Accordingly, clinicians are encoura

Accordingly, clinicians are encouraged to record and track the patient's height and weight (BMI) before and during treatment and to encourage patients to self-monitor weight change by charting their weight.[6] Follow-up monitoring is additionally recommended at various intervals depending on the measure being evaluated. Fasting plasma glucose and blood pressure are assessed at baseline, at 3 months, and then annually, while lipids are assessed at baseline, at 3 months, and then every 5 years. If patients are at higher risk to develop DM or hypertension, more frequent monitoring is advised. Using these measures, clinicians can better assess patients' baseline status for weight (overweight defined as BMI 25–29), prediabetes (fasting plasma glucose 100–125 mg/dL) or DM (fasting plasma glucose ≥126 mg/dL), hypertension (>140/90 mmHg), or dyslipidemia to help determine their risk status and the contribution and/or causation of antipsychotic therapy.[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามลำดับ clinicians ได้บันทึก และติดตามความสูงและน้ำหนัก (BMI) ของผู้ป่วยก่อน และ ระหว่างการรักษา และส่งเสริมให้ผู้ป่วยเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก โดยน้ำหนักของพวกเขาในการสร้างแผนภูมิด้วยตนเอง [6] นอกจากนี้แนะนำการติดตามตรวจสอบในช่วงเวลาต่าง ๆ ตามวัดที่กำลังประเมิน พลาสมากลูโคสถือศีลอดและความดันโลหิตประเมินที่พื้นฐาน ที่ 3 เดือน และปี ขณะประเมินโครงการที่พื้นฐาน 3 เดือน และจากนั้นทุก 5 ปี ถ้าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อพัฒนา DM หรือความดันโลหิตสูง ตรวจสอบบ่อยกว่าจะทราบ ใช้มาตรการเหล่านี้ clinicians สามารถดีประเมินสถานะพื้นฐานผู้ป่วยน้ำหนัก (น้ำหนักเกินกำหนดเป็น BMI 25 – 29), prediabetes (ถือศีลอดพลาสมากลูโคส 100 – 125 mg/dL) หรือ DM (ถือศีลอดพลาสมากลูโคส ≥126 mg/dL), ความดันโลหิตสูง (> 140/90 mmHg), หรือไขมันในการตรวจสอบสถานะความเสี่ยง และเงินสมทบ / causation antipsychotic บำบัดได้ [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นแพทย์ได้รับการสนับสนุนในการบันทึกและติดตามความสูงของผู้ป่วยและน้ำหนัก (BMI) ก่อนและระหว่างการรักษาและการที่จะส่งเสริมให้ผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักการตรวจสอบตัวเองโดยการสร้างแผนภูมิน้ำหนักของพวกเขา. [6] การตรวจสอบติดตามจะแนะนำนอกจากนี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ ในวัดที่ถูกประเมิน การถือศีลอดน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตจะถูกประเมิน ณ พื้นฐานที่ 3 เดือนและจากนั้นเป็นประจำทุกปีในขณะที่ไขมันจะถูกประเมิน ณ พื้นฐานที่ 3 เดือนและจากนั้นทุก 5 ปี หากผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนา DM หรือความดันโลหิตสูง, การตรวจสอบบ่อยมากขึ้นแนะนำ การใช้มาตรการเหล่านี้แพทย์ที่ดีกว่าผู้ป่วยสามารถประเมินสถานะพื้นฐานสำหรับน้ำหนัก (น้ำหนักเกินที่กำหนดไว้เป็นค่าดัชนีมวลกาย 25-29) prediabetes (ถือศีลอดน้ำตาลในเลือด 100-125 mg / dL) หรือ DM (การถือศีลอดน้ำตาลในเลือด≥126 mg / dL) ความดันโลหิตสูง (> 140/90 มิลลิเมตรปรอท) หรือภาวะไขมันผิดปกติท​​ี่จะช่วยตรวจสอบสถานะความเสี่ยงของพวกเขาและการมีส่วนร่วมและ / หรือสาเหตุของการบำบัดรักษาโรคจิต. [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้นแพทย์จะสนับสนุนให้มีการบันทึกและติดตามความสูงของผู้ป่วยและน้ำหนัก ( BMI ) ก่อนและระหว่างการรักษา และเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยเพื่อตรวจสอบน้ำหนักเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการสร้างแผนภูมิน้ำหนักของพวกเขา . [ 6 ] ติดตามตรวจสอบ นอกจากนี้แนะนำในช่วงเวลาต่าง ๆขึ้นอยู่กับมาตรการที่ถูกประเมิน การอดอาหารระดับน้ำตาลและความดันจะถูกประเมินที่พื้นฐาน3 เดือน และต่อปี ในขณะที่ไขมันจะถูกประเมินที่ระยะ 3 เดือน และทุก ๆ 5 ปี ถ้าผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ติดตามบ่อย คือควร การใช้มาตรการเหล่านี้ แพทย์สามารถประเมินสถานะพื้นฐานของผู้ป่วยดีขึ้นน้ำหนัก ( BMI อ้วน เช่น 25 – 29 )กลุ่มเสี่ยง ( ระดับน้ำตาล 100 และ 125 มก. / ดล. ) หรือโรคเบาหวาน ( ระดับน้ำตาล≥ 126 มก. / ดล. ) ความดันโลหิตสูง ( 140 / 90 มิลลิเมตรปรอท ) หรือพลวัตเพื่อช่วยในการตรวจสอบสถานะของความเสี่ยง และ สนับสนุน และ / หรือสาเหตุของเหี้ยนเตียน [ 6 ]