4.4.2. Negative ImpactsAddiction to

4.4.2. Negative Impacts
Addiction to Smartphone (also known as communication addiction disorder), is a serious problem.
According to recent research, the addiction to Smartphone is increasing rapidly. The Ministry of Public
Administration and Security of Korea reported that around 8.4% of Smartphone users in Korea are
addicted to Smartphone and around 10.1% of Koreans overuse social networking sites including
Facebook, Twitter and YouTube. The addiction to Smartphone can be described as wanting to be in
constant communication with people even though when there is no real need for communication [29].
According to an article, Smartphone addiction is not just a buzzword but researchers have recognized
habitual and compulsive communicating as a serious psychic problem. It is also established that
obsession with our Smartphone is also responsible for significantly altering our brain‘s perception for
the device. While several research across the world have been reasserting how Smartphone dependency
is going to be a real danger in future, some other studies in UK also discovered another aspect to it,
showing that anxiety and withdrawal symptoms in Smartphone users increase when they do not receive
any messages or updates [30] [31]. Most of the time the problem is not with the use of the Smartphone,
but it comes when the device takes over a function that human brain is capable to perform perfectly.
It's like multiplying 5 by 7, resulting the opening calculator in your Smartphone instead quickly
calculating in your mind and getting result 35 or waiting for an elevator to take you to first floor of
building instead of the stairs; the ride may be quicker but your muscles won't get a workout.
Smartphone‘s can be considered as mental elevators, taking the basic and useful functions off the brain
[28]. Another psychological impact is that users check their mobiles almost all the times, while at work
time, with family or even when with friends. Lookout, a mobile security company conducted a study
on Smartphone users in USA and found that 58% of Smartphone users check their phones at least once
in an hour and another 54% of respondents said that they check their phone even while going to bed to
sleep[28].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4.4.2 การลบผลกระทบสมาร์ทโฟน (หรือที่เรียกว่าสื่อสารยาเสพติดโรค), ยาเสพติดเป็นปัญหาร้ายแรงตามการวิจัยล่าสุด ติดกับสมาร์ทโฟนจะเพิ่มอย่างรวดเร็วขึ้น กระทรวงสาธารณดูแลและรักษาความปลอดภัยของเกาหลีรายงานว่า ประมาณ 8.4% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในเกาหลีอยู่ที่ติด กับสมาร์ทโฟน และประมาณ 10.1% ของชาวเกาหลี overuse เครือข่ายเว็บไซต์สังคมรวมทั้งFacebook, Twitter และ YouTube ยาเสพติดที่สมาร์ทโฟนสามารถอธิบายว่า ต้องการอยู่ในคงสื่อสารกับคนแม้เมื่อไม่จริงจำเป็นสำหรับการสื่อสาร [29]ตามบทความ ติดสมาร์ทโฟนไม่เพียง buzzword แต่นักวิจัยได้รับการยอมรับเป็น และสื่อสารปัญหาร้ายแรง psychic compulsive นอกจากนี้ยังก่อตั้งขึ้นที่ครอบงำ ด้วยสมาร์ทโฟนของเราก็ชอบมากดัดแปลงสมองของเรารับรู้ในอุปกรณ์ ในขณะที่งานวิจัยต่าง ๆ ทั่วโลกมีการ reasserting วิธีอ้างอิงสมาร์ทโฟนเป็นไปได้จริงอันตรายในอนาคต บางอื่น ๆ การศึกษาในประเทศอังกฤษยังพบด้านนั้นแสดงว่า อาการวิตกกังวลและถอนในผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาไม่ได้รับข้อความใด ๆ หรือปรับปรุง [30] [31] ส่วนใหญ่แล้วปัญหาไม่ มีการใช้สมาร์ทโฟนแต่มาเมื่ออุปกรณ์ใช้ผ่านฟังก์ชันที่สมองมนุษย์มีความสามารถในการดำเนินการอย่างสมบูรณ์เหมือนคูณ 5 โดย 7 ผลคำนวณเปิดในสมาร์ทโฟนของคุณแทนได้อย่างรวดเร็วคำนวณในใจ และได้รับผล 35 หรือรอลิฟท์เพื่อไปชั้นของอาคารแทนบันได การนั่งอาจจะเร็วขึ้น แต่กล้ามเนื้อของคุณจะไม่ได้รับการออกกำลังกายของมาร์ทโฟนที่ถือได้ว่าเป็นจิตลิฟท์ ถอดฟังก์ชันพื้นฐาน และเป็นประโยชน์แก่สมอง[28] ผลกระทบทางจิตใจอื่นเป็นผู้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเกือบตลอดเวลา ในขณะที่ทำงานเวลา กับเมื่อครอบครัว หรือแม้แต่กับเพื่อน ระวัง บริษัทรักษาความปลอดภัยโมบายดำเนินการศึกษาบนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา และพบว่า 58% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขาที่ชั่วโมงและอีก 54% ของผู้ตอบว่า ที่ พวกเขาตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขาแม้ในขณะเข้านอนไปนอน [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.4.2 ผลกระทบเชิงลบ
ที่จะติดยาเสพติดมาร์ทโฟน (หรือเรียกว่าผิดปกติของการติดยาเสพติดการสื่อสาร) เป็นปัญหาที่ร้ายแรง.
ตามการวิจัยที่ผ่านมาติดยาเสพติดมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทรวงสาธารณสุข
การบริหารและการรักษาความปลอดภัยของประเทศเกาหลีรายงานว่าประมาณ 8.4% ของผู้ใช้มาร์ทโฟนในประเทศเกาหลีได้รับการ
ติดยาเสพติดมาร์ทโฟนและรอบ ๆ 10.1% ของชาวเกาหลีมากเกินไปเว็บไซต์เครือข่ายสังคมรวมทั้ง
Facebook, Twitter และ YouTube ติดยาเสพติดมาร์ทโฟนสามารถอธิบายได้ว่าต้องการที่จะอยู่ใน
การติดต่อสื่อสารกับผู้คนอย่างต่อเนื่องแม้เมื่อไม่มีความต้องการที่แท้จริงสำหรับการสื่อสาร [29].
อ้างอิงจากบทความที่ติดยาเสพติดมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นเพียง Buzzword แต่นักวิจัยได้รับการยอมรับ
การสื่อสารและความเคยชินที่ต้องกระทำ เป็นปัญหาทางจิตอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับว่า
ถูกครอบงำด้วยมาร์ทโฟนของเรายังเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญการรับรู้ของสมองของเราสำหรับ
อุปกรณ์ ขณะที่การวิจัยต่างๆทั่วโลกที่ได้รับการอ้างสิทธิ์ในการพึ่งพามาร์ทโฟน
จะเป็นอันตรายที่แท้จริงในอนาคตบางการศึกษาอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรยังค้นพบแง่มุมอีกครั้งเพื่อให้มัน
แสดงให้เห็นว่าความวิตกกังวลและอาการถอนผู้ใช้มาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาไม่ได้รับ
ใด ๆ ข้อความหรือการปรับปรุง [30] [31] ส่วนใหญ่เวลาที่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่มีการใช้มาร์ทโฟน,
แต่มันมาเมื่ออุปกรณ์จะใช้เวลามากกว่าฟังก์ชั่นที่สมองของมนุษย์มีความสามารถที่จะดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์แบบ.
มันก็เหมือนกับการคูณ 5 7 ผลเครื่องคิดเลขการเปิดในมาร์ทโฟนของคุณแทนได้อย่างรวดเร็ว
การคำนวณในใจของคุณและได้รับผล 35 หรือรอลิฟท์ที่จะนำคุณไปยังชั้นแรกของ
อาคารแทนบันได; นั่งอาจจะเร็ว แต่กล้ามเนื้อของคุณจะไม่ได้รับการออกกำลังกาย.
