2. Structural reliabilityLiterature

2. Structural reliability
Literature on ship structural reliability analysis is extensive and dates back to the early 1970s Mansour, 1972a and Mansour, 1972b). There have been a number of investigations that were built on this earlier work. Particular reference may be made to Mansour and Faulkner, 1973, Faulkner and Sadden, 1979, Stiansen et al., 1980 and White and Ayyub, 1985. The Ship Structures Committee (SSC) has sponsored several projects related to this area. Especially, the SSC projects SR-1330 on ‘Probability-Based ship Design Procedures: A Demonstration’ and SR-1337 on ‘Loads and Load Combinations’ have been completed and published in SSC-368 and SSC-373, respectively. A complete literature survey and summary of reliability methods for ship structures are included in SSC-351 ‘An introduction to Structural Reliability Theory Directed at the Marine Industry’.

Specific research in the area of code development has also been carried out by the American Bureau of Shipping (ABS) researchers. An in-depth evaluation of uncertainties in hull strength prediction was conducted by Guedes-Soares and Moan (1985), and the application of first order second moment method to ship hull ultimate strength, including plastification, buckling, and fatigue, was undertaken by ABS. Wirsching and Chen (1988) applied reliability methods to marine structures. Some of the work is equally valid for ships, although with different values for the uncertainty parameters.

Structural reliability theory is concerned with the rational treatment of uncertainties associated with the design of structures and with assessing the safety and serviceability of these structures. From the above review, it can be seen that this subject has grown rapidly in the last decade and some interesting contributions can be seen in the references Das and Dow, 2000, Das and Thavalingham, 2002, Fang and Das, 2004, Guedes-Soares, 1993, Hess and Lua, 2003, IACS, 1995, Maerli and Das, 2000, Mansour and Faulkner, 1973, Moan and Jiao, 1988, Mansour and Thayambaili, 1994, Ochi, 1990, Paik et al., 1998, Sun and Bai, 2003 and Vose, 2000. It has evolved from a research topic to procedures and methodologies with a wide range of practical applications and has been used in code development.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. โครงสร้างความน่าเชื่อถือเอกสารประกอบการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือโครงสร้างเรือเป็นที่กว้างขวาง และย้อนไปเมื่อต้นทศวรรษ 1970 Mansour, 1972a และ Mansour, 1972b) มีจำนวนของการสืบสวนที่ถูกสร้างขึ้นในการทำงานก่อนหน้านี้ อ้างอิงเฉพาะอาจจะทำ Mansour Faulkner, 1973 ฟอล์คเนอร์ และ Sadden, 1979, Stiansen et al. 1980 และขาว และ Ayyub, 1985 จัดโครงสร้างคณะกรรมการ (SSC) ได้สนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SSC ในโครงการ SR-1330 บน ' ความน่าเป็นการจัดส่งขั้นตอนการออกแบบ: สาธิต A' และ SR-1337 'โหลดและโหลดชุด' ได้เสร็จสมบูรณ์ และเผยแพร่ใน SSC 368 และ SSC-373 ตามลำดับ เอกสารประกอบการทำสำรวจและสรุปความน่าเชื่อถือวิธีสำหรับโครงสร้างเรือรวมอยู่ใน SSC 351 'แนะนำโครงสร้างความน่าเชื่อถือทฤษฎีโดยตรงในอุตสาหกรรมทางทะเล'การวิจัยเฉพาะในพื้นที่ของรหัสพัฒนายังดำเนินการ โดยนักวิจัยอเมริกันสำนักการขนส่ง (ABS) ดำเนินการประเมินผลเชิงลึกไม่แน่นอนตัวถังแข็งแรงทำนาย โดย Guedes Soares และคร่ำ (1985), และการประยุกต์ใช้แรกสองช่วงเวลาวิธีการสั่งซื้อจัดส่งเรือแรง plastification, buckling และความเมื่อย ล้า ถูกดำเนินการ โดยทำ Wirsching และเฉิน (1988) ใช้ความน่าเชื่อถือวิธีการโครงสร้างทางทะเล บางส่วนของการทำงานถูกต้องเท่าเทียมกันสำหรับเรือ แม้จะ มีค่าพารามิเตอร์ความไม่แน่นอนทฤษฎีโครงสร้างความน่าเชื่อถือเกี่ยวข้องกับการรักษาที่มีเหตุผลของความไม่แน่นอนเกี่ยวข้อง กับการออกแบบโครงสร้าง และการประเมินความปลอดภัยและการบริการโครงสร้างเหล่านี้ จากรีวิวข้างต้น จะเห็นได้ว่า เรื่องนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทศวรรษ และผลงานน่าสนใจบางอย่างสามารถมองเห็นการอ้างอิง Das และ Dow, 2000, Das และ Thavalingham, 2002 ฝางและ Das, 2004, Guedes Soares, 1993, Hess และลัวะ 2003, IACS, 1995, Maerli และ Das, 2000, Mansour และ Faulkner, 1973 คร่ำและเจียว 1988, Mansour และ Thayambaili , 1994 โอ 1990 พาอิก et al. 1998 ซัน และไบ 2003 และ Vose, 2000 มันมีวิวัฒนาการมาจากหัวข้อวิจัยกระบวนการและวิธีการที่หลากหลายประยุกต์ใช้งานจริง และมีการใช้ในรหัสการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. ความน่าเชื่อถือโครงสร้าง
วรรณคดีในการวิเคราะห์โครงสร้างเรือน่าเชื่อถือเป็นที่กว้างขวางและวันที่กลับไปต้นปี 1970 Mansour, 1972a และ Mansour, 1972b) มีอยู่เป็นจำนวนมากของการตรวจสอบที่ถูกสร้างขึ้นในการทำงานก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการอ้างอิงอาจจะทำให้ Mansour และ Faulkner 1973 Faulkner และเศร้าใจ 1979 Stiansen et al., 1980 และสีขาวและ Ayyub 1985 คณะกรรมการเรือโครงสร้าง (SSC) ได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ SSC SR-1330 ที่ 'น่าจะเป็นตามขั้นตอนการออกแบบเรือ: สาธิตและ SR-1337 ที่' โหลดและโหลดผสม 'ได้รับการเสร็จและตีพิมพ์ใน SSC-368 และ SSC-373 ตามลำดับ การสำรวจวรรณกรรมที่สมบูรณ์และบทสรุปของวิธีการความน่าเชื่อถือสำหรับโครงสร้างเรือจะรวมอยู่ใน SSC-351 'รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างความน่าเชื่อถือทฤษฎีกำกับที่อุตสาหกรรมทางทะเล'.

วิจัยเฉพาะในพื้นที่ของการพัฒนารหัสยังได้รับการดำเนินการโดยสำนักอเมริกัน การจัดส่งสินค้า (ABS) นักวิจัย การประเมินผลในเชิงลึกของความไม่แน่นอนในการทำนายความแข็งแรงของเรือได้ดำเนินการโดย Guedes-Soares และคราง (1985) และการประยุกต์ใช้สั่งซื้อครั้งแรกวิธีการขณะที่สองที่จะจัดส่งเรือความแข็งแรงที่ดีที่สุดรวมทั้ง plastification โก่งและความเมื่อยล้าได้รับการดำเนินการโดยเอบีเอส . Wirsching และเฉิน (1988) ใช้วิธีการความน่าเชื่อถือให้กับโครงสร้างทางทะเล บางส่วนของการทำงานที่ถูกต้องเท่าเทียมกันสำหรับเรือแม้จะมีค่าที่แตกต่างกันสำหรับพารามิเตอร์ความไม่แน่นอน.

ทฤษฎีความน่าเชื่อถือโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเหตุผลของความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงสร้างและมีการประเมินความปลอดภัยและการบริการของโครงสร้างเหล่านี้ จากการตรวจสอบดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าเรื่องนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมาและบางส่วนผลงานที่น่าสนใจสามารถเห็นได้ในการอ้างอิงดาสและ Dow, 2000, ดาสและ Thavalingham 2002 ฝางและดาส 2004 Guedes-Soares 1993 เดิมและ Lua 2003 IACS 1995 Maerli และ Das, 2000, Mansour และ Faulkner 1973 ครางและเจียว 1988 Mansour และ Thayambaili 1994 Ochi 1990 Paik et al., 1998 ดวงอาทิตย์และ ตากใบ 2003 และ Vose, 2000 มันมีวิวัฒนาการมาจากหัวข้องานวิจัยขั้นตอนและวิธีการที่มีความหลากหลายของการใช้งานในทางปฏิบัติและถูกนำมาใช้ในการพัฒนารหัส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . ความน่าเชื่อถือเชิงโครงสร้างวรรณกรรมบนเรือโครงสร้างการวิเคราะห์ความเชื่อถือได้เป็นที่กว้างขวางและวันที่กลับไปในช่วงต้นปี 1970 Mansour , และ 1972a Mansour , 1972b ) มีหมายเลขของการสอบสวนที่ถูกสร้างขึ้นบนนี้ก่อนทำงาน อ้างอิงโดยเฉพาะอาจจะทำและ Mansour ฟอล์คเนอร์ ปี 1973 และ 1979 โฟล์คเนอร์เสียใจ stiansen et al . , 1980 และสีขาว และ ayyub , 2528 . เรือโครงสร้างคณะกรรมการ ( SSC ) ได้สนับสนุนหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้ โดยเฉพาะโครงการ SSC sr-1330 " ความน่าจะเป็นตามขั้นตอนการออกแบบเรือ : โหลดการสาธิต " และ " " และ sr-1337 โหลดชุดแล้วเสร็จและตีพิมพ์ใน ssc-368 และ ssc-373 ตามลำดับ การสำรวจวรรณกรรมที่สมบูรณ์และสรุปวิธีการความน่าเชื่อถือของโครงสร้างเรือจะรวมอยู่ใน ssc-351 " คำนำโครงสร้างทฤษฎีที่ความน่าเชื่อถือที่อุตสาหกรรม " ทางทะเลวิจัยเฉพาะในพื้นที่ของการพัฒนารหัส นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการโดยชาวอเมริกันสำนักการเดินเรือ ( ABS ) นักวิจัย การประเมินในเชิงลึกของความไม่แน่นอนในการทำนายกำลังดำเนินการโดยเรือโร กิวเดส Soares และคราง ( 1985 ) , และการประยุกต์ใช้วิธีการสั่งซื้อ 2 ช่วงเวลาแรกเรือแรง สุดยอดเรือรวมทั้ง plastification โก่งและความเมื่อยล้า , , จะเพิ่ม ABS wirsching และ Chen ( 1988 ) ใช้ความน่าเชื่อถือวิธีการโครงสร้างทางทะเล บางส่วนของงานที่สามารถใช้ได้อย่างเท่าเทียมกันสำหรับเรือ แม้ว่ามีค่าที่แตกต่างกันสำหรับความไม่แน่นอนของพารามิเตอร์ทฤษฎีความน่าเชื่อถือเชิงโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการรักษาที่มีเหตุผลของความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงสร้างและการประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของโครงสร้างเหล่านี้ จากการตรวจสอบข้างต้น จะเห็นได้ว่า เรื่องนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และบางผลงานที่น่าสนใจที่สามารถเห็นได้ในการอ้างอิงดาสและ Dow , 2000 , และคุณ thavalingham 2545 เขี้ยวและ Das , 2004 , โร กิวเดส Soares , 1993 Hess และ หลัว , 2003 , iacs , 1995 , maerli และ ดาส , 2000 , มานซูร์ ฟอล์คเนอร์และ 2516 ครางและเจียว , 1988 , Mansour และ thayambaili 1994 โอคิ , 2533 , เพค et al . , 1998 , ดวงอาทิตย์และใบ , 2003 และโวส์ , 2000 มันมีวิวัฒนาการมาจากหัวข้อวิจัยกระบวนการและวิธีการที่มีช่วงกว้างของการใช้งานจริงและมีการใช้ในการพัฒนาโค้ด