IntroductionTechnological advances

Introduction
Technological advances have made an impact in almost every aspect of our lives (office work,accounting, designing,
medical facilities, database management, experimental work and daily tasks) after the availability of computers. A personal computer is a common item now-a-days in offices, colleges, universities and home. Its use has increased efficiency in easy access to information,writing articles, and communicating to others.Millions of people including children, college students are using computers for prolonged hours. A video display terminal (VDT) is also known as computer
screen. The symptoms reported were eyestrain,tired eyes, headache, blurred vision, irritation,burning sensation, redness, double vision, neck pain,and backache which might be caused by combination of individual visual problems, poor
workplace conditions and improper work habits (Cole et al,1996 ; Collins et al, 1998). However, eye related symptoms were reported as the most common health problem among VDT users (Shaeedy, 1992; Costanza, 1994; Thomson,1998).
The condition of a person experiencing one or more of these eye symptoms as a result of operating a computer is generally referred as computer vision syndrome (CVS); and the symptoms have been divided broadly into four categories (: (i) asthenopic — eye strain, tired eyes, sore eyes, (ii) ocular surface related — watering, irritation, dry eye, (iii) visual
— blurred vision, slowness of focus change, double vision, and (iv) extraocular — neck pain,back ache, shoulder pain, (Blehm et al, 2005). Now-a-days, large number of university students are using computers for studies and for research
work. In addition, computers are used by them for seeing movies, playing computer games and online chatting. Pubmed search revealed only one report among the college students in India (Bhanderi et al2008). There is no report available in the literature on computer vision syndrome in university students in Malaysia. Therefore, we conducted a questionnaire survey in students studying in different universities in Malaysia to determine the (i) prevalence of CVS symptoms, knowledge and practices of computer use, and (ii) to evaluate the association of various factors in computer use with
the occurrence of symptoms.This was a research project of students as part of the curriculum for phase II medical course in International Medical University, Kuala Lumpur.Material and methods A research questionnaire was prepared after
reviewing the articles available on computer vision syndrome. The questionnaire included (i)demography details, (ii) spectacles use, (iii) computer use, (iv) symptoms of computer vision syndrome, (v) any measures practiced to prevent
eye problems, (vi) use of radiation filter, and (vii) lighting in the room. Data collected in questions (iii) and (iv) provide information on knowledge and in questions (v), (vi) and (vii) provide information on practices of computer use. A pilot study was conducted among 20 undergraduate students of different faculties (medical, pharmacy and nursing) from International medical university and the questionnaire was edited for easy understanding by the respondents.
Following this, a cross sectional survey was carried out in students from colleges of different universities
in Malaysia from April 2007 to September 2007. After making sure that the respondents were using the computer daily for one hour or more over a period of some months/years, the students were explained about the objectives of the research project, confidentiality of the data collected; and verbal consent was taken for their willingness to participate in the study. All the students agreed for participation in the study and hence, all of them were taken as sample for this study.
All the students present in the class at the time of giving the questionnaire were included in the study as per the inclusion criteria. After collecting the filled up pro formas from the students, they were checked for the responses in all the sections. The pro formas from the students with insufficient data were excluded from the study as per the exclusion criteria.
