Higher CO2 levels can increase yiel

Higher CO2 levels can increase yields. The yields for some crops, like wheat and soybeans, could increase by 30% or more under a doubling of CO2 concentrations. The yields for other crops, such as corn, exhibit a much smaller response (less than 10% increase). [3] However, some factors may counteract these potential increases in yield. For example, if temperature exceeds a crop's optimal level or if sufficient water and nutrients are not available, yield increases may be reduced or reversed.
More extreme temperature and precipitation can prevent crops from growing. Extreme events, especially floods and droughts, can harm crops and reduce yields. For example, in 2008, the Mississippi River flooded just before the harvest period for many crops, causing an estimated loss of $8 billion for farmers. [1]
Dealing with drought could become a challenge in areas where summer temperatures are projected to increase and precipitation is projected to decrease. As water supplies are reduced, it may be more difficult to meet water demands.
Many weeds, pests and fungi thrive under warmer temperatures, wetter climates, and increased CO2 levels. Currently, farmers spend more than $11 billion per year to fight weeds in the United States. [1] The ranges of weeds and pests are likely to expand northward. This would cause new problems for farmers' crops previously unexposed to these species. Moreover, increased use of pesticides and fungicides may negatively affect human health. [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระดับ CO2 ที่สูงขึ้นสามารถเพิ่มผลผลิต ผลผลิตพืชบางอย่าง เช่นข้าวสาลีและถั่วเหลือง อาจเพิ่ม 30% หรือมากกว่าภายใต้การเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของ CO2 ผลผลิตสำหรับพืชอื่น ๆ เช่นข้าวโพด แสดงการตอบสนองที่มีขนาดเล็กมาก (น้อยกว่า 10% เพิ่มขึ้น) [3] อย่างไรก็ตาม บางปัจจัยอาจรับมือกับเหล่านี้เพิ่มศักยภาพผลผลิต ตัวอย่างเช่น ถ้าอุณหภูมิเกินระดับที่เหมาะสมของพืช หรือ ถ้าไม่มีน้ำและสารอาหารเพียงพอ เพิ่มผลผลิตอาจจะลดลง หรือกลับอุณหภูมิและปริมาณฝนเพิ่มเติมสามารถป้องกันพืชเติบโต เหตุการณ์รุนแรง อุทกภัยและภัยแล้ง สามารถเป็นอันตรายต่อพืช และลดอัตราผลตอบแทน ตัวอย่างเช่น ใน 2008 แม่น้ำมิสซิสซิปปีสะอาดก่อนรอบระยะเวลาเก็บเกี่ยวพืชหลากหลายชนิด ก่อให้เกิดการขาดทุนโดยประมาณ $8 พันล้านสำหรับเกษตรกร [1]จัดการกับภัยแล้งอาจกลายเป็น ความท้าทายในพื้นที่ที่มีการคาดการณ์การเพิ่มอุณหภูมิในฤดูร้อน และฝนคาดว่าจะลดลง ขณะที่น้ำจะลดลง อาจจะยากต่อการตอบสนองความต้องการน้ำหลายวัชพืช ศัตรูพืช และเชื้อราเจริญเติบโตภายใต้อุณหภูมิที่อุ่นขึ้น ควรสภาพอากาศ และระดับ CO2 ที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ เกษตรกรใช้เวลามากกว่า 11 พันล้านเหรียญต่อปีในการต่อสู้กับวัชพืชในสหรัฐอเมริกา [1] ช่วงของวัชพืชและศัตรูพืชมีแนวโน้มจะขยายออก นี้จะทำให้เกิดปัญหาใหม่สำหรับเกษตรกรพืช unexposed ก่อนหน้านี้ กับสายพันธุ์เหล่านี้ นอกจากนี้ การใช้ยาฆ่าแมลงและเชื้อราเพิ่มขึ้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระดับ CO2 สูงขึ้นสามารถเพิ่มผลผลิต อัตราผลตอบแทนสำหรับพืชบางอย่างเช่นข้าวสาลีและถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้น 30% หรือมากขึ้นภายใต้การเพิ่มความเข้มข้นของ CO2 อัตราผลตอบแทนสำหรับพืชอื่น ๆ เช่นข้าวโพดแสดงการตอบสนองที่มีขนาดเล็กมาก (น้อยกว่า 10% เพิ่มขึ้น) [3] อย่างไรก็ตามปัจจัยบางอย่างอาจรับมือกับการเพิ่มขึ้นของเหล่านี้มีศักยภาพในการให้ผลผลิต ตัวอย่างเช่นถ้าอุณหภูมิสูงเกินกว่าระดับที่เหมาะสมสำหรับพืชหรือถ้าน้ำเพียงพอและสารอาหารที่ไม่สามารถใช้ได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอาจจะลดลงหรือกลับรายการ.
อุณหภูมิมากขึ้นและฝนสามารถป้องกันไม่ให้พืชผลจากการเจริญเติบโต เหตุการณ์รุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำท่วมและภัยแล้งสามารถเป็นอันตรายต่อพืชและลดอัตราผลตอบแทน ยกตัวอย่างเช่นในปี 2008 แม่น้ำมิสซิสซิปปีน้ำท่วมก่อนช่วงการเก็บเกี่ยวสำหรับพืชจำนวนมากก่อให้เกิดการสูญเสียประมาณ $ 8 พันล้านสำหรับเกษตรกร [1]
การรับมือกับภัยแล้งที่อาจจะกลายเป็นความท้าทายในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นและฝนคาดว่าจะลดลง ในฐานะที่เป็นแหล่งน้ำจะลดลงมันอาจจะยากมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการน้ำ.
วัชพืชหลายศัตรูพืชและเชื้อราเจริญรุ่งเรืองภายใต้อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นสภาพอากาศที่เปียกและระดับ CO2 เพิ่มขึ้น ปัจจุบันเกษตรกรใช้จ่ายมากกว่า $ 11000000000 ต่อปีเพื่อต่อสู้กับวัชพืชในประเทศสหรัฐอเมริกา [1] ช่วงของวัชพืชและแมลงศัตรูพืชมีแนวโน้มที่จะขยายไปทางทิศเหนือ นี้จะทำให้เกิดปัญหาใหม่สำหรับพืชของเกษตรกรก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ถ่ายสายพันธุ์เหล่านี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มการใช้ยาฆ่าแมลงและสารฆ่าเชื้อราในเชิงลบอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระดับ CO2 ที่สูงขึ้นสามารถเพิ่มผลผลิต ผลผลิตสำหรับพืชบางชนิด เช่น ข้าวสาลี และถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 หรือมากกว่าภายใต้ เพิ่มความเข้มข้นของ CO2 ผลผลิตพืชชนิดอื่น เช่น ข้าวโพด มีการตอบสนองมากขนาดเล็ก ( น้อยกว่า 10 % เพิ่ม ) [ 3 ] อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบางอย่างอาจแก้เพิ่มศักยภาพเหล่านี้ในผลผลิต ตัวอย่างเช่น ถ้าอุณหภูมิเกินระดับที่เหมาะสมของพืช หรือถ้าน้ำที่เพียงพอและสารอาหารจะไม่มีการเพิ่มผลผลิตอาจลดลง หรือกลับกันอุณหภูมิที่รุนแรงมากขึ้นและการตกตะกอนสามารถป้องกันพืชจากการเติบโต เหตุการณ์รุนแรง โดยเฉพาะน้ำท่วม และภัยแล้ง อาจเป็นอันตรายต่อพืช และลดผลผลิต ตัวอย่างเช่น ใน 2008 , แม่น้ำมิสซิสซิปปี ท่วมก่อนระยะเก็บเกี่ยวหลายพืช ทำให้เกิดความเสียหาย $ 8 พันล้าน ให้แก่เกษตรกร [ 1 ]รับมือกับภัยแล้งที่อาจจะกลายเป็นความท้าทายในพื้นที่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และอุณหภูมิในฤดูร้อน โดยคาดว่าจะลดลง เป็นประปาจะลดลง อาจจะยากที่จะตอบสนองความต้องการน้ำวัชพืชมากมาย ศัตรูพืชและเชื้อราที่เจริญภายใต้อุณหภูมิที่อุ่นชื้นเปียก และระดับ CO2 ที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้เกษตรกรใช้จ่ายมากกว่า $ 11 พันล้านต่อปี เพื่อต่อสู้กับวัชพืชในสหรัฐอเมริกา [ 1 ] ช่วงของวัชพืชและศัตรูพืชมีแนวโน้มที่จะขยายไปทางทิศเหนือ นี้ทำให้เกิดปัญหาใหม่สำหรับเกษตรกรปลูกพืชก่อนหน้านี้อิ่มชนิดเหล่านี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมี อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ [ 1 ]