Bref synthesisIn the northern part

Bref synthesis
In the northern part of Haiti, the National History Park – Citadel, Sans-Souci, Ramiers (NHP-CSSR) is located in the central zone of the northern massif that extends to the Dominican Republic. The NHP-CSSR is located between the coastal plains and the mountainous interior of the region. The choice to build the Citadel on the summits responded to a strategy for interior protection, differing from the coastal defence strategy inherited from French colonization.
Created by presidential decree in 1978, to preserve the splendid natural scenery of the mountainous peaks covered with luxuriant vegetation, the NHP-CSSR covers an area of 25 km2. It includes the monumental ensemble of the Palace of Sans-Souci and its annex buildings, the Citadelle Henry and the Ramiers site, universal symbols of liberty, being the first monuments to be constructed by black slaves who had gained their freedom. For Haitians, they represent the first monuments of their independence.
On 1 January 1804, after fourteen years of struggle by the island’s black slaves against the colonists, Jean-Jacques Dessalines, the principal leader of the revolution, proclaimed the independent Republic of Haiti. The “Emperor” Dessalines immediately entrusted to one of his generals, Henri Christophe, the task of constructing an immense fortress on the Pic Laferrière, to protect the young republic.
Both military installation and political manifesto, the Citadelle Henry, constructed to a height of 970 m, is one of the best examples of the art of military engineering of the early 19th century. The plans are the work of the Haitian Henry Barré, but it is probable that General Christophe played the preponderant role in their formulation. The Citadelle Henry, covering an area of about one hectare, is a vast quadrilateral comprising four buildings protected by four flanking towers built around a central courtyard, and forming on several levels a bastioned front of batteries and barracks. The projecting masses, remarkably articulated to allow an integrated use of artillery capabilities, an elaborate system of water supply and cisterns, and colossal defensive walls render the citadel impregnable. It can shelter a garrison of 2000 men, or 5000 if necessary.
At the death of Dessalines, in 1806, the Republic of Haiti was divided into separate states : the southern part, governed by Pétion, and the north, where Christophe proclaimed himself king in 1811. The Citadelle Henry, originally conceived as a monument to the defence of liberty, was maintained as a fortress by the despot and was inaugurated in 1813.
At the same time, King Christophe (Henry 1) undertook the construction of an astonishing palace surrounded by gardens, situated at the foot of the access road to the Citadelle near to the village of Milot: the Palace Sans-Souci. This large architectural ensemble responded to the need to concentrate the essential administrative services of the new monarchy around the royal residence. Surrounded by mountainous peaks covered with luxurious vegetation, the Palace and its buildings were grouped in an amphitheatre covering an area of about eight hectares. The architectural ensemble comprised the royal residence, that is the Palace itself that Henry 1 used as principal residence until his death in 1820; the administrative buildings (State Council, Palace of Ministries, Royal Mint, library) ; the residence of the Crown Prince located to the west of the esplanade for official events; the stables, barracks, prisons, arsenal, various maintenance workshops, hospital, goldsmiths, etc. The ensemble was embellished with gardens, basins and fountains. Inaugurated in 1813, the Palace Sans-Souci was looted at the death of the king in 1820. Since then, abandoned, it was seriously damaged by the earthquake of 1842. Nevertheless, by its size, it remains an impressive and coherent ruin, owing its bizarre beauty to an exceptional harmony with the mountainous setting, as well as its recourse to diverse and yet reputedly irreconcilable architectural models. The Baroque staircase and the classical terraces, the stepped gardens reminiscent of Potsdam and Vienna, the canals and basins freely inspired by Versailles, impart an indefinable hallucinatory quality to the creation of the megalomaniac king.
The Ramiers site is a small plateau with sub-foundations and a some sections of wall of a residential ensemble protected by two pairs of fortified redoubts. The site commands a superb panorama and provides an unexpected view of the Citadelle, with its huge silhouette standing out against the empty skyline.
