เด็กเสียความรู้สึกกับคำว่า "Trick or Treat" แต่ควรสอนเด็กๆ ว่า ปีศาจซ่อนเร้นอยู่ในรูปภายนอกที่ดูสวยงามคอยหลอกลวงเรา คล้ายมันใส่หน้ากาก หลอกลวงผู้คนเพื่อปิดบังโฉมหน้าแท้จริงของมัน พระคัมภีร์กล่าวว่า "เราทั้งหลายรู้ว่า คนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป แต่พระบุตรของพระเจ้าได้ทรงคุ้มครองรักษาเขา และมารร้ายไม่แตะต้องเขา เราทั้งหลาย รู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้า และโลกทั้งสิ้นอยู่ใต้อานุภาพของมารร้าย" (1ยน. 5:18-19)

ธรรมเนียมการขอขนมก็มาจากประเทศอังกฤษอีกธรรมเนียมหนึ่ง คือ ธรรมเนียมวัน "กี ฟอว์เก" อันเป็นวันฉลองต่อต้านพวกคาทอลิกในประเทศอังกฤษ "กี ฟอว์เก" เป็นคนไม่รอบคอบแต่มีหน้าที่ดูแลคลังดินปืน ที่วางแผนจะระเบิดรัฐสภาของอังกฤษ และกษัตริย์เจมส์ ที่ 1 ทรงรู้เข้าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1605, นาย "กี ฟอว์เก" ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ช่วงนี้เองที่บรรดาพวกนึกสนุกก็จะสวมหน้ากากและไปเยี่ยมเยียน บ้านชาวคาทอลิกที่กำลังถูกเบียดเบียนตอนกลางคืนและขอขนมเค้กและเบียร์มาทานกัน วัน "กี ฟอว์เก" มาถึงประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับการตั้งนิคมใหม่ของชาวอังกฤษพวกแรกบนทวีปอเมริกา กษัตริย์เจมส์ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากวิถีชีวิต แต่ธรรมเนียม ปฏิบัติยังคงสนุกสนานเกินกว่าจะลืมเลือนได้ ที่สุดเพราะวัน "กี ฟอว์เก" ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน ใกล้กับวันฉลองนักบุญทั้งหลาย ก็เลื่อนเอาธรรมเนียมขอขนมตามบ้านตอนกลางคืนมาไว้กับวัน "ฮาโลวีน" พร้อมกับการแต่งตัวแปลกๆ ด้วยเลย

แม้ว่า การจัดงาน วัน "ฮาโลวีน" ในปัจจุบันจะไม่บ่งถึงต้นตอของที่มาทางความคิด เรื่อง "นักบุญ", และ "ผู้ล่วงลับ" อีกทั้งกลายเป็นงาน "ปาร์ตี้" ทางโลกเต็มตัวไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าหากความสนุกสนานจะมีควบคู่ไปกับชีวิตเราแล้วล่ะก้อ, วัน "ฮาโลวีน" ในฐานะเป็นงานสังสรรค์และเพิ่มสีสันให้กับชีวิตก็ไม่น่ารังเกียจอะไร โดยยังมีความหมายว่า "นรก" มีจริง และ "เราควรจะหลีกเลี่ยงให้ได้", วัน "ฮาโลวีน" น่าจะเตรียมเราให้ระลึกถึงผู้ที่จากเราไปก่อนล่วงหน้าในความเชื่อ, พวกเขาได้อยู่บนสวรรค์ และพวกที่ยังต้องชดใช้โทษบาปในไฟชำระ หากใครบางคนหลีกเลี่ยงงาน "ฮาโลวีน" ไม่ได้จริงๆ หรือมีคนมาทักว่างานนี้จะทำให้เด็กๆ กลับไปบูชาปีศาจ ผมก็แนะนำให้บอกต้นตอการเกิดวัน "ฮาโลวีน" ที่แท้จริงแก่พวกเขา และให้พวกเขาได้รู้จัก รากความเชื่อแท้จริงของคาทอลิกอันเกี่ยวกับความตาย, นักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณในไฟชำระอันเป็นความเชื่อสำคัญอันหนึ่งของเรา

ใครจะแต่งแนวนี้ก็ระวังตะปูร่วงนะจ๊ะ

หากเราคริสตังจะจัดงานวันฮาโลวีนการรับวัฒนธรรมจากประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะแผ่มาทางภาพยนตร์, ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต หนังสือและบทเพลง จนกระทั่งลูกหลานรับกระแสงานวัน "ฮาโลวีน" เราผู้เป็นคริสตังและผู้ใหญ่อาจจะถือว่าเป็นการสนุกรื่นเริงในบ้าน, เพื่อนบ้าน, เพื่อนๆ ของลูกๆ ใกล้หูใกล้ตาเราภายในครอบครัว ก็อาจทำได้ ซึ่งไม่ควรปล่อยลูกหลานไปจัดกันเอง หรือไปจัดกันต
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!

