With detergent, our product exhibit

With detergent, our product exhibited a steeper decrease in percentage silver remaining in cotton until 10 cycles (about 67%) but a gradual decrease with additional laundering cycles. About 58% of the original amount of silver remained after 50 cycles. Lee et al. reported that the cotton fabrics treated with silver colloid using the pad-dry-cure method exhibited poor washing durability; i.e., only 7% of the total silver applied remained after 20 cycles.41 This result indicates that the pad dry-cure process alone is not a proper way to fixate a nanoparticle onto textiles. The studies by El-Rafie et al.29 andMitrano et al.42 showed that the addition of a binder in the pad-dry-cure process improved the washing durability but the resulting retention was still lower than that of our product. Interestingly, the T-shirts of Reed et al. showed better washing durability in detergent solution than in water; however, the percentage of silver remaining rapidly dropped to 44% after 20 cycles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อใช้ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ของเรามีเปอร์เซ็นต์เงินที่เหลืออยู่ในผ้าฝ้ายลดลงอย่างมากจนกระทั่งครบ 10 รอบ (ประมาณ 67%) แต่จะลดลงทีละน้อยเมื่อมีรอบการซักเพิ่มเติม ประมาณ 58% ของปริมาณเงินเดิมยังคงอยู่หลังจากผ่านไป 50 รอบ ลีและคณะ รายงานว่าผ้าฝ้ายที่บำบัดด้วยซิลเวอร์คอลลอยด์โดยใช้วิธีแพดแห้งมีความทนทานในการซักต่ำ กล่าวคือ มีเพียง 7% ของปริมาณเงินทั้งหมดที่ใช้ยังคงอยู่หลังจากผ่านไป 20 รอบ41 ผลลัพธ์นี้บ่งชี้ว่ากระบวนการทำให้แห้งด้วยแผ่นอิเล็กโทรดเพียงอย่างเดียวไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการตรึงอนุภาคนาโนลงบนสิ่งทอ การศึกษาโดย El-Rafie และคณะ 29 และMitrano และคณะ 42 แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มสารยึดเกาะในกระบวนการแห้งด้วยแผ่นช่วยปรับปรุงความทนทานในการซัก แต่ผลการรักษายังคงต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ของเรา ที่น่าสนใจคือเสื้อยืดของ Reed และคณะ มีความทนทานในการซักที่ดีกว่าในสารละลายผงซักฟอกมากกว่าในน้ำ อย่างไรก็ตาม เปอร์เซ็นต์ของเงินที่เหลืออยู่ลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 44% หลังจาก 20 รอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วยผงซักฟอกเปอร์เซ็นต์เงินที่ตกค้างในฝ้ายจะลดลงอย่างรวดเร็วก่อนที่ 10 รอบการซัก (ประมาณ 67%) ในผลิตภัณฑ์ของเรา แต่เมื่อรอบการซักเพิ่มขึ้นเปอร์เซ็นต์เงินจะค่อยๆลดลง หลังจากผ่านไป 50 รอบ เงินประมาณ 58% ยังคงอยู่ ลีและคนอื่น ๆ รายงานว่าผ้าฝ้ายที่ได้รับการรักษาด้วยคอลลอยด์เงินโดยใช้วิธีการบ่มแบบแห้งของแผ่นแสดงให้เห็นถึงความทนทานในการซักที่ไม่ดี นั่นคือหลังจาก 20 รอบที่เหลือเพียง 7% ของเงินทั้งหมดที่ใช้ 41 ผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นว่ากระบวนการบ่มแบบแห้งแบบแผ่นแยกต่างหากไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการยึดอนุภาคนาโนเข้ากับสิ่งทอ El Rafie และคณะ 29 และ
Mitrano et al. 42 แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มกาวในกระบวนการบ่มแห้งของแผ่นซับช่วยเพิ่มความทนทานต่อการซัก แต่อัตราการเก็บรักษาที่เกิดขึ้นยังคงต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ของเรา ที่น่าสนใจคือเสื้อยืดของ Reed et al. แสดงให้เห็นถึงความทนทานต่อการซักในสารละลายผงซักฟอกได้ดีกว่าในน้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจาก 20 รอบ เปอร์เซ็นต์การตกค้างของเงินลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 44%

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อใช้ผงซักฟอกเปอร์เซ็นต์ของเงินที่เหลืออยู่ในฝ้ายลดลงอย่างมาก(ประมาณ67 % )ก่อนรอบการซัก10ครั้งแต่ค่อยๆลดลงเมื่อมีการซักฟอกเพิ่มเติม หลังจาก50รอบประมาณ58 %ของปริมาณเงินเริ่มต้นจะยังคงอยู่ Lee et al .รายงานว่าผ้าฝ้ายที่ผ่านการบําบัดด้วยคอลลอยด์เงินโดยใช้วิธีการย้อม-แห้ง-บ่มแสดงให้เห็นถึงความต้านทานต่อการซักผ้าที่ไม่ดี นั่นคือหลังจาก20รอบเหลือเพียง7 %ของเงินทั้งหมด ผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นว่ากระบวนการอบแห้งแบบแช่เดี่ยวไม่ได้เป็นวิธีที่เหมาะสมในการยึดอนุภาคนาโนเข้ากับสิ่งทอ การศึกษาของเอล-ราฟีและอื่นๆ29และ
Mitrano et al.42แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มกาวในกระบวนการชะล้าง-อบแห้ง-บ่มช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการล้างแต่อัตราการเก็บรักษาที่ได้รับยังคงต่ํากว่าผลิตภัณฑ์ของเรา สิ่งที่น่าสนใจคือเสื้อยืดของreed et al .แสดงให้เห็นถึงความต้านทานต่อการซักฟอกที่ดีกว่าในน้ําในสารละลายผงซักฟอก อย่างไรก็ตามหลังจากรอบ20รอบเปอร์เซ็นต์ของเงินที่เหลือลดลงอย่างรวดเร็วเป็น44 %