มาร์ทโฟนได้รับการพิจารณาเป็นลิฟต์จิต, การทำงานขั้นพื้นฐานและมีประโยชน์ออกจากสมอง
[28] ผลกระทบทางจิตวิทยาก็คือการที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือของพวกเขาตรวจสอบเกือบทุกครั้งในขณะที่ทำงาน
เวลากับครอบครัวหรือแม้ในขณะที่กับเพื่อน ๆ ระวัง, บริษัท รักษาความปลอดภัยมือถือดำเนินการศึกษา
เกี่ยวกับผู้ใช้มาร์ทโฟนในประเทศสหรัฐอเมริกาและพบว่า 58% ของผู้ใช้มาร์ทโฟนตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ในอีกหนึ่งชั่วโมงและอีก 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขาแม้ในขณะที่จะเข้านอนเพื่อ
การนอนหลับ [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4.4.2 ผลกระทบทางลบ
ติดสมาร์ทโฟน ( หรือที่เรียกว่าโรคติดการสื่อสาร ) เป็นปัญหาร้ายแรง .
ตามการวิจัยล่าสุด ติดสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทรวงบริหารสาธารณะ
และความมั่นคงของเกาหลีรายงานว่าประมาณ 8.4% ของผู้ใช้มาร์ทโฟนในเกาหลี
ติดสมาร์ทโฟน และประมาณ 101 % ของเกาหลีใช้ไซต์เครือข่ายทางสังคมรวมทั้ง
Facebook , Twitter และ YouTube ติดเพื่อมาร์ทโฟนสามารถอธิบายได้ว่า ต้องการที่จะอยู่ในการสื่อสารคงที่ด้วยคน
ถึงแม้ว่าเมื่อไม่มีจริงต้องสื่อสาร [ 29 ] .
ตามบทความ ติดสมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นเพียง buzzword แต่นักวิจัยยอมรับ
นิสัยและการสื่อสารเป็นปัญหาร้ายแรงที่ถูกกระตุ้น . มันยังขึ้นว่า
ความหลงใหลที่มีมาร์ทโฟนของเรายังเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการรับรู้ทางสมองของเราสำหรับ
อุปกรณ์ ในขณะที่หลายงานวิจัยทั่วโลกได้รับ reasserting ว่าสมาร์ทโฟนพึ่งพา
จะอันตรายที่แท้จริงในอนาคตบางการศึกษาอื่น ๆใน UK ยังค้นพบด้านอื่นมัน
แสดงความวิตกกังวลและอาการถอนในผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาไม่ได้รับ
ข้อความใด ๆหรือปรับปรุง [ 30 ] [ 31 ] ส่วนใหญ่แล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่การใช้มาร์ทโฟน
แต่มันออกมาเมื่ออุปกรณ์ที่ใช้ผ่านฟังก์ชันที่สมองของมนุษย์มีความสามารถที่จะดำเนินการอย่างสมบูรณ์ .
มันเหมือนคูณ 5 โดย 7ให้เครื่องคิดเลขเปิดมาร์ทโฟนของคุณแทนที่จะได้อย่างรวดเร็ว
คำนวณในใจของคุณและได้รับผล 35 หรือรอลิฟต์ที่จะพาคุณไปชั้น 1 อาคาร
แทนบันได ; นั่งอาจจะเร็ว แต่กล้ามเนื้อของคุณจะไม่ได้รับการออกกําลังกาย .
มาร์ทโฟนสามารถถือว่าเป็นลิฟท์จิต , การฟังก์ชั่น พื้นฐานและประโยชน์จากสมอง
[ 28 ]อีกผลกระทบทางจิตวิทยาก็คือผู้ใช้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเกือบตลอดเวลา ขณะที่ในเวลางาน
, กับครอบครัวหรือแม้กับเพื่อน ระวัง , บริษัท รักษาความปลอดภัยโทรศัพท์มือถือศึกษา
เมื่อผู้ใช้มาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา พบว่า ร้อยละ 58 ของผู้ใช้มาร์ทโฟนตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ในชั่วโมงและอีก 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาจะตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขาแม้ในขณะที่เข้านอน

นอน
[ 28 ]