แม้ว่า การจัดงาน วัน " ฮาโลวีน ในปัจจุบันจะไม่บ่งถึงต้นตอของที่มาทางความคิด เรื่อง" " นักบุญ"," ผู้ล่วงลับ และ อีกทั้งกลายเป็นงาน" " ปาร์ตี้ ทางโลกเต็มตัวไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าหากความสนุกสนานจะมีควบคู่ไปกับชีวิตเราแล้วล่ะก้อ",
" ฮาโลวีน วัน ในฐานะเป็นงานสังสรรค์และเพิ่มสีสันให้กับชีวิตก็ไม่น่ารังเกียจอะไร โดยยังมีความหมายว่า" " นรก มีจริง และ" " เราควรจะหลีกเลี่ยงให้ได้",( แจ็ค - o -
โคม )วันฮาโลวีน ( Halloween ) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคมประเทศทางตะวันตกเด็กๆจะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลองมีการประดับประดาแสงไฟและที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟเรียกว่า
การฉลองวันฮาโลวีนนิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกาไอร์แลนด์สหราชอาณาจักรแคนาดาและยังมีในออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ด้วยรวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน



ความเป็นมาวันฮาโลวีนวันฮาโลวีนเรามักจะคุ้นเคยเรียกกันเป็นภาษาปากว่าวันปล่อยผีในวันดังกล่าวมักมีการจัดตกแต่งบ้านเรือนร้านค้าโดยใช้ฟักทองที่คว้านเป็นรูปผีหรือใช้วัสดุอื่นไม่มีวันฮาโลวันมีที่มาอย่างไรและเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้นในเรื่องนี้คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากลแห่งราชบัณฑิตยสถานได้จัดทำคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของ





การปฏิบัติในคืนวันฮาโลวีนอังกฤษที่ประเทศนี้ถือว่าวันฮาโลวีนนี้เป็นวันดีเหมาะสำหรับจัดงานแต่งงานการทำนายโชคชะตาหรือแม้แต่เรื่องความตายยังถือว่าประมาณเที่ยงคืนของวันฮาโลวีนสาวอังกฤษจะออกมาหว่านและไถกลบเมล็ดป่านพร้อมตั้งจิตอธิษฐานและท่องคาถาร้องขอให้มองเห็นภาพของว่าที่คู่ชีวิตของตนในอนาคตอีกประเพณีหนึ่งของชาวอังกฤษความการหย่อนเหรียญ 6 เพนนีลงในอ่างน้ำพร้อมแอปเปิ้ลผู้ใดสามารถแยกแยะของสองสิ่งนี้ออกจากกันได้โดยใช้ปากคาบเหรียญและใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดได้ในครั้งเดียว


พวกเด็กๆอเมริกาจะสนุกสนานมากในคืนวัน " ฮาโลวีน " เพราะพวกเขาจะได้แต่งตัวเลียนแบบคนตายเช่นเป็นโจรสลัดกัปตันโครงกระดูก , , ,
หญิงในสมัยโบราณหรือสุดจะคิดค้นกันขึ้นมาอย่างในสมัยปัจจุบันเพื่อขอขนมและก็เดินไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ ,ลูกตาและปากที่เจาะไว้บนลูกฟักทองตั้งไว้หน้าบ้านเด็กๆจะเคาะประตูและเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูพวกเขาก็จะร้องทักว่า " หรือปฏิบัติ " ซึ่งเด็กๆทั่วไปก็เป็นเพียงคำพูดไร้เดียงสาเพื่อพูดตามธรรมเนียมการขอขนมเพราะว่าคำว่า " หรือปฏิบัติ " คำนี้เป็นคำคล้ายคำพูดของพวกบูชาลัทธิปีศาจทำนองว่าทำสนธิสัญญาตกลงกับมันหรือไม่ก็จะมีการล่อลวงเพราะพวกเด็กๆจะแต่งตัวเป็นผู้ล่วงลับหรือผีก็มาขู่เจ้าของบ้านเด็กๆลูกกวาดฯลฯและจะมีแสงสว่างออกมาจากรูจมูกโดยเฉพาะบ้านที่มีลูกฟักทองล้วงเนื้อออกเพื่อใส่เทียนเข้าวางไว้ ,แท้จริงก็เลยพูดกันมาตามธรรมเนียมและพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรเพียงแต่สนุกสนานเท่านั้น



พวกเจ้าของบ้านเมื่อเอาขนมออกแนวสยองขวัญมีเลือดติดพอน่ากลัว ,และมารร้ายไม่แตะต้องเขาเราทั้งหลายรู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้าและโลกทั้งสิ้นอยู่ใต้อานุภาพของมารร้าย " ( 1 ครับ .5:18-19 )

ว่าปีศาจซ่อนเร้นอยู่ในรูปภายนอกที่ดูสวยงามคอยหลอกลวงเราคล้ายมันใส่หน้ากากหลอกลวงผู้คนเพื่อปิดบังโฉมหน้าแท้จริงของมันพระคัมภีร์กล่าวว่า " เราทั้งหลายรู้ว่าคนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาปธรรมเนียมการขอขนมก็มาจากประเทศอังกฤษอีกธรรมเนียมหนึ่งความธรรมเนียมวัน " กีฟอว์เก " อันเป็นวันฉลองต่อต้านพวกคาทอลิกในประเทศอังกฤษ " กีฟอว์เก " เป็นคนไม่รอบคอบแต่มีหน้าที่ดูแลคลังดินปืนลูกกวาดออกมาให้แล้วบางแห่งก็จะมีการร้องเพลงให้แก่บ้านนั้นซึ่งบางแห่งดั้งเดิมก็จะสวดภาวนาให้แก่เจ้าของบ้านหรืออุทิศแด่วิญญาณผู้ล่วงลับเราไม่จำเป็นต้องทำให้เด็กเสียความรู้สึกกับคำว่า " ทริกออร์ทรีต "และกษัตริย์เจมส์ที่ 1 ทรงรู้เข้าเมื่อวันที่มากกว่า 5 พฤศจิกายน ,นาย " กีฟอว์เก " ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอช่วงนี้เองที่บรรดาพวกนึกสนุกก็จะสวมหน้ากากและไปเยี่ยมเยียนบ้านชาวคาทอลิกที่กำลังถูกเบียดเบียนตอนกลางคืนและขอขนมเค้กและเบียร์มาทานกันได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า " กีฟอว์เก "พร้อมกับการตั้งนิคมใหม่ของชาวอังกฤษพวกแรกบนทวีปอเมริกากษัตริย์เจมส์ก็ค่อยๆเลือนหายไปจากวิถีชีวิตแต่ธรรมเนียมปฏิบัติยังคงสนุกสนานเกินกว่าจะลืมเลือนได้ที่สุดเพราะวัน " กีฟอว์เก " ซึ่งตรงกับวันที่ 5และ " ผู้ล่วงลับ " อีกทั้งกลายเป็นงาน " ปาร์ตี้ " แต่ผมเชื่อว่าหากความสนุกสนานจะมีควบคู่ไปกับชีวิตเราแล้วล่ะก้อทางโลกเต็มตัวไปแล้ว ,
After doing these การจัดงานได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า " ฮาโลวีน " ในปัจจุบันจะไม่บ่งถึงต้นตอของที่มาทางความคิดเรื่อง " นักบุญ "ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า " ฮาโลวีน " ในฐานะเป็นงานสังสรรค์และเพิ่มสีสันให้กับชีวิตก็ไม่น่ารังเกียจอะไรโดยยังมีความหมายว่า " นรก " มีจริงและ " เราควรจะหลีกเลี่ยงให้ได้ "" ฮาโลวีน " น่าจะเตรียมเราให้ระลึกถึงผู้ที่จากเราไปก่อนล่วงหน้าในความเชื่อได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า ,พวกเขาได้อยู่บนสวรรค์และพวกที่ยังต้องชดใช้โทษบาปในไฟชำระหากใครบางคนหลีกเลี่ยงงาน " ฮาโลวีน " ไม่ได้จริงๆหรือมีคนมาทักว่างานนี้จะทำให้เด็กๆกลับไปบูชาปีศาจผมก็แนะนำให้บอกต้นตอการเกิดวัน " ฮาโลวีน "นักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณในไฟชำระอันเป็นความเชื่อสำคัญอันหนึ่งของเรา



ใครจะแต่งแนวนี้ก็ระวังตะปูร่วงนะจ๊ะรากความเชื่อแท้จริงของคาทอลิกอันเกี่ยวกับความตายและให้พวกเขาได้รู้จัก ,หากเราคริสตังจะจัดงานวันฮาโลวีนการรับวัฒนธรรมจากประเทศทางตะวันตกไม่ว่าจะแผ่มาทางภาพยนตร์โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ,ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตหนังสือและบทเพลงจนกระทั่งลูกหลานรับกระแสงานวัน " ฮาโลวีน " เราผู้เป็นคริสตังและผู้ใหญ่อาจจะถือว่าเป็นการสนุกรื่นเริงในบ้านเพื่อนบ้าน , ,เพื่อนๆของลูกๆใกล้หูใกล้ตาเราภายในครอบครัวก็อาจทำได้ซึ่งไม่ควรปล่อยลูกหลานไปจัดกันเองหรือไปจัดกันต
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: