Medieval legal history Thailand fro

Medieval legal history Thailand from Ayutthaya to early Rattanakosin period. Ayutthaya law looks at the religion, The law is the same thing as religion. Ayutthaya is a absolute monarchy regime. The role of the ruler of the land based on the belief in the doctrine Thewarat. Derive from Cambodia, which has been influenced by Hinduism.
I don’t like the punishment of Ayutthaya because of the horrible horrible punishment. A sadist and very savage. In those days, the people were afraid to make mistakes. In the Ayutthaya period, There is no penalty of imprisonment. But There are severe penalties to seal the death penalty, the war God AI TEM krabot.
How will highlight the torture death of a shocker to hear. Whether pouring boiling oil head until dead. A knife and an ax cut through the entrails of the chest is dead. A large hook on a loose meat gradual death took a sharp knife slice the meat off the skin gradually die out gradually spear pierced to death and then burned or buried half the upper tortured until death. Which suffer a penalty in those days.It is judged by a different away. For example, if one burnt house It is being executed by a cloth wrapped around them and set fire to the oil well. Like me, etc. And the importance of the death penalty in all its forms, it will be done in the presence of blatant many locals. To make people afraid and have a mouth stuffed with ripe coconuts in the event of improper use by the royal word.
Currently, the law of Thailand has canceled a brutal punishment. Cruelty and killing a lack of ethics. This barbaric punishment that makes Westerners nest Greer and makes the point that in the law in that era no progress.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์กฎหมายไทยตั้งแต่ยุคอยุธยาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น กฎหมายอยุธยาลักษณะที่ศาสนากฎหมายเป็นสิ่งเดียวกับศาสนา อยุธยาเป็นระบอบการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ บทบาทของผู้ปกครองของแผ่นดินตามความเชื่อในหลักคำสอนที่เทวราช เป็นผลมาจากประเทศกัมพูชาซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาฮินดู.
ฉันไม่ชอบการลงโทษอยุธยาเพราะการลงโทษที่น่ากลัวน่ากลัว ซาดิสม์และดุร้ายมาก ในวันนั้นผู้คนก็กลัวที่จะทำผิด ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีโทษจำคุกไม่ แต่มีบทลงโทษที่รุนแรงในการปิดผนึกโทษประหารชีวิตสงครามพระเจ้า AI TEM krabot ได้.
วิธีจะเน้นการตายทรมานขนลุกที่จะได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นเทหัวน้ำมันเดือดจนตาย มีดและขวานตัดผ่านอวัยวะภายในของหน้าอกตาย เบ็ดขนาดใหญ่บนเนื้อหลวมตายค่อยๆเอามีดคมเชือดเนื้อออกจากผิวหนังค่อยๆตายออกค่อยๆหอกแทงจนตายแล้วเผาหรือฝังอยู่ครึ่งบนถูกทรมานจนตาย ซึ่งประสบโทษใน days.It เหล่านั้นตัดสินโดยที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นถ้าหนึ่งเผาบ้านมันจะถูกดำเนินการโดยใช้ผ้าพันรอบพวกเขาและจุดไฟเผาน้ำมันได้เป็นอย่างดี เช่นฉัน ฯลฯ และความสำคัญของโทษประหารชีวิตในทุกรูปแบบที่จะทำได้ในการปรากฏตัวของชาวบ้านหลายคนมี่ ที่จะทำให้คนกลัวและมีปากอัดแน่นไปด้วยมะพร้าวสุกในกรณีที่มีการใช้งานที่ไม่เหมาะสมโดยคำว่าพระราช.
ปัจจุบันกฎหมายไทยได้ยกเลิกการลงโทษที่โหดร้าย ทารุณกรรมและฆ่าขาดจริยธรรม ซึ่งการลงโทษที่ป่าเถื่อนที่ทำให้ชาวตะวันตกรังเกรียร์และทำให้จุดที่ในกฎหมายในยุคนั้นไม่มีความคืบหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยุคกฎหมายไทย จากประวัติศาสตร์อยุธยาสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ดูที่ อยุธยา กฎหมาย ศาสนา กฎหมาย ก็เหมือนกับศาสนา พระนครศรีอยุธยา เป็น ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ . บทบาทของผู้ปกครองแผ่นดิน ตามความเชื่อในลัทธิเทวราช . สืบทอดมาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดู .
ฉันไม่ชอบการลงโทษของอยุธยา เพราะการลงโทษที่น่ากลัวสยดสยอง ซาดิสมาก ซาวาจ ในวันเหล่านั้น ผู้คนกลัวที่จะทำผิดพลาด ในสมัยอยุธยา มีโทษจำคุก . แต่ก็มีโทษรุนแรงเพื่อประทับตราโทษประหาร สงครามพระเจ้าไอเท็ม krabot .
แล้วจะเน้นทรมานตายตกใจที่ได้ยินไม่ว่าจะเดือดเทน้ำมันหัวจนตาย มีดและขวานตัดผ่านอวัยวะภายในของหน้าอกตาย ตะขอขนาดใหญ่บนเนื้อหลวมค่อยๆตายเอาคมมีดแล่เนื้อออกจากผิวค่อยๆตายออก ค่อยๆ หอกแทงตาย แล้วเผา หรือ ฝังครึ่งบนที่ถูกทรมานจนตาย ซึ่งประสบการลงโทษในวันเหล่านั้น มันถูกตัดสินโดยแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นถ้าเผาบ้านมันถูกดำเนินการโดยผ้าห่อรอบพวกเขาและเผาน้ำมันดี เหมือนผม ฯลฯ และความสำคัญของโทษประหารในทุกรูปแบบ จะกระทำต่อหน้ามี่หลายท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนกลัวและมีปากยัดไส้สุก มะพร้าว ในกรณีที่ใช้ไม่ถูกต้อง โดยคําหลวง
ในปัจจุบันกฎหมายไทยได้ยกเลิกการลงโทษที่โหดร้าย ความโหดร้ายและการขาดจริยธรรม การลงโทษที่ป่าเถื่อนนี้ทำให้ชาวตะวันตกรังเกรีย และทำให้จุดที่ในกฎหมายในยุคนั้นไม่มีความคืบหน้า