Tree nursery MSEs were being carrie

Tree nursery MSEs were being carried out by 4 per cent of the sampled WGs. These
MSEs are carried out in the farms owned by individual members, since most WGs do
not have their own land. The success of these MSEs therefore depends on the reaction
of the husband of the member in whose farm the project is located. It was also noted
that most WGs operate tree nursery MSEs on a seasonal basis thriving only during the
long and short rains seasons. Hence the MSEs depend very much on weather
conditions. Sometimes the tree seedlings overgrow due to lack of demand. Some WGs
indicated that they give the seedlings to members to plant in their own farms free of
charge in case supply outweighs demand. None of the groups involved in the tree
nursery MSEs indicated success. Instead it was a story of misery, despair and
frustration. When the failure rate was computed, it was found to be 100 per cent for the
tree nursery MSEs. This failure implies that efforts had been wasted, work had been
done in vain, hope had been frustrated and money spent for nothing (UNESCO, 1994).
Cattle dips were run by 2 per cent of the sampled WGs. The groups buy chemicals
and charge a fee per animal for the dipping service. The cattle dips are run with the
help of the local administration. The success rate for this category of MSEs was 50 per
cent implying a failure rate of 50 per cent. Two cattle dips were indicated by two
groups as their most successful MSEs. When sustainability indices were computed for
the two MSEs, they were found to be 59 and 68 (Table III). This is quite encouraging
given the gender aspects of the WGs. The major factors identified as affecting cattle
dip MSEs were: high cost of chemicals; poor maintenance; lack of managerial skills;
lack of technical skills; lack of support from the community due to cultural and
traditional beliefs; and political interference.
From the sample, 2 per cent of the WGs in the study area were running Nursery
schools and Secretarial colleges. The Nursery school project was 100 per cent
successful and had adequate enrolment. The sustainability index computed from the
data given was found to be 52 per cent for these MSEs (Table III). The Nursery schools
were doing quite well as compared to the Secretarial College. The success of these
project was attributed to: high affinity for education on the part of the parents for their
sons and daughters; less complicated managerial and technical skills that are needed to
run it; less capital needed to start such a project; and support from the local
community. However, payment of fees by parents/guardians was not very
encouraging. This calls for tact and diplomacy on the part of the WGs to deal with
the problem.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต้นไม้เรือนเพาะชำ MSEs ได้ถูกดำเนินการโดย 4 ร้อยละของตัวอย่าง WGs เหล่านี้MSEs จะดำเนินการในฟาร์มที่เป็นของสมาชิกรายบุคคล เนื่องจาก WGs ส่วนใหญ่ทำไม่มีที่ดินของตนเอง ความสำเร็จของ MSEs เหล่านี้จึงขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของสามีของสมาชิกในฟาร์มที่มีโครงการอยู่ มันยังถูกบันทึกไว้ที่ WGs ส่วนใหญ่มีเรือนเพาะชำต้นไม้ MSEs ตามฤดูกาลเฉพาะช่วงที่เจริญรุ่งเรืองฤดูฝนสั้น และระยะยาว ดังนั้น การ MSEs มากขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเงื่อนไขการ บางครั้งกล้าไม้ทรี overgrow ขาดความ บาง WGsระบุว่า จะให้กล้าไม้ที่สมาชิกปลูกในฟาร์มของตนเองฟรีค่าธรรมเนียมในกรณีจัดหาก่อนความต้องการ ไม่มีกลุ่มเกี่ยวข้องในแผนภูมิเรือนเพาะชำ MSEs บ่งชี้ความสำเร็จ แต่มันเป็นเรื่องของความทุกข์ยาก ความหวัง และแห้ว เมื่อมีคำนวณอัตราความล้มเหลว พบเป็น ร้อยละ 100 สำหรับการเรือนเพาะชำต้นไม้ MSEs ความล้มเหลวนี้หมายถึงว่า มีการสูญเสียความพยายาม ทำงานได้ทำเปล่า ๆ หวังเคยผิดหวัง และเงินใช้จ่ายสำหรับอะไร (ยูเนสโก 1994)วัวหมักถูกเรียกใช้โดย 2 ร้อยละของ WGs ตัวอย่าง กลุ่มซื้อสารเคมีและค่าธรรมเนียมต่อสัตว์บริการจิ้ม หมักวัวจะเรียกใช้ด้วยการความช่วยเหลือขององค์การบริหาร อัตราความสำเร็จสำหรับประเภทนี้ของ MSEs ได้ 50 ต่อร้อยละหน้าที่อัตราความล้มเหลวของร้อยละ 50 วัวสองหมักได้ตามสองกลุ่มเป็น MSEs ของพวกเขาประสบความสำเร็จมากที่สุด เมื่อมีคำนวณดัชนีความยั่งยืนสำหรับthe two MSEs, they were found to be 59 and 68 (Table III). This is quite encouraginggiven the gender aspects of the WGs. The major factors identified as affecting cattledip MSEs were: high cost of chemicals; poor maintenance; lack of managerial skills;lack of technical skills; lack of support from the community due to cultural andtraditional beliefs; and political interference.From the sample, 2 per cent of the WGs in the study area were running Nurseryschools and Secretarial colleges. The Nursery school project was 100 per centsuccessful and had adequate enrolment. The sustainability index computed from thedata given was found to be 52 per cent for these MSEs (Table III). The Nursery schoolswere doing quite well as compared to the Secretarial College. The success of theseproject was attributed to: high affinity for education on the part of the parents for theirsons and daughters; less complicated managerial and technical skills that are needed torun it; less capital needed to start such a project; and support from the localcommunity. However, payment of fees by parents/guardians was not veryencouraging. This calls for tact and diplomacy on the part of the WGs to deal withthe problem.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต้นไม้ mses สถานรับเลี้ยงเด็กที่ถูกดำเนินการโดย 4 ร้อยละของตัวอย่างสักคน เหล่านี้
mses
จะดำเนินการในฟาร์มที่เป็นเจ้าของโดยสมาชิกแต่ละคนตั้งแต่สักคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีที่ดินเป็นของตัวเอง ความสำเร็จของ mses
เหล่านี้จึงขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของสามีของสมาชิกในฟาร์มที่มีโครงการตั้งอยู่ มันก็ยังตั้งข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่ WGS ทำงาน mses ต้นไม้บนพื้นฐานตามฤดูกาลที่เจริญรุ่งเรืองได้เฉพาะในช่วงฤดูกาลฝนยาวและระยะสั้น ดังนั้น mses ขึ้นอยู่มากในสภาพอากาศสภาพ บางครั้งกล้าไม้มากเกินไปเนื่องจากการขาดของความต้องการ สักคนบางคนชี้ให้เห็นว่าพวกเขาให้ต้นกล้าให้กับสมาชิกไปยังโรงงานในฟาร์มของตัวเองฟรีค่าใช้จ่ายในการจัดหากรณีที่เมื่อเทียบกับความต้องการ ไม่มีกลุ่มที่เกี่ยวข้องในต้นไม้mses ระบุสถานรับเลี้ยงเด็กที่ประสบความสำเร็จ แต่มันก็เป็นเรื่องราวของความทุกข์ยากความสิ้นหวังและความยุ่งยาก เมื่ออัตราความล้มเหลวคำนวณก็พบว่าร้อยละ 100 สำหรับmses ต้นไม้ ความล้มเหลวซึ่งหมายความว่ามีความพยายามที่ได้รับการสูญเสียการทำงานที่ได้รับการทำในไร้สาระหวังได้รับความผิดหวังและการใช้จ่ายเงินเพื่ออะไร (ยูเนสโก 1994). dips วัววิ่งขึ้นร้อยละ 2 ของ WGS ตัวอย่าง กลุ่มซื้อสารเคมีและการคิดค่าใช้จ่ายต่อสัตว์สำหรับการให้บริการจุ่ม dips วัวจะดำเนินการด้วยความช่วยเหลือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อัตราความสำเร็จสำหรับประเภทของ mses นี้คือละ 50 ร้อยหมายความอัตราความล้มเหลวร้อยละ 50 สอง dips วัวระบุสองกลุ่มmses ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของพวกเขา เมื่อดัชนีการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้รับการคำนวณสำหรับสอง mses พวกเขาพบว่ามี 59 และ 68 (ตารางที่ III) นี้ค่อนข้างให้กำลังใจที่ได้รับด้านเพศของ WGS ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการระบุว่าเป็นวัวmses จุ่มคือต้นทุนที่สูงของสารเคมี การบำรุงรักษาที่ไม่ดี; ขาดทักษะการบริหารจัดการ; ขาดทักษะด้านเทคนิค ขาดการสนับสนุนจากชุมชนอันเนื่องมาจากวัฒนธรรมและความเชื่อดั้งเดิม; และการแทรกแซงทางการเมือง. จากกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 2 ของการสักคนในพื้นที่ศึกษากำลังวิ่งเนอสเซอรี่โรงเรียนและวิทยาลัยเลขานุการ โครงการโรงเรียนเนอสเซอรี่เป็นร้อยละ 100 ประสบความสำเร็จและมีการลงทะเบียนที่เพียงพอ ดัชนีการพัฒนาอย่างยั่งยืนคำนวณจากข้อมูลที่ได้รับพบว่าร้อยละ 52 สำหรับ mses เหล่านี้ (ตารางที่ III) เนอสเซอรี่โรงเรียนกำลังทำค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับวิทยาลัยเลขานุการ ความสำเร็จของเหล่านี้โครงการนี้ได้รับการบันทึกให้กับ: ความสัมพันธ์กันสูงสำหรับการศึกษาในส่วนของพ่อแม่ของพวกเขาสำหรับบุตรชายและบุตรสาว น้อยทักษะการบริหารจัดการและด้านเทคนิคที่ซับซ้อนที่จำเป็นในการทำงานนั้น ทุนน้อยที่จำเป็นในการเริ่มต้นโครงการดังกล่าว; และการสนับสนุนจากท้องถิ่นชุมชน อย่างไรก็ตามการชำระเงินค่าธรรมเนียมจากพ่อแม่ / ผู้ปกครองก็ไม่มากให้กำลังใจ นี้เรียกร้องให้การเจรจาต่อรองและการเจรจาต่อรองในส่วนของสักคนที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

mses สถานเลี้ยงเด็กต้นไม้ถูกดำเนินการโดย 4 ร้อยละของตัวอย่าง wgs . mses เหล่านี้
จะดําเนินการในฟาร์มของสมาชิกแต่ละคน ตั้งแต่ wgs ส่วนใหญ่
ไม่มีที่ดินของตัวเอง ความสำเร็จของ mses เหล่านี้จึงขึ้นอยู่กับปฏิกิริยา
ของสามีของสมาชิกในฟาร์มที่โครงการตั้งอยู่ มันก็ยังตั้งข้อสังเกต
ที่ wgs ส่วนใหญ่ใช้ต้นไม้เนอสเซอรี่ mses บนพื้นฐานตามฤดูกาลรุ่งโรจน์ระหว่าง
ยาวและสั้นฤดูฝน . ดังนั้น mses ขึ้นอยู่มากในสภาพอากาศที่

บางครั้งต้นไม้ต้นกล้า overgrow เนื่องจากการขาดของความต้องการ บาง wgs
ระบุว่าพวกเขาให้ต้นกล้าให้สมาชิกปลูกในฟาร์มของตนเอง ในกรณีที่อุปทานฟรี
ค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับความต้องการไม่มีกลุ่มที่เกี่ยวข้องในสถานเลี้ยงเด็กต้นไม้
mses พบความสำเร็จ แต่มันคือเรื่องราวของความทุกข์ยาก ความสิ้นหวังและ
แห้ว เมื่อคำนวณอัตราความล้มเหลวคือ พบได้ร้อยละ 100 สำหรับ
ต้นไม้เนอสเซอรี่ mses . ความล้มเหลวนี้แสดงถึงความพยายามที่ได้สูญเสียงานที่ได้รับ
เสียเปล่า หวังได้รับการผิดหวัง และเงินที่ใช้สำหรับอะไร ( UNESCO , 1994 ) .
โค dips เป็นวิ่ง 2 ร้อยละของตัวอย่าง wgs . กลุ่มซื้อสารเคมี
และค่าธรรมเนียมต่อสัตว์สำหรับการบริการ วัว dips จะวิ่งด้วย
ช่วยในการบริหารท้องถิ่น อัตราความสำเร็จสำหรับประเภทของ mses นี้คือ 50 ต่อ
หมายถึงอัตราความล้มเหลวของร้อยละ 50 เปอร์เซ็นต์ . สองโค dips สรุปโดยสองกลุ่มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
mses .เมื่อดัชนีความยั่งยืนถูกคำนวณสำหรับ
2 mses พวกเขาพบว่ามี 59 และ 68 ( ตารางที่ 3 ) นี่คือนิมิตทีเดียว
ระบุเพศในลักษณะของ wgs . ปัจจัยที่มีผลต่อการระบุเป็นโค
จิ้ม mses : ค่าใช้จ่ายสูงของสารเคมี การบำรุงรักษา ยากจน ขาดทักษะการจัดการ ;
ขาดทักษะทางเทคนิค ขาดการสนับสนุนจากชุมชน เนื่องจากวัฒนธรรมและ
ความเชื่อดั้งเดิม และการแทรกแซงทางการเมือง
จาก กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 2 ของ wgs ในพื้นที่ศึกษา มีโรงเรียน เนอสเซอรี่ วิ่ง
วิทยาลัยและเลขานุการ สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน โครงการร้อยละ 100
ที่ประสบความสำเร็จและมีการลงทะเบียนที่เพียงพอ ดัชนีความยั่งยืนที่คำนวณได้จากข้อมูลที่ได้รับพบว่ามี
52 ร้อยละ mses เหล่านี้ ( ตารางที่ 3 ) โรงเรียนอนุบาล
กำลังทำค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับวิทยาลัยเลขานุการ ความสำเร็จของโครงการเหล่านี้
บันทึกสูงจากการศึกษาในส่วนของผู้ปกครองสำหรับบุตรชายและบุตรสาวที่ซับซ้อนน้อยกว่า
; การบริหารจัดการและทักษะทางเทคนิคที่จำเป็น

วิ่งมันทุนน้อยต้องเริ่มโครงการดังกล่าว และการสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่น

อย่างไรก็ตามชำระค่าธรรมเนียมโดยผู้ปกครองไม่ค่อย
นิมิต สายนี้ชั้นเชิงและการทูตในส่วนของ wgs
เพื่อจัดการกับปัญหา