Unique testimonies directly connected to the independence of Haiti, resulting from a general uprising of slaves deported from Africa, are united here. The French Revolution of 1789 led to serious social upheavals in the Lesser Antilles, as in Santo Domingo. The most important was the slave revolt that resulted in 1793 with the abolition of slavery, decision endorsed and generalized

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Bref สังเคราะห์ในภาคเหนือของเฮติ อุทยานประวัติศาสตร์ – ป้อม Sans-Souci, Ramiers (NHP-CSSR) อยู่ในพื้นที่ของบริเวณเทือกเหนือที่ขยายสู่สาธารณรัฐโดมินิกัน NHP-CSSR อยู่ระหว่างราบชายฝั่งและภายในภูเขาของภูมิภาค ตัวเลือกการสร้างป้อมปราการการประชุมฯ ตอบสนองกลยุทธ์สำหรับการตกแต่งป้องกัน แตกต่างจากกลยุทธ์การป้องกันชายฝั่งที่มาจากการล่าอาณานิคมฝรั่งเศสสร้างขึ้น โดยพระราชกฤษฎีกาประธานาธิบดีในปี 1978 เพื่อรักษาทัศนียภาพธรรมชาติสวยงามของยอดภูเขาที่ปกคลุม ด้วยพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ NHP-CSSR ครอบคลุมพื้นที่ 25 กม. 2 มีวงดนตรีสุดอลังการในพระราชวังของ Sans-Souci และอาคารแอนเน็กซ์ Citadelle Henry และเว็บไซต์ Ramiers สัญลักษณ์สากลของเสรีภาพ เป็นอนุสาวรีย์แรกการก่อสร้าง โดยทาสดำที่ได้รับอิสระ สำหรับชาวเฮติ มันเป็นอนุสาวรีย์แรกของความเป็นอิสระของพวกเขาบน 1 1804 มกราคม หลังจากสิบปีของการต่อสู้โดยเกาะทาสดำกับชาวอาณานิคม Jean-Jacques Dessalines ผู้นำหลักของการปฏิวัติ ประกาศอิสระสาธารณรัฐเฮติ Dessalines "จักรพรรดิ" มอบหมายของนายพล Henri อิฟแฟล งานก่อสร้างป้อมปราการยิ่งใหญ่บน Laferrière Pic เพื่อปกป้องสาธารณรัฐหนุ่มอย่างใดอย่างหนึ่งทันทีติดตั้งทางทหารและทางการเมืองประกาศ Citadelle Henry เพื่อความสูงเมตร 970 เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของศิลปะของการทหารวิศวกรรมของต้นศตวรรษที่ 19 แผนมีการทำงานของ Barré เฮนรี่เฮติ แต่ก็ค่อนข้างแน่นอนว่า อิฟแฟลทั่วไปบทบาท preponderant กำหนดของพวกเขา Citadelle Henry ครอบคลุมพื้นที่ประมาณหนึ่งตารางเมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้างใหญ่ประกอบด้วยอาคาร 4 อาคารป้องกัน โดยสี่โล่งอาคารที่ล้อมรอบลานเซ็นทรัล และในหลายระดับการขึ้นรูปหน้า bastioned แบตเตอรี่ และค่ายทหาร มวลชนโปรเจคเตอร์ อย่างชัดเจนเพื่อให้การใช้งานรวมความสามารถของปืนใหญ่ ระบบซับซ้อนของน้ำ และไว้สำหรับตนเอง และป้องกันกำแพงมหึมาทำให้ป้อมปราการ impregnable มันสามารถพักพิงปราการของผู้ชาย 2000, 5000 ถ้าจำเป็นที่การตายของ Dessalines ใน 1806 สาธารณรัฐเฮติแบ่งแยกอเมริกา: ภาคใต้ ภายใต้ Pétion และเหนือ ที่อิฟแฟลประกาศตัวเองกษัตริย์ 1811 Citadelle Henry เดิม สร้างเป็นอนุสาวรีย์เพื่อป้องกันของเสรีภาพ รักษาเป็นป้อมปราการ โดยตัว despot และเปิดใน 1813ในเวลาเดียวกัน อิฟแฟลคิง (เฮนรี่ 1) มันก็ลงมือก่อสร้างพระราชวังน่าอัศจรรย์ท่ามกลางสวน ตั้งอยู่ที่ถนนเข้าถึง Citadelle ใกล้หมู่บ้าน Milot: พา Sans Souci นี้วงดนตรีสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ที่ตอบสนองความต้องการบริการดูแลที่สำคัญของใหม่รอบโรงแรมรอยัล ล้อมรอบไป ด้วยยอดภูเขาที่ปกคลุม ด้วยพืชหรูหรา พระราชวังและอาคารถูกจัดกลุ่มในอัฒจันทร์ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8 ไร่ วงดนตรีสถาปัตยกรรมประกอบด้วยเดอะรอยัลเรสซิเดนซ์ ที่พาตัวเองที่ว่า เฮนรี่ 1 ใช้เป็นหลักพักจนเขาตายใน 1820 อาคารบริหาร (รัฐสภา พระราชวังของกระทรวง โรงกษาปณ์รอยัล ไลบรารี); ที่พำนักของเจ้าตั้งอยู่ทางตะวันตกของเอสพลานาดสำหรับเหตุการณ์อย่างเป็นทางการ คอกม้า ค่ายทหาร เรือนจำ อาร์เซนอล ต่าง ๆ ประชุมเชิงปฏิบัติการบำรุงรักษา โรงพยาบาล goldsmiths ฯลฯ วงดนตรีถูกประดับ ด้วยสวน อ่างน้ำพุ ตั้งเมื่อ 1813 พระราชวัง Sans Souci ถูกโบราณที่ตายของกษัตริย์ใน 1820 ตั้งแต่นั้นมา ทิ้ง มันอย่างจริงจังเสียหายจากแผ่นดินไหวของ 1842 อย่างไรก็ตาม ตามขนาด มันยังคงน่าประทับใจ และสอดคล้องทำลาย เนื่องจากงามแปลกประหลาดมีสัมผัสพิเศษ ด้วยบรรยากาศท่ามกลางภูเขา ตลอดจนการจัดเตรียมรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย และยังมี irreconcilable บันไดบาร็อค และคลาสสิกระเบียง สวนก้าวของพอทสดัม และเวียนนา คลอง และอ่างอิสระบันดาล Versailles บอกคุณภาพ hallucinatory เคร่งเครียดการสร้างกษัตริย์ megalomaniacเว็บไซต์ Ramiers เป็นราบสูงขนาดเล็กรากฐานย่อยและบางส่วนของผนังเป็นป้องกัน โดยเสริม redoubts สองคู่ดูที่อยู่อาศัย เว็บไซต์คำสั่งพาโนรามาดี และมีมุมมองไม่คาดคิดของ Citadelle ยืนของเงาขนาดใหญ่ออกจากเส้นขอบฟ้าที่ว่างเปล่าพยานเฉพาะที่ตรงกับความต้องการความเป็นอิสระของเฮติ เป็นผลมาจากกบฏทั่วไปของทาสเช่นจากแอฟริกา สหรัฐได้ที่นี่ ปฏิวัติฝรั่งเศส 1789 นำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคมที่ร้ายแรงในการเลสเซอร์แอนทิลลิส ในซันโตโดมิงโก สิ่งสำคัญสุดคือ กบฏของทาสที่เกิดไปอย่างแน่นอนกับการเลิกทาส ตัดสินใจรับรอง และทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสังเคราะห์ Bref
ในทางตอนเหนือของประเทศเฮติ, อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ - ป้อมอักษร Sans Souci, Ramiers (NHP-CSSR) ตั้งอยู่ในเขตภาคกลางของเทือกเขาทางภาคเหนือที่ขยายไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน NHP-CSSR ตั้งอยู่ระหว่างที่ราบชายฝั่งและภูเขาภายในของภูมิภาค ทางเลือกในการสร้างป้อมปราการบนยอดตอบสนองต่อกลยุทธ์สำหรับการป้องกันการตกแต่งภายในที่แตกต่างกันจากกลยุทธ์การป้องกันชายฝั่งทะเลที่สืบทอดมาจากอาณานิคมของฝรั่งเศส.
สร้างโดยประธานาธิบดีในปี 1978 เพื่อรักษาทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามของยอดเขาที่ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ที่อุดมสมบูรณ์ NHP-CSSR ครอบคลุมพื้นที่ 25 กิโลเมตร 2 ซึ่งจะรวมถึงวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของพระราชวัง Sans-Souci และอาคารภาคผนวกที่ Citadelle เฮนรี่และเว็บไซต์ Ramiers สัญลักษณ์สากลของเสรีภาพเป็นอนุสาวรีย์แรกที่ถูกสร้างขึ้นโดยทาสผิวดำที่ได้รับเสรีภาพของพวกเขา สำหรับชาวเฮติที่พวกเขาเป็นตัวแทนของอนุเสาวรีย์แรกของการเป็นอิสระของพวกเขา.
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1804 หลังจากสิบสี่ปีของการต่อสู้โดยทาสผิวดำเกาะกับอาณานิคม Jean-Jacques Dessalines, ผู้นำหลักของการปฏิวัติประกาศอิสระสาธารณรัฐเฮติ ว่า "จักรพรรดิ" Dessalines มอบหมายทันทีที่หนึ่งของนายพลอองรี Christophe งานของการสร้างป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ในรูปLaferrièreเพื่อปกป้องสาธารณรัฐหนุ่ม.
ทั้งการติดตั้งทางทหารและการแถลงการณ์ทางการเมือง Citadelle เฮนรี่สร้างขึ้นมาเพื่อความสูงของ 970 เมตรเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของศิลปะของวิศวกรรมทหารในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 แผนการที่เป็นผลงานของเฮติเฮนรี่แบร์ แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่านายพล Christophe เล่นบทบาทสำคัญยิ่งในการกำหนดของพวกเขา Citadelle เฮนรี่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณหนึ่งเฮกตาร์เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ประกอบด้วยอาคารสี่ป้องกันโดยสี่เสาขนาบสร้างขึ้นรอบ ๆ ลานกลางและขึ้นรูปในหลายระดับด้านหน้าตะปุ่มตะป่ำของแบตเตอรี่และค่ายทหาร ฝูงฉายก้องอย่างน่าทึ่งในการอนุญาตให้ใช้งานแบบบูรณาการของความสามารถในการยิงปืนใหญ่เป็นระบบที่ซับซ้อนของน้ำประปาและอ่างและกำแพงป้องกันมหึมาทำให้ป้อมเข้มแข็ง มันสามารถปกป้องทหารของปี 2000 คนหรือ 5000 หากจำเป็น.
ความตายของ Dessalines ใน 1806 สาธารณรัฐเฮติแบ่งออกเป็นรัฐเฉพาะกิจการ: ภาคใต้, ปกครองโดยPétionและทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่ Christophe ประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ ใน 1811 Citadelle เฮนรี่รู้สึกเดิมเป็นอนุสาวรีย์เพื่อการป้องกันของเสรีภาพที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นป้อมปราการโดยเผด็จการและได้รับการเปิดตัวใน 1813
ในเวลาเดียวกันกษัตริย์ Christophe (เฮนรี่ 1) รับหน้าที่การก่อสร้างพระราชวังน่าอัศจรรย์ ล้อมรอบด้วยสวนตั้งอยู่ที่เท้าของถนนทางเข้ากับ Citadelle ใกล้กับหมู่บ้าน Milot นี้: พระราชวัง Sans-Souci นี้วงดนตรีสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ตอบสนองต่อความต้องการที่จะมีสมาธิในการบริหารการบริการที่สำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ใหม่รอบพระที่นั่ง ล้อมรอบด้วยภูเขายอดเขาที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณหรูหราพระราชวังและอาคารที่ได้รับการจัดกลุ่มในอัฒจันทร์ครอบคลุมพื้นที่ประมาณแปดไร่ ชุดสถาปัตยกรรมประกอบด้วยพระที่นั่งที่เป็นพระราชวังตัวเองว่าเฮนรี่ 1 ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลักจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1820; บริหารอาคาร (สภาแห่งรัฐพระราชวังกระทรวงกองกษาปณ์ห้องสมุด); ที่ประทับของสมเด็จพระยุพราชตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ Esplanade สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการนั้น คอกม้าค่ายทหารเรือนจำอาร์เซนอล, การประชุมเชิงปฏิบัติการการบำรุงรักษาต่างๆ, โรงพยาบาล, ร้านทอง ฯลฯ ทั้งมวลถูกประดับด้วยสวนและน้ำพุอ่าง เปิดตัวใน 1813 พระราชวัง Sans-Souci ถูกปล้นความตายของพระมหากษัตริย์ใน 1820 ตั้งแต่นั้นที่ทิ้งมันได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว 1842 อย่างไรก็ตามโดยขนาดของมันก็ยังคงเป็นที่น่าประทับใจและทำลายกันเนื่องจาก ความงามที่แปลกประหลาดของมันไปยังความสามัคคีเป็นพิเศษกับการตั้งค่าภูเขาเช่นเดียวกับการขอความช่วยเหลือในการที่มีความหลากหลายและยังกันไม่ได้โด่งดังแบบจำลองสถาปัตยกรรม บันไดบาร็อคและระเบียงคลาสสิกสวนก้าวชวนให้นึกถึง Potsdam และกรุงเวียนนา, คลองและอ่างแรงบันดาลใจได้อย่างอิสระโดยแวร์ซายบอกคุณภาพประสาทหลอนไม่แน่นอนไปสู่การสร้างจรรยาบรรณกษัตริย์.
เว็บไซต์ Ramiers เป็นที่ราบขนาดเล็กที่มีรากฐานย่อย และบางส่วนของผนังของวงดนตรีที่อยู่อาศัยการป้องกันโดยคู่ที่สองของ redoubts ป้อม เว็บไซต์คำสั่งพาโนรามาที่ยอดเยี่ยมและให้มุมมองที่ไม่คาดคิดของ Citadelle กับเงาขนาดใหญ่ยืนอยู่กับเส้นขอบฟ้าที่ว่างเปล่า.
ประจักษ์พยานที่ไม่ซ้ำเชื่อมต่อโดยตรงกับความเป็นอิสระของเฮติที่เกิดจากการจลาจลทั่วไปของทาสที่ถูกเนรเทศออกจากแอฟริกาเป็นปึกแผ่นที่นี่ . การปฏิวัติฝรั่งเศส 1789 นำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคมที่ร้ายแรงในแอนทิลเลสเบี้ยนในขณะที่ซันโตโดมิงโก ที่สำคัญที่สุดก็คือการก่อจลาจลทาสที่เกิดใน 1793 กับการเลิกทาสการตัดสินใจรับรองและทั่วไป