The data was collected in a proforma (Appendix-1) and analyzed using SPSS version 16.0 program

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ทำให้ผลกระทบในเกือบทุกด้านของชีวิต (งานสำนักงาน บัญชี ออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ การจัดการฐานข้อมูล งานทดลอง และงานประจำวัน) หลังจากความพร้อมของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นสินค้าทั่วไปวันนี้เป็นวันในสำนักงาน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย และบ้าน การใช้ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูล บทความ การเขียน และสื่อสาร others.Millions ของคนรวมทั้งเด็กนักเรียนใช้คอมพิวเตอร์นานชั่วโมง มีวิดีโอแสดงเทอร์มินัล (VDT) เรียกว่าคอมพิวเตอร์หน้าจอ อาการรายงานได้เกิดอาการปวดตา ตาเหนื่อย ปวดศีรษะ วิสัย ทัศน์มัว ระคายเคือง เขียนความรู้สึก แดง วิสัย ทัศน์คู่ ปวดคอ และป้องกันการเกิดซึ่งอาจเกิดจากการรวมกันของแต่ละภาพปัญหา คนจนเงื่อนไขการทำงานและลักษณะการทำงานที่ไม่เหมาะสม (โคล et al, 1996 คอลลินส์ et al, 1998) อย่างไรก็ตาม ตาที่เกี่ยวข้องได้รายงานอาการปัญหาสุขภาพมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ VDT (Shaeedy, 1992 Costanza, 1994 ทอม 1998)โดยทั่วไปมีอ้างเงื่อนไขของผู้ที่ประสบปัญหาของอาการตาเหล่านี้เป็นผลมาจากการปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์หรือเป็นกลุ่มอาการของวิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์ (CVS); และอาการมีการแบ่งอย่างกว้างขวางสี่ประเภท (: (i) asthenopic — ปวดตา ตาเหนื่อย แสบตา (ii) แนวพื้นผิวที่เกี่ยวข้องเช่นน้ำ ระคายเคือง ตาแห้ง (iii) visual-วิสัยทัศน์มัว slowness เปลี่ยนโฟกัส วิสัยทัศน์คู่ และ (iv) extraocular — กะเหรี่ยงคอปวด ปวดหลัง ไหล่ปวด (Blehm et al, 2005) วันนี้เป็นวัน ขนาดใหญ่จำนวนนักเรียนมหาวิทยาลัยใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับการศึกษา และวิจัยทำงาน นอกจากนี้ ใช้คอมพิวเตอร์ โดยพวกเขาสำหรับชมภาพยนตร์ เล่นเกมและการสนทนาออนไลน์ ค้น Pubmed เปิดเผยรายงานเดียวระหว่างนักเรียนในอินเดีย (Bhanderi et al2008) ได้รายงานไม่มีอยู่ในวรรณคดีบนคอมพิวเตอร์กลุ่มวิสัยทัศน์นักเรียนมหาวิทยาลัยในมาเลเซีย ดังนั้น เราทำการสำรวจแบบสอบถามในการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซีย เพื่อกำหนด (i) ความชุกของอาการ CVS ความรู้ และปฏิบัติการใช้คอมพิวเตอร์ และ (ii) เพื่อประเมินความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ในการใช้คอมพิวเตอร์กับการเกิดอาการ นี้เป็นโครงการวิจัยของนักศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในขั้นตอน II หลักสูตรทางการแพทย์ใน มหาวิทยาลัยแพทย์นานาชาติ คุ Lumpur.Material และวิธีเป็นเตรียมแบบสอบถามวิจัยหลังตรวจทานบทความพร้อมใช้งานบนคอมพิวเตอร์วิสัยทัศน์กลุ่มอาการ แบบสอบถามรวม (i) เฟนฮอว์รายละเอียด ใช้ ๒ แว่นตา ใช้คอมพิวเตอร์ (iii) (iv) อาการของกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์วิชั่น, (v) มีมาตรการปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหาตา, (vi) ที่ใช้กรองรังสี และแสงสว่าง (vii) ในห้องพัก รวบรวมข้อมูลในคำถาม (iii) และ (iv) ให้ข้อมูลความรู้ และคำถาม (v), (vi) และ (vii) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์ การศึกษานำร่องที่ดำเนินการในหมู่นักศึกษาระดับปริญญาตรี 20 ต่างคณะ (แพทย์ ยา และพยาบาล) จากมหาวิทยาลัยแพทย์นานาชาติ และมีแก้ไขเพื่อความเข้าใจง่ายแบบสอบถาม โดยผู้ตอบดังกล่าว การสำรวจตัดระหว่างถูกดำเนินการนักเรียนจากวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยต่าง ๆในมาเลเซีย 2007 เมษายนถึง 2550 กันยายน หลังจากแน่ใจ ว่า ผู้ตอบที่ใช้คอมพิวเตอร์ทุกวันในเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่าระยะเวลาของเดือน/ปี นักเรียนได้อธิบายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย ความลับของข้อมูลที่เก็บ และได้รับความยินยอมด้วยวาจาที่ใช้สำหรับยินดีที่จะเข้าร่วมในการศึกษา นักเรียนทุกคนยอมรับการมีส่วนร่วมในการศึกษา และด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งหมดที่ถ่ายเป็นตัวอย่างสำหรับการศึกษานี้นักเรียนทั้งหมดที่นำเสนอในชั้นเรียนในขณะนำแบบสอบถามถูกรวมในการศึกษาตามเงื่อนไขการรวม หลังจากรวบรวมการเติมค่า pro formas จากนักเรียน พวกเขาถูกตรวจสอบสำหรับการตอบสนองในทุกส่วน Formas pro จากนักเรียนที่มีข้อมูลไม่เพียงพอถูกแยกออกจากการศึกษาตามเกณฑ์แยกข้อมูลถูกรวบรวมใน proforma (ภาคผนวก 1) และวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมโปรแกรมรุ่น 16.0

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ทำให้ผลกระทบในเกือบทุกด้านของชีวิตของเราทุกคน (การทำงานในสำนักงาน, การบัญชี, การออกแบบ, การอำนวยความสะดวกทางการแพทย์การจัดการฐานข้อมูลการทดลองและงานทุกวัน) หลังจากที่ความพร้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นรายการที่พบในขณะนี้มีวันในสำนักงานวิทยาลัยมหาวิทยาลัยและที่บ้าน การใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูล, การเขียนบทความและการสื่อสารเพื่อ others.Millions คนรวมทั้งเด็กนักเรียนวิทยาลัยมีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ขั้วการแสดงผลวิดีโอ (VDT) นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันเป็นคอมพิวเตอร์หน้าจอ อาการรายงานมีปวดตาตาเหนื่อยปวดศีรษะตาพร่ามัวระคายเคืองรู้สึกแสบร้อน, สีแดง, มองเห็นภาพซ้อนปวดคอและปวดหลังซึ่งอาจจะเกิดจากการรวมกันของปัญหาภาพบุคคลที่น่าสงสารเงื่อนไขสถานที่ทำงานและนิสัยการทำงานที่ไม่เหมาะสม(โคล et อัล 1996; et al, คอลลิน, 1998) แต่อาการที่เกี่ยวข้องกับตาได้รับรายงานว่าปัญหาสุขภาพที่พบมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ VDT (Shaeedy 1992; Costanza 1994; ทอมสัน, 1998). สภาพของคนที่ประสบหนึ่งหรือมากกว่าของอาการตาเหล่านี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปจะเรียกว่าโรคคอมพิวเตอร์วิสัยทัศน์ (CVS); และอาการที่ได้รับการแบ่งออกเป็นสี่ประเภท ((i) asthenopic - ปวดตาตาเหนื่อยตาเจ็บ, (ii) พื้นผิวตาที่เกี่ยวข้อง - รดน้ำระคายเคืองตาแห้ง, (iii) ภาพ- สายตาพร่ามัวช้าของ มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์คู่และ (iv) extraocular. - ปวดคอปวดหลังปวดไหล่ (Blehm et al, 2005) ตอนนี้มีวันจำนวนมากของนักศึกษามหาวิทยาลัยมีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาและการวิจัยสำหรับการทำงานนอกจากนี้คอมพิวเตอร์จะถูกใช้โดยพวกเขาสำหรับการดูหนังเล่นเกมคอมพิวเตอร์และสนทนาออนไลน์. ค้นหา Pubmed เปิดเผยรายงานหนึ่งในหมู่นักศึกษาในอินเดีย (Bhanderi et al2008). ไม่มีรายงานที่มีอยู่ในหนังสือที่เกี่ยวกับโรคคอมพิวเตอร์วิสัยทัศน์อยู่ใน นักศึกษามหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซีย. ดังนั้นเราจึงดำเนินการสำรวจแบบสอบถามในนักเรียนที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยที่แตกต่างกันในประเทศมาเลเซียเพื่อตรวจสอบ (i) ความชุกของอาการ CVS ความรู้และการปฏิบัติในการใช้คอมพิวเตอร์และ (ii) การประเมินความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆใน การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีการเกิดขึ้นของsymptoms.This เป็นโครงการวิจัยของนักเรียนเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรสำหรับระยะที่สองหลักสูตรแพทย์นานาชาติมหาวิทยาลัยการแพทย์, Kuala Lumpur.Material และวิธีการตอบแบบสอบถามการวิจัยถูกจัดทำขึ้นหลังจากการตรวจสอบบทความที่มีอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ซินโดรมวิสัยทัศน์. แบบสอบถามรวม (i) รายละเอียดประชากรศาสตร์ (ii) การใช้แว่นตา (iii) การใช้คอมพิวเตอร์ (iv) อาการของโรคคอมพิวเตอร์วิสัยทัศน์ (V) มาตรการใด ๆได้รับการฝึกฝนเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสายตา (vi) การใช้ตัวกรองรังสีและ (vii) แสงในห้อง ข้อมูลที่เก็บรวบรวมในคำถาม (iii) และ (iv) การให้ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้และคำถาม (V), (vi) และ (vii) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติในการใช้คอมพิวเตอร์ การศึกษานำร่องได้ดำเนินการในหมู่ 20 นักศึกษาระดับปริญญาตรีคณะแตกต่างกัน (ทางการแพทย์ร้านขายยาและการพยาบาล) จากมหาวิทยาลัยการแพทย์ระหว่างประเทศและแบบสอบถามได้รับการแก้ไขเพื่อความเข้าใจง่ายโดยผู้ตอบแบบสอบถาม. ต่อไปนี้การสำรวจแบบตัดขวางได้ดำเนินการในนักเรียนจากวิทยาลัย มหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศมาเลเซียตั้งแต่เดือนเมษายน2007 ถึงกันยายน 2007 หลังจากการทำให้แน่ใจว่าผู้ตอบแบบสอบถามใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่าในช่วงระยะเวลาของเดือน / ปีที่ผ่านมานักเรียนได้อธิบายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยการรักษาความลับของ ข้อมูลที่รวบรวม; และยินยอมด้วยวาจาถูกนำสำหรับความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการศึกษา นักเรียนทุกคนที่ได้ตกลงกันสำหรับการมีส่วนร่วมในการศึกษาและด้วยเหตุนี้พวกเขาทั้งหมดถูกนำมาเป็นตัวอย่างสำหรับการศึกษาครั้งนี้. นักเรียนทุกคนที่มีอยู่ในชั้นเรียนในช่วงเวลาของการให้แบบสอบถามถูกรวมอยู่ในการศึกษาตามเกณฑ์การคัดเลือกที่ หลังจากที่เก็บเต็มไป Formas โปรจากนักเรียนที่พวกเขาได้รับการตรวจสอบสำหรับการตอบสนองในทุกส่วนที่ Formas โปรจากนักเรียนที่มีข้อมูลไม่เพียงพอได้รับการยกเว้นจากการศึกษาตามเกณฑ์การยกเว้นที่. เก็บข้อมูลในเสมือน (ที่ภาคผนวก-1) และการวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรม SPSS 16.0 รุ่นโปรแกรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ทำให้ผลกระทบในเกือบทุกด้านของชีวิตของเรา ( งานสำนักงานบัญชี , ออกแบบ ,
แพทย์เครื่อง การจัดการฐานข้อมูล ทดลองทำงานทุกวัน งานหลังความพร้อมของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นสินค้าทั่วไปปลอกในสำนักงาน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย และบ้าน การใช้งานได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลการเขียนบทความและการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น คนหลายล้านคน รวมทั้งเด็ก นักศึกษาใช้คอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมง การแสดงผลวิดีโอ terminal ( vdt ) หรือที่เรียกว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์

อาการที่รายงานได้ปวดตา เหนื่อยตา ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว ระคายเคืองรู้สึกแสบร้อน อักเสบ คู่วิสัยทัศน์ ปวดคอและ ปวดหลัง ซึ่งอาจจะเกิดจากการรวมกันของปัญหาภาพบุคคล , ภาพการทำงานและยากจน
