ฺBan Baat Monk’s Bowl Community, Ba

ฺBan Baat Monk’s Bowl Community, Bangkok
There was a time when all of the bowls used by Thai monks on their daily alms round were hand-made. Today, most of these alms bowls are mass-produced cheaply and quickly in factories elsewhere in Asia. But in Bangkok, one community is preserving the ancient craft of making alms bowls in the traditional way. The Ban Baat monk’s bowl community is a short walk away from the Golden Mount in one direction and Wat Suthat and the Giant Swing (Sao Ching Cha) in the other.

In the Rattanakosin period of Thai history, King Rama I helped establish three villages to produce monks bowls. Today, Ban Baat is the only one of those original three still producing alms bowls.
In the Thai language ‘baat‘ is the word for a monk’s bowl and ‘ban‘ or ‘baan‘ is the name for a home or community.
It can take a whole day for one of the artisans to produce just one large bowl. The steel rim of the bowl is first shaped into a circle on a wooden block. Two strips of steel are welded together in a cross-shape before being attached to the rim to form the frame. The cross-shape represents the four cardinal directions.
In Buddhist folklore, there is a guardian for each of the four cardinal points (north, east, south and west). After the Buddha achieved enlightenment, each guardian presented him with an alms bowl. The Buddha could not favour one guardian over the other and so he formed the four bowls into one bowl. The cross shape that forms the base of the bowls made at Ban Baat represent the four cardinal points and their guardians.
Once the frame is complete, the gaps are then filled with individual pieces of steel which are all welded to the existing frame with melted copper wire. The steel bowl is then hammered into shape before being polished and treated with a protective lacquer.

Bowls are available for purchase directly from the families that make them with prices starting from approximately 500 Baht. The working times are generally from 08.00-17.00 every day. A visit to the Ban Baat community can easily be combined with a trip to the nearby Golden Mount (Wat Saket) or Wat Suthat and the Giant Swing (Sao Ching Cha).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชุมชนบ้าน Baat สงฆ์ชาม กรุงเทพมหานคร ครั้งเมื่อทั้งหมดของชามที่ใช้ โดยการทานวันพระไทยรอบถูกทำมือได้ วันนี้ ส่วนใหญ่ของเหล่านี้ทานชามมีมวลผลิตเทป และรวดเร็วในโรงงานอื่น ๆ ในเอเชีย แต่ในกรุงเทพมหานคร ชุมชนหนึ่งจะรักษาหัตถกรรมโบราณของทำชามทานในแบบดั้งเดิม ชุมชนของพระภิกษุสงฆ์ Baat บ้านชามอยู่ห่างจากภูเขาทองในทิศทางเดียว และวัดสุทัศน์และชิงช้า (เสาชิงชา) ในอีก ในรัตนโกสินทร์ประวัติศาสตร์ไทย พระรามที่เราช่วยสร้างหมู่บ้านที่สามเพื่อผลิตพระสงฆ์ชาม วันนี้ Baat บ้านเป็นเพียงหนึ่งของเหล่าเดิมสามผลิตยังคงทานชาม ภาษาไทย 'baat' เป็นคำสำหรับพระภิกษุสงฆ์ในชาม และ 'บ้าน' หรือ 'บ้าน' เป็นชื่อบ้านหรือชุมชน มันสามารถใช้เวลาทั้งวันช่างฝีมือเพื่อผลิตชามขนาดใหญ่เพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ขอบเหล็กของชามคือแรกรูปร่างเป็นวงกลมบนแท่งไม้ สองแผ่นเหล็กเป็นรอยกันในรูปข้ามก่อนกำลังแนบกับขอบในรูปแบบเฟรม ข้ามรูปทรงแสดงถึงสี่ทิศที่คาร์ดินัล ในพุทธศาสนาวัฒนธรรมพื้นบ้าน ไม่มีผู้ดูแลแต่ละจุดของพระคาร์ดินัลสี่ (เหนือ ใต้ ตะวันออกและตะวันตก) หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ผู้ปกครองแต่ละแสดงเขากับชามทาน พระพุทธเจ้าไม่โปรดปรานผู้ปกครองหนึ่งมากกว่าอีก และดังนั้น เขาเกิดสี่ชามเป็นชามหนึ่ง รูปร่างที่เป็นรูปแบบฐานของชามบ้าน Baat ข้ามแทนพระคาร์ดินัลสี่จุดและผู้ปกครองของพวกเขา เมื่อเฟรมเสร็จแล้ว ช่องว่างเต็มไปแล้วกับแต่ละชิ้นส่วนของเหล็กซึ่งทั้งหมดเป็นรอยกับกรอบด้วยลวดทองแดงที่ละลายอยู่ ชามเหล็กแล้วตอกเป็นรูปร่างก่อนถูกขัด และรักษา ด้วยแล็กเกอร์ป้องกัน ชามมีพร้อมสำหรับการซื้อโดยตรงจากครอบครัวที่ทำให้พวกเขา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาท เวลาทำงานได้โดยทั่วไปตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.ทุกวัน เยี่ยมชมชุมชนบ้าน Baat สามารถรวมกับการเดินทางไปใกล้ ภูเขาทอง (วัดสระเกศ) หรือวัดสุทัศน์ และชิงช้า (เสาชิงชา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฺ Ban Baat พระชามชุมชนกรุงเทพมหานคร
มีเวลาเมื่อทุกชามที่ใช้โดยพระสงฆ์ไทยเมื่อวันที่ทานประจำวันของพวกเขาถูกรอบที่ทำด้วยมือ วันนี้ส่วนใหญ่เหล่านี้ทานชามมีมวลผลิตราคาถูกและรวดเร็วในโรงงานอื่น ๆ ในเอเชีย แต่ในกรุงเทพฯชุมชนหนึ่งคือการรักษาฝีมือโบราณของการทำทานชามในแบบดั้งเดิม ชุมชนชามห้าม Baat พระอยู่ไม่ไกลออกไปจากภูเขาทองในทิศทางเดียวและวัดสุทัศน์และเสาชิงช้า (Sao Ching Cha) ในอื่น ๆ .

ในสมัยรัตนโกสินทร์ของประวัติศาสตร์ไทยรัชกาลที่ช่วยสร้างสามหมู่บ้านเพื่อ พระสงฆ์ผลิตชาม วันนี้บ้าน Baat เป็นเพียงหนึ่งในบรรดาสามเดิมยังคงผลิตทานชาม.
ในภาษาไทย 'Baat' เป็นคำสำหรับชามของพระภิกษุสงฆ์และ 'ห้าม' หรือ 'บ้าน' เป็นชื่อสำหรับบ้านหรือชุมชน.
มันสามารถ ใช้เวลาทั้งวันสำหรับหนึ่งในช่างฝีมือในการผลิตเพียงหนึ่งชามขนาดใหญ่ ขอบของชามเหล็กเป็นรูปแรกเป็นวงกลมบนบล็อกไม้ สองแผ่นเหล็กเชื่อมเข้าด้วยกันในรูปทรงข้ามก่อนที่จะถูกแนบมากับขอบในรูปแบบกรอบ The-รูปกางเขนหมายถึงสี่ทิศทางพระคาร์ดินัล.
พุทธชาวบ้านมีความเป็นผู้ปกครองสำหรับแต่ละสี่จุดสำคัญ (เหนือ, ตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตก) หลังจากที่ประสบความสำเร็จพระพุทธเจ้าตรัสรู้แต่ละผู้ปกครองเขากับบาตร พระพุทธเจ้าไม่สามารถให้ประโยชน์แก่ผู้ปกครองคนหนึ่งในช่วงอื่น ๆ และเพื่อให้เขาเกิดขึ้นสี่ชามเป็นหนึ่งชาม รูปร่างข้ามที่เป็นฐานของชามที่ทำที่บ้าน Baat แทนสี่จุดสำคัญและผู้ปกครองของพวกเขา.
เมื่อเฟรมเสร็จสมบูรณ์แล้วช่องว่างที่เต็มไปแล้วกับแต่ละชิ้นของเหล็กซึ่งได้รับการเชื่อมติดกับกรอบที่มีอยู่ด้วยทองแดงละลาย ลวด ชามเหล็กตอกแล้วเป็นรูปร่างก่อนที่จะถูกขัดและรับการรักษาด้วยการเคลือบป้องกัน.

ชามพร้อมสำหรับการซื้อโดยตรงจากครอบครัวที่ทำให้พวกเขาด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 500 บาท เวลาทำงานมักจะมีตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 ทุกวัน ไปเยี่ยมชมชุมชนบ้าน Baat สามารถนำมารวมกับการเดินทางไปยังสถานที่ใกล้เคียงโกลเด้นภูเขา (วัดสระเกศ) หรือวัดสุทัศน์และเสาชิงช้า A (Sao Ching Cha)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฺบ้านแบดพระชามชุมชน กรุงเทพมหานครมีเวลาเมื่อทั้งหมดของชามที่ใช้โดยพระสงฆ์ไทยในวันตักบาตรได้ด้วยมือ วันนี้ , ที่สุดของบริจาคเหล่านี้จะเป็นชามราคาถูกและรวดเร็วในโรงงานอื่น ๆในเอเชีย แต่ในกรุงเทพ หนึ่งชุมชนอนุรักษ์งานฝีมือโบราณของการทำทานในชามเป็นวิธีแบบดั้งเดิม ชุมชนบ้านแบดพระชามอยู่ห่างจากภูเขาสีทองในทิศทางเดียว และวัดสุทัศน์เสาชิงช้า ( เสาชิงช้า ) ในอื่น ๆในสมัยรัตนโกสินทร์ประวัติศาสตร์ไทย รัชกาลที่ 3 พระช่วยสร้างหมู่บ้านผลิตชาม วันนี้ บ้านแบดเป็นเพียงหนึ่งในต้นฉบับสามยังคงผลิตทานชามในภาษาไทย " แบด " เป็นคำของพระ ชาม และ " บ้าน " หรือ " บ้าน " เป็นชื่อสำหรับบ้านหรือชุมชนมันสามารถใช้เวลาทั้งวันสำหรับหนึ่งของช่างฝีมือผลิตชามขนาดใหญ่ เพียงหนึ่ง ขอบเหล็กของชามเป็นครั้งแรกที่มีรูปร่างเป็นวงกลมบนแท่งไม้ สองแผ่นเหล็กที่เชื่อมเข้าด้วยกันในข้ามรูปร่างก่อนที่จะถูกแนบกับขอบแบบกรอบ ข้ามรูปร่างเป็นสี่ทิศ .ในพุทธประเพณี มีผู้ปกครองสำหรับแต่ละสี่พระคาร์ดินัลคะแนน เหนือ ตะวันออก ใต้ และตะวันตก ) หลังจากพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แต่ละผู้ปกครองที่นำเสนอเขาด้วยชามขอทาน พระพุทธเจ้าไม่สนับสนุนหนึ่งผู้ปกครองมากกว่าอื่น ๆและเพื่อให้เขาตั้ง 4 ถ้วยลงในหนึ่งชาม ข้ามรูปร่างรูปแบบฐานของชาม ทำที่ บ้านแบดแสดงสี่พระคาร์ดินัลคะแนน และผู้ปกครองเมื่อเฟรมที่สมบูรณ์ จากนั้นเติมช่องว่างแต่ละชิ้นของเหล็กซึ่งมีทั้งหมดรอยสภาพกรอบละลายลวดทองแดง เหล็กตอกเข้าไปในชาม แล้วรูปร่างก่อนที่จะถูกขัดและรักษาด้วยเคลือบป้องกันชามจะถูกพร้อมสำหรับการซื้อจากครอบครัวที่ทำให้พวกเขาที่มีราคาตั้งแต่ประมาณ 500 บาทโดยตรง เวลาทำงานโดยทั่วไปจาก 08.00-17.00 ทุกวัน เยี่ยมบ้านแบดชุมชนสามารถถูกรวม ด้วยการเดินทางไปยังภูเขาทองใกล้เคียง ( วัดสระเกศ ) หรือวัดสุทัศน์เสาชิงช้า ( เสาชิงช้า )