นิสัยการทํางานที่ไม่เหมาะสม ( โคล et al , 1996 ; คอลลินส์ et al , 1998 ) อย่างไรก็ตาม อาการตาที่เกี่ยวข้องมีรายงานเป็นปัญหาสุขภาพที่พบมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ vdt ( shaeedy , 1992 ; ค แทนซา , 1994 ;
ทอมสัน , 1998 )สภาพของบุคคลประสบหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอาการตาเหล่านี้เป็นผลมาจากปฏิบัติการคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปเรียกว่าเป็นคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม ( CVS ) และอาการแบ่งได้กว้างเป็นสี่ประเภท ( : ( ฉัน ) asthenopic - สายตาเมื่อย เหนื่อยตา เคืองตา ( 2 ) ผิวที่เกี่ยวข้อง - ตา รดน้ำ ระคายเคืองตาแห้ง ( 3 ) ภาพ
- ตาพร่ามัว ,ความช้าของโฟกัสเปลี่ยน ภาพซ้อน และ ( 4 ) นอกลูกตา - ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ( blehm et al , 2005 ) ปลอก จํานวนนักศึกษาใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการศึกษาและการทำงานวิจัย

นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์จะถูกใช้โดยพวกเขาสำหรับดูหนัง เล่นเกมส์ คอมพิวเตอร์ และการสนทนาออนไลน์บริการค้นหาพบเพียงรายงานหนึ่งในหมู่นักศึกษาในอินเดีย ( bhanderi et al2008 ) ไม่มีรายงานที่มีอยู่ในวรรณกรรมทางคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมในนักศึกษามหาวิทยาลัยในมาเลเซีย ดังนั้นเราจึงจัดทำแบบสอบถามสำรวจนักศึกษาที่เรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศมาเลเซียเพื่อศึกษา ( 1 ) ความชุกของอาการ CVS ,ความรู้และการปฏิบัติในการใช้คอมพิวเตอร์ และ ( 2 ) เพื่อประเมินปัจจัยต่าง ๆในการใช้คอมพิวเตอร์ของสมาคมกับ
เกิดอาการ นี้เป็นโครงการวิจัยของนักศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรระยะที่ 2 หลักสูตรในมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ , การแพทย์นานาชาติกัวลาลัมเปอร์ วัสดุและวิธีการแบบสอบถามการวิจัยที่เตรียมไว้หลังจาก
ทบทวนบทความที่มีอยู่บนคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม แบบสอบถามรวม ( ฉัน ) รายละเอียดประชากร ( 2 ) แว่นใช้ ( 3 ) การใช้คอมพิวเตอร์ ( 4 ) อาการของคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม ( 5 ) มาตรการใด ๆเพื่อป้องกันปัญหาตาฝึก
( 6 ) การใช้แผ่นกรองรังสี และ ( vii ) แสงในห้องเก็บรวบรวมข้อมูลในข้อ ( 3 ) และ ( 4 ) ให้ข้อมูลและความรู้ในข้อ ( 5 ) ( 6 ) และ ( 7 ) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติของการใช้คอมพิวเตอร์ การศึกษานำร่องกลุ่ม 20 นักศึกษาต่างคณะ ( แพทย์ เภสัช และพยาบาล ) จากมหาวิทยาลัยแพทย์นานาชาติและแบบสอบถามแก้ไขเพื่อความเข้าใจง่าย โดยผู้ตอบแบบสอบถาม
ตามนี้ ตัดขวางดําเนินการในนักเรียนจากวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยต่าง ๆในมาเลเซีย จากเมษายน
2550 ถึงกันยายน 2550 หลังจากให้แน่ใจว่าจำนวนการใช้คอมพิวเตอร์ทุกวัน เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในช่วงหลายเดือน / ปี นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย การรักษาความลับของข้อมูล ;และยินยอมด้วยวาจาที่นำความเต็มใจที่จะเข้าร่วมในการศึกษา นักเรียนทั้งหมดตกลงที่จะมีส่วนร่วมในการศึกษา และดังนั้น ทั้งหมดของพวกเขาถูกนำมาเป็นตัวอย่างของการศึกษานี้ .
นักเรียนทั้งหมดนำเสนอในชั้นเรียนในเวลาของการให้ศึกษา รวมอยู่ในการศึกษาต่อเป็นคนธาตุทอง หลังจากรวบรวมเต็ม Pro formas จากนักเรียนพวกเขาถูกตรวจสอบสำหรับการตอบสนองในส่วนทั้งหมด โปร formas จากนักเรียนที่มีข้อมูลไม่เพียงพอได้รับการยกเว้นจากการศึกษาต่อการยกเว้นหลักเกณฑ์ .
รวบรวมข้อมูลในฉบับเต็ม ( appendix-1 ) และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS เวอร์ชั่